อันตรายที่ทำร้าย ?สีรถ? โดยไม่รู้ตัว!
กำลังจะล้างๆ รถอยู่ดีๆ เอ๊ะ! ทำไมรอยตรงนี้มันขัดๆ ถูๆ เท่าไหร่ก็ไม่ออก!
หลายเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันสามารถทำร้ายสีรถ โดยที่ใครหลายๆ คนไม่ได้ทันระวัง แต่คุณสามารถป้องกันสิ่งสกปรก ที่เป็นต้นเหตุของคราบสกปรกติดทนนานบนสีรถของคุณได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ทำความสะอาดรอยเปื้อนคราบสกปรกและคราบโคลน อย่างถูกต้องและทันท่วงที ซึ่งแนะนำเป็น 6 วิธีดังนี้
1. แมลงที่บินมาชนรถ
แมลงตัวนั้น ตัวนี้ มีเยอะมากมาย ... ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับสีรถได้ เพราะแมลงมีฤทธิ์เป็นกรด หากทำความสะอาดพื้นผิวรถไม่ถูกต้อง คราบจากแมลงที่บินมาชนรถจะกัดสีรถ ฉะนั้นอย่าทิ้งคราบแมลงบนรถนานจนเกินไป เพราะจะทำความสะอาดยากยิ่งขึ้น หากคุณทำความสะอาดทันที เพียงใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับขจัดรอยน้ำมันและคราบแมลง ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มๆ และออกแรงขัดอีกเล็กน้อยก็สามารถขจัดคราบแมลงได้ง่ายๆ
2. คราบน้ำมัน
การเติมน้ำมันจนเกือบล้นเป็นการเพิ่มโอกาสให้น้ำมันล้นจนหกออกมาเปื้อนรถ หากทิ้งคราบน้ำมันสกปรกไว้เป็นระยะเวลานาน โดยไม่เช็ดทำความสะอาด รอยน้ำมันสามารถซึมเปื้อนลงสู่สีเคลือบชั้นบนสุด และทำให้สูญเสียความแวววาว และทิ้งคราบที่ยากต่อการทำความสะอาด ฉะนั้นหากน้ำมันหกเปื้อน ก็ควรทำความสะอาดทันที ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพดี และสามารถใช้สเปรย์เพิ่มความเงางามปิดท้าย
3. ขี้นก
ต้องบอกว่าอาหารของนกมีทั้งเมล็ดพืชจนถึงเม็ดกรวด ซึ่งสามารถทิ้งคราบที่มีฤทธิ์เป็นกรด ผนวกกับเมล็ดขนาดเล็กที่สามารถทิ้งคราบและรอยขีดข่วนบนรถจนความแวววาวหายไป หากทิ้งคราบไว้นานจนเกินไป จึงแนะนำให้พ่นสเปรย์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงไปเล็กน้อยบนรอยขี้นก ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ขจัดคราบสกปรก โดยค่อยๆ ใช้ผ้าแตะออกเบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กรวดเล็กๆ จากขี้นกถูกลากไปมาบนสีรถ
4. รอยนิ้วมือ
มันต้องมีบ้างแหละที่เราเผลอสนุกไปขีดเขียนข้อความขำขันด้วยนิ้วมือ หรือวาดตัวการ์ตูนสุดขำขันลงบนรถสกปรกมาก่อน ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จริงๆอาจไม่สนุกเลย เพราะการลากนิ้วมือไปบนสีรถนั้น เปรียบเสมือนการลากกระดาษทรายที่ค่อยๆ บดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกลงบนสีรถ และทิ้งร่องรอยขจัดยากหลังจากสิ่งสกปรกเหล่านั้นได้หมดไป
ฉะนั้นไม่ควรไปยุ่งกับคราบสกปรกนั้น หรือทางที่ดีควรใช้แปรงปัดฝุ่นบนรถคุณทุกวัน เพื่อป้องกันการขัดถูที่ไม่คาดคิด ในกรณีที่ต้องการขจัดรอยขีดข่วนเล็กๆ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความเงางามได้ แต่ต้องทำความสะอาดรถก่อนการขัดเงา
5. ขี้เถ้าและคราบฝุ่น
อากาศที่ขุ่นมัวสามารถทิ้งชั้นฝุ่นและเขม่าดำบนรถ แม้ว่าใครหลายๆ คนจะทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำ แต่เมื่อน้ำมาเจอกับฝุ่นจะทำให้เกิดรอยด่างที่เด่นชัด ทั้งยังทำร้ายสีบนรถคุณ แต่ทำได้คือคลุมรถหากจอดไว้ข้างนอก วิธีขจัดคราบฝุ่นออก เพียงใช้แปรงปัดฝุ่นปัดออกเบาๆ
6. อุปกรณ์ล้างรถที่สกปรก
ไม่ว่าจะล้างรถบ่อยแค่ไหน หากล้างรถโดยใช้อุปกรณ์ล้างรถที่สกปรก ก็สามารถทำลายสีบนรถได้อย่างถาวร เช่น ผ้าร่วงลงพื้น ที่จะทำให้ก้อนหินก้อนกรวดเล็กๆ ทรายและสิ่งสกปรกติดขึ้นมาด้วย หากยังใช้อุปกรณ์ล้างรถชิ้นนั้นไปเรื่อยๆ อาจทิ้งรอยหมุนวนและรอยขีดข่วนบนรถได้
ฉะนั้น หากทำผ้าหรือฟองน้ำร่วงลงพื้น ควรเปลี่ยนไปใช้อันใหม่จะดีกว่า โดยควรสำรองผ้าทำความสะอาดรถไว้ใกล้มือสักหนึ่งถึงสองอัน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ล้างรถที่สกปรกและทิ้งรอยขีดข่วนจนต้องทาสีใหม่ในที่สุด ถ้าคุณสามารถนำรถไปใช้บริการการล้างรถแบบ Touchless Wash นั้นก็นับเป็นเรื่องที่ดีกว่า ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการสัมผัสจากชิ้นส่วนสกปรกและก้อนกรวดขนาดเล็กกับสีของรถ