MITSUBISHI PAJERO SPORT หรูหรา นุ่มนวล ทรงพลัง
มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ รถอเนกประสงค์ปรับโฉมทั้งคันจนตะลึงวงการ PPV ด้วยเครื่องยนต์คลีนดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โหมด - On demand ลงตัวด้วยรูปทรงพลิ้วไหวแบบสปอร์ตแฝงความบึกบึน ภายในหรูล้ำสมัย พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบป้องกันการพุ่งชนสิ่งกีดขวาง มาพร้อมราคาสุดช็อค! เพียง 1,469,000 บาทเท่านั้น
(ปรับราคาใหม่ช่วงปี 59) ทีมงานเช็คราคา.คอม / CarGuRuthailand / MotorbikeThailand ได้ร่วมทดสอบมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่ รวม 2 รุ่น จากทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ในเส้นทางกรุงเทพฯ - เพชรบูรณ์ เส้นทางทดสอบเริ่มจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มุ่งหน้าถนนพหลโยธิน - สระบุรี - เข้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ และสิ้นสุดที่บลูสกายรีสอร์ท จ.เพชรบูรณ์ และขากลับย้อนเส้นทางเดิม รวมระยะทาง 770.3 กิโลเมตร
ภายนอกและภายในมิตซูบิชิ ปาเจโร่ใหม่
มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ทิ้งคราบเดิมเพิ่มความพลิ้วไหว ผสานหน้าตาความเป็นสปอร์ตด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ ไบ-ซีนอน สูง-ต่ำ และเดย์ไลท์ LED แบบเส้นแนวยาว (เว้นรุ่น GLS เป็นหลอดฮาโลเจน) กันชนหน้าขนาดใหญ่ลวดลายสปอร์ตมากขึ้น พร้อมไฟตัดหมอก
ส่วนท้ายโดดเด่นด้วยไฟแนวตั้งยาวแบบ LED ฝากระโปรงท้ายทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว ครบๆ ไม่ต้องเปลี่ยนยังได้เลยครับ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมแพดเดิ้ลชิฟ
จอดูหนังสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
มุมเทคโนโลยีเกินคุ้มรวมอยู่ตรงนี้
ภายในปรับเปลี่ยนใหม่เกือบหมด หรูหรามากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า คอนโซลหน้าทรงสูงขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม มาตรวัดพร้อมจอแสดงผล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันครบทุกการควบคุมและการสั่งการบนพวงมาลัยสะดวกดีจริงๆ ครับ
เบาะตอนหลังนั่งสบายเหมือนโซฟาที่บ้าน
เบาะแถว 3 เล็กไปสักหน่อยพอนั่งระยะทางสั้นๆ ได้
เบาะนั่งหุ้มหนังสำหรับรุ่น GT ขึ้นไป นุ่มและกว้างนั่งสบายโอบกระชับลำตัวได้ดี แม้เวลาเข้าโค้ง ส่วนเบาะตอนกลางพับได้ 60:40 นั่งสบายราวกับโซฟา และเบาะแถวหลังสุดคับแคบไปนิด คนตัวใหญ่สูงกว่า 170 ซม. ขึ้นไปอาจเมื่อยล้าได้ น่าจะเหมาะกับเด็กๆ หรือคนตัวไม่สูงมากนัก นับว่าเป็นปกติของรถอเนกประสงค์ระดับนี้ที่นั่งแถวหลังมักมีพื้นที่น้อย อาจเพราะเน้นขนสัมภาระมากกว่า ซึ่งก็คงความสะดวกด้วยการพับแบนราบเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น
ระบบเครื่องเสียงมีระบบเชื่อมต่อมาให้ครบ
ปุ่มเปิด-ปิดชุดแอร์หลัง
ผู้โดยสารตอนหลังสามารถควบคุมเครื่องเล่นหนังและแอร์หลังได้
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา และมีช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลังครบถ้วน พร้อมสวิตช์ควบคุมเพิ่มมาให้ตรงเพดานให้ผู้โดยสารปรับความแรงลมได้เอง
ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ในรุ่น GT-Premium 4WD
ปาเจโร่รุ่น GT 2WD และรุ่นล่างสุด GLS-LTD ก็มีปุ่มเบรกมือไฟฟ้ามาให้ด้วยครับ
ตรงคอนโซลกลางในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมีปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นการขับเคลื่อน 2 ล้อ, 4 ล้อ และโหมดการขับเคลื่อนรูปแบบต่างๆ มาให้ ส่วนรุ่นที่ทีมงานเช็คราคา.คอมขับทดสอบเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง จึงมีเพียงสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า ส่วนการทำงานก็เพียงดึงขึ้นรอจนไฟรูปเบรกสีแดงบนหน้าปัดติดค้าง แสดงว่าพร้อมใช้งาน และเมื่อปลดก็แค่เหยียบเบรกและกดปุ่มลงเท่านั้นครับ
เครื่องเสียงแบบจอสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมเนวิเกเตอร์และภาพจากกล้องมองหลัง (รุ่น GT ขึ้นไป)
เครื่องเสียงแบบจอสัมผัส 7 นิ้ว FM/AM/CD/DVD เชื่อมต่อครบทั้ง USB/AUX/Bluetooth และครั้งแรกในรถ PVV ด้วยหูฟังอินฟราเรด 2 ชุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (GT ขึ้นไป) และลำโพง 6 จุด เรียกว่าครบเกินคุ้ม แถมเสียงระดับ Hi-End ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม พร้อมจอดูหนังให้ผู้โดยสารตอนหลังบนเพดานอีกด้วย
วันแรกกรุงเทพฯ- เพชรบูรณ์ ด้วยมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต รุ่น 4X2 GT
วันแรกทีมงานเช็คราคา.คอม ได้ทดสอบ
มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต รุ่น GT ท็อปของขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ราคา 1,250,000 บาท
ในช่วงทดสอบ ตอนแรกทางทีมงานได้เป็นผู้โดยสารฝั่งข้างคนขับ สัมผัสได้ถึงความนุ่มสบายของเบาะคู่หน้าที่ปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทางเท่าๆ กับฝั่งคนขับ เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ความนุ่มนวลของเครื่องยนต์และเกียร์ 8 จังหวะทำให้แทบไม่รู้สึกถึงการปรับจังหวะ เสียงของเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบมาก การเข้าโค้งค่อนข้างนิ่ง แต่ยังพอมีอาการโยนเล็กน้อยให้รู้สึกเนื่องจากยางแก้มหนาและแรงดันเติมลมเพียง 30 PSI ตามสเปค แต่ก็ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลขึ้นอีกเยอะครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบถ้วน แต่เสียดายที่มีจุดเชื่อมต่อ USB เพียงจุดเดียวตรงบริเวณในกล่องเก็บของคอนโซลกลางเท่านั้น
เมื่อสลับมาเป็นคนขับก็ยังให้ความรู้สึกสบายจากเบาะนั่งและความนุ่มของพนักพิง กระชับแน่นลำตัวแบบไม่อึดอัด เรื่องสมรรถนะอัตราเร่งในเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 181 แรงม้า กับน้ำหนักตัว 1 ตันปลายๆ ก็ไม่ธรรมดา เพราะทำความเร็วไต่ระดับจากการออกตัวได้สนุกเท้า อาจต้องเหยียบคันเร่งลึกๆ หน่อยแต่ว่าแรงดึงมาได้ต่อเนื่องและรวดเร็ว ระบบเกียร์เปลี่ยนได้นุ่มนวลมาก แต่อาจได้อารมณ์ "หลังติดเบาะ" น้อยไปสักหน่อยเพราะอัตราทดเกียร์ค่อนข้างชิดกัน แต่ได้ความราบรื่นและนุ่มจนแทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์
ขณะเร่งแซงเพียงช่วงเวลาหนึ่ง *ไม่ควรขับเกินกฏหมายกำหนดนะครับ
เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ระบบ MIVEC วาล์วแปรผันผสานกับเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ทำให้ได้กำลังในรอบต่ำ เมื่อกดคันเร่งเทอร์โบเริ่มบูสต์รอส่งผลให้อัตราเร่งตอบสนองอย่างฉับไว มีเพียงบางจังหวะที่อาจรอบ้างในตำแหน่งเกียร์ที่มีความห่างกัน เช่น จากเกียร์ 8 มาเป็นเกียร์ 6 เป็นต้น แม้จะข้ามเกียร์หลายตำแหน่งแต่ก็ยังคงความราบรื่นเอาไว้อย่างดีครับ
ช่วงขับผ่านเส้นทางคดเคี้ยวบนไหล่เขา ปาเจโร่ใหม่ ให้ความมั่นใจในทุกโค้ง แต่ถ้าเข้าในความสูงเกินไปอาจมีอาการโยนๆ บ้าง อาจเกิดจากขนาดยางที่สูงและช่วงล่างเอาใจชีวิตคนเมืองมากขึ้น จึงถูกปรับให้นุ่มนวลและนิ่งแทบไม่มีอาการเต้นเมื่อขับผ่านเนินกระดกหรือคอสะพาน และในบางจังหวะขับผ่านถนนเป็นหลุมบ่อเล็กๆ ได้อย่างนุ่มนวลอีกด้วย
ปาเจโร่ใหม่มีความปลอดภัยที่ทันสมัยด้วยระบบเบรกอัตโนมัติ ป้องกันชนรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ นับว่าในทริปนี้ได้ใช้บ่อยในจังหวะที่ขับตามชิดท้ายต่อแถวเพื่อกลับรถ (GT 4X2 และ GLS-LTD 4X2) ส่วนระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อออกตัวนั้นรุ่นที่ทดสอบจะติดตั้งในรุ่น GT Premium ท็อปสุด ขับเคลื่อน 4 ล้อ กับระบบไฟเตือนมุมอับสายตาและระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา เป็นต้นครับ
วันที่สองเพชรบูรณ์ - กรุงเทพฯ ด้วย มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต รุ่น 4X2 GLS-LTD รุ่นล่างสุด
วันเดินทางกลับสลับรถกับผู้สื่อข่าวในกรุ๊ปเพื่อได้ทดสอบความสะดวกสบายของปาเจโร่รุ่นล่างสุด GLS-LTD 4X2 แต่ให้ความสบายเทียบเท่ารุ่นกลางๆ แตกต่างที่เบาะนั่ง, แผงประตู, ตกแต่งด้วยผ้า ตัดจอ TV ตรงเพดานกลางออกไป และเครื่องเสียงเป็นแบบ 2 DIN ธรรมดา และมีระบบเชื่อมต่อ USB/AUX มาครบ พร้อมลำโพงเสียงใสและแน่น เพียงพอในการฟังเพลงได้เพลิดเพลิน
รุ่น GLS-LTD มีปุ่มควบคุมเกือบครบขาดเพียงครูซ คอนโทรล
รุ่น GLS-LTD เครื่องเสียงแม้ไม่ใช่จอสัมผัสแต่ให้ระบบเชื่อมต่อที่เพียงพอพร้อมระบบเสียงใสและแน่น
สำหรับรุ่นล่างสุดยังให้ความสะดวกสบายที่ใกล้เคียงรุ่นสูงๆ เช่น เบรกมือไฟฟ้า, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน, ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะลากจูง เป็นต้น นับว่ารุ่น
4X2 GLS-LTD ก็คุ้มค่ามากพอแล้วที่ราคาเพียง 1,159,000 บาท เท่านั้นครับ
เครื่องยนต์ดีเซล 4N15 คอมมอนเรลเทอร์โบแปรผัน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว (MIVEC) แปรผันทั้งไอดี-ไอเสีย 2,442 ซีซี 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที พร้อมอัตโนมัติ 8 จังหวะ เหมือนกันทุกรุ่น
สำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร่ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ GT-Premium มีระบบ "Super Select 4WD II" ควบคุมโดยระบบ Torsen มี 4 รูปแบบคือ
- 2H ขับเคลื่อนล้อหลัง 100% เน้นใช้งานทั่วไป ประหยัดน้ำมัน
- 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ On demand สภาพถนนปกติ-หน้า 40% หลัง 60% สภาพถนนเปียกลื่น-หน้า 50% หลัง 50%
- 4HLc เมื่อต้องการลุยทาง Off-Road ใช้ความเร็วสูงและต้องการกำลังตะกุยแบบ หน้า 50% หลัง 50%
- 4LLc (กดปุ่มก่อนปรับ) เมื่อต้องการกำลังมากที่สุดที่ความเร็วต่ำๆ เพื่อใช้ปีนต่ายใช้ทางทุรกันดารมากๆ (ความเร็วไม่เกิน 70 กม./ชม.)
ช่วงล่างด้านแบบหน้าปีกนกสองชั้นโช้กอัพคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทรีลิงค์ ทอร์คอาร์ม คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกดิสก์พร้อมช่องระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว
ความปลอดภัยที่น่าตื่นเต้นคือ ระบบเตือนการชนหน้าตรง พร้อมชะลอความเร็ว (ตั้งแต่รุ่น GT ขึ้นไป) และครั้งแรกอีกแล้วกับรถระดับนี้กับระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็ว ป้องกันการชนกำแพงในที่จอดรถหรือรถคันข้างหน้าได้อย่างดี และยังมีระบบไฟเตือนมุมอับสายตา BSW, เบรก ABS/EBD, กุญแจ Immobilizer, ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Cruise Control กล้องมองรอบคัน และเซ็นเซอร์ถอยหลัง (รุ่น GT-Premium)
ส่วนรุ่นล่างสุด (GLS-LTD) ลดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไปบางอย่าง เช่น ระบบเบรกเอง, ระบบไฟเตือนมุมอับสายตา ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าและปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งเพียงอุปกรณ์ที่มีให้ในรุ่นนี้ก็คุ้มค่ามากแล้ว
แม้ว่ารุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลังจะไม่มีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน แต่ระบบเกียร์ที่ฉลาดบวกกับ G-sensor จะคำนวนมุมเอียงของรถและปรับอัตราทดเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งเหมาะสมเพื่อควบคุมความเร็วขณะลงเขาหรือทางชัน ซึ่งในปาเจโร่ใหม่นี้ไม่ว่าใครก็ขับขึ้น-ลงเขาได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
ทดลองลุยทางขี้โคลนเล็กๆ แต่ลื่นมาก ปาเจโร่ใหม่ผ่านสบายๆ นอกจากกการขับขี่เส้นทางปกติแล้วในทริปนี้มีโอกาสได้ลองนั่งรุ่น GT-Premium 4WD เพื่อทดสอบในทางกึ่งออฟโร้ด ซึ่งเป็นโคลนเปียกลื่นจากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ทำให้รับรู้ถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในโหมดต่างๆ อย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น หากขับถนนแห้งปกติในเมืองก็ใช้ระบบ 2H ถ้าเริ่มมีผิวถนนลื่นๆ ก็ใช้ 4H ถ้าถนนเริ่มลื่นและเป็นดินโคลนมากๆ ก็ใช้โหมด 4HLc และโหมด 4LLc ใช้เมื่อลุยป่าเขาเส้นทางโหดๆ เป็นต้นครับ
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่ - Mitsubishi Pajero Sport รถยนต์อเนกประสงค์ที่มีความพิเศษเกินคำบรรยาย โดดเด่นด้วยระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์และเบรกให้อัตโนมัติป้องกันอุบัตเหตุได้อย่างปลอดภัย ระบบไฟฟ้าเต็มคันและทันสมัยทุกรายละเอียด นุ่มนวลมากขึ้นแต่เกาะถนนได้น่าประทับใจ เครื่องยนต์แรงและประหยัดมากขึ้น
มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ มาพร้อม 3 รุ่นย่อยคือ รุ่น GT-Premium 4X4 มาพร้อมทีเด็ดด้วยราคารุ่นท็อปสุดเพียง
1,469,000 บาท , รุ่น
GT 4X2 ราคา 1,279,000 บาท และรุ่น GLS-LTD ราคา 1,159,000 บาท (ปรับราคาใหม่ช่วงปี 59)