MICHELIN Energy XM2+ ยางรถยนต์สำหรับเก๋ง เหนียว นุ่ม เงียบ
มิชลิน ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก เผยโฉมผลิตภัณฑ์ยางรุ่นล่าสุด 'มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+' (MICHELIN Energy XM2+) ที่มาพร้อมสโลแกน "มั่นใจ...ทุกเวลา ด้วยพลังเบรก MICHELIN Energy XM2+" (Your Stopping Super-power) เจาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดเล็กและอีโค่คาร์
ซึ่งยางรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดเล็กและอีโค่คาร์โดยเฉพาะ โดยมีศักยภาพเหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งยังให้ความปลอดภัยเป็นเยี่ยมทั้งเมื่ออยู่ในสภาพใหม่และแม้ยางใกล้หมดดอก
นายเอกชัย คหการบำรุง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C เปิดเผยว่า “ยางมิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ มีพัฒนาการทางสมรรถนะหลายด้านที่เหนือกว่า ‘มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2’ ซึ่งเป็นยางรุ่นก่อนหน้าที่ครองความเป็นผู้นำในตลาดยางสำหรับลูกค้าทั่วไป หรือ Mass Market อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 8 ปีเต็ม
สำหรับยางรุ่นล่าสุดนี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม และการใช้งานที่ยาวนานกว่าแม้ยางใกล้หมดดอก โดยให้ความมั่นใจในประสิทธิภาพการเบรกเต็มเปี่ยมจนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางครั้งต่อไป แคมเปญโฆษณาจึงเน้นจุดเด่นด้านพลังเบรกของยางรุ่นนี้ที่ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจและปลอดภัยทุกครั้งที่ขับขี่”
ทดสอบยาง "มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+"
การทดสอบจะมีทั้งหมด 3 สถานี สถานีแรกที่เราทำการทดสอบโดยให้อินสตักเตอร์ได้ทดสอบขับด้วยยางเดิมติดรถของคู่แข่ง 3 ยี่ห้อ และนำมาเทียบกับ มิช ลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ กับการวิ่งบนพื้นถนนจำลองความลื่นและการยึดเกาะถนน
จากผลการทดสอบประสิทธิภาพการเบรกบนพื้นถนนเปียกที่ความเร็วในการขับขี่ 0 – 80กม/ชม. โดยติดตั้งยางขนาด 205/55 R16 ให้กับรถทดสอบ ระยะการเบรคจากความเร็ว 80 เท่าๆ กัน แต่รถที่ใส่ยาง มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ กลับให้ระยะการเบรคที่สั้น และหยุดรถได้ดีกว่า โดยห่างกันอยู่ที่ประมาณ 1.5-2.6 เมตร โดยเฉลี่ย
สถานีที่ 2 ทดสอบความนุ่ม เงียบของยาง โดยมีรถทดสอบ 2 ประเภท คือรถที่ติดยางคู่แข่ง และรถที่ใช้ยางมิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ ผลการทดลองก็เป็นไปตามคาด ด้วยนวัตกรรมใหม่ของยาง XM2+ ที่นอกจากเนื้อยางที่มีโมเลกุลเนื้อสัมผัสที่มากขึ้นบวกกับความเหนียว และหน้ายางที่ออกแบบมาใหม่ ทำให้ความรู้สึกในห้องโดยสารเมื่อผ่านลูกระนาด ไม่ค่อยสะเทือน ทั้งนุ่ม และเงียบ
สถานี่ที่ 3 การทดสอบแบบสลาลม โดยการให้รถขับซิกแซกตามกรวยที่ตั้ทดสอบประสิทธิภาพของการยึดเกาะถนน โดยเปรียบเทียบยางคู่แข่งและยางมิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+ ผลปรากฎยางมิชลีน XM2+ ให้การยึดเกาะ และเข้าโค้งได้แม่นยำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ และการใช้งานของแต่ละบุคคลเป็นต้น
สรุป
ด้วยนวัตกรรมเนื้อยางผสมซิลิกาสูตรใหม่ (Full-Silica Rubber Compound) ส่งผลให้ยาง ‘มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+’ มีค่าเฉลี่ยระยะเบรกบนถนนเปียกสั้นกว่ายางแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ* อยู่ที่ 1.5 เมตร เมื่อเทียบระหว่างยางสภาพใหม่ด้วยกัน และ 2.6 เมตร เมื่อเทียบระหว่างอย่างใกล้หมดดอก อีกทั้งยังรองรับระยะทางการขับขี่มากกว่ายางแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ** ถึงร้อยละ 25
สำหรับสัญลักษณ์บวก (+) บนแก้มยางบอกให้ทราบถึงการเสริมสูตรเนื้อยางใหม่ที่ส่งผลให้ยาง ‘มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+’ มีประสิทธิภาพเหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้าทั้งด้านสมรรถนะการเบรก อายุการใช้งาน และสมรรถนะที่ยาวนานกว่า นอกจากนี้ ยังคงสัญลักษณ์ Green X เอาไว้แบบเดียวกับยางรุ่นก่อนหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นยางที่มีคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงาน การผสานคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่าพร้อมกับให้ความมั่นใจได้ยาวนานกว่าและความคุ้มค่าสมราคา
ในประเทศไทย ยาง ‘มิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็ม 2+’ มีวางจำหน่ายแล้วรวมทั้งสิ้น 36 ขนาด (ขอบ 14-16 นิ้ว) ราคาเรื่มต้นที่เส้นละ 2,290 บาท ณ เครือข่ายศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ‘ไทร์พลัส’ และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่วประเทศ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.michelin.co.th หรือ MICHELIN Hotline 02 700 3993