Ford Ranger แรง... หนึบ... กว้าง... ช่วงล่างแกร่งตั้งแต่เกิด
ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ เปิดตัวไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมปรับโฉมใหม่อย่างลงตัว ด้วยรูปทรงแข็งแกร่งตั้งแต่เกิด
ทีมงานเช็คราคา.คอม / CarGuRuthailand / MotorbikeThailand ได้ร่วมทดสอบฟอร์ด เจนเจอร์ใหม่ ในเส้นทางกรุงเทพฯ - กาญจนบุรี และในช่วงทดสอบพิเศษสนามทดสอบสมรรถนะรถของทหารอีก 3 รูปแบบ ทั้งไต่ทางชันกว่า 60 องศา, ขับผ่านลูกระนาด โขดหิน และลุยน้ำลึก 60 ซม. ผ่านฉลุยไม่ต้องใช้ทักษะมากมาย พร้อมทดลองขับเส้นทางใช้งานปกติ ระหว่างวันที่ 20 - 21 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา เส้นทดสอบเริ่มจากตึกสาทรสแควร์มุ่งหน้าถนนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน - วงเวียนพระราม5 - ถนนกาญจนาภิเษก - ผ่าน อ.กำแพงแสน - เข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี - และใช้ถนนแสงชูโตเข้าสู่สถานที่ทดสอบสมรรถนะรถในพื้นที่ของทหาร - หลังจากนั้นเดินทางเข้าที่พักโรงแรมเทวมันตร์ทรา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขากลับวันที่สองย้อนเส้นทางเดิม
คาราวานฟอร์ดเรนเจอร์ครั้งนี้มีให้สื่อมวลชนได้สัมผัสถึง 18 คัน ยังไม่รวมรถของทีมงานจากฟอร์ดอีก 5 - 6 คัน ทั้งรุ่นดับเบิ้ลแค็บเกียร์อัตโนมัติ และรุ่นโอเพนแค็บ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมกับการใช้สนามทดสอบของค่ายทหาร นับว่าเป็นงานทดสอบครั้งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
ภายนอกและภายในฟอร์ดเรนเจอร์ใหม่
Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT คันที่ทีมงานเช็คราคาขับทดสอบ
จุดสังเกตง่ายๆ รุ่น 4 ประตูไฟตัดหมอกทรงเหลี่ยม ส่วน 2 ประตูมีแค็บเป็นวงกลม
ภายนอกของ
ฟอร์ดเรนเจอร์ ใหม่ ดุดันมากขึ้นเน้นสไตล์ยุโรปที่ดูบึกบึน ในรุ่น 4 ประตูตัวท็อป "Wildtrak" นั้นไฟหน้าพร้อมโปรเจ็คเตอร์ และมีเดย์ไลท์เป็นแบบไฟฮาโลเจนมากให้ ส่วนท้ายยังคงคล้ายรุ่นก่อนหน้า พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่น Hi-rider และรุ่น O
pen Cab 2.2 XLT 4X2 6 AT จะให้ล้อแม็ก 17 นิ้ว Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT
Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT
ภายในปรับเปลี่ยนใหม่เกือบหมด คอนโซลหน้าสไตล์เดียวกับในรุ่นเอเวอเรสต์ มาตรวัดมีทั้งแบบดิจิทัลในรุ่นท็อป 4 ประตู และแบบอนาล็อกในรุ่นโอเพนแค็บ แต่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ออกแบบได้ลงตัวและเหมาะสมกับคำว่า 'แกร่ง' จริงๆ ครับ
เครื่องเสียงแบบจอสัมผัสใน Ford Ranger Doubble Cab
Wildtrak เครื่องเสียงใน Ford Ranger Open Cab
ชุดเชื่อมต่อความบันเทิง คำสั่งใหม่ ซิงค์2 มาพร้อมจอสัมผัส 8 นิ้วในรุ่นท็อป 4 ประตู และรุ่น 2.2 ก็มีเครื่องเสียงแบบโมดูลที่ให้ระบบ ซิงค์ 2 มาเช่นกัน แต่เสียงลำโพงของเรนเจอร์ใหม่ ถ้าคุณเน้นระดับเข้าแข่งขันระบบเครื่องเสียงล่ะก็เดิมๆ เพราะและแน่นตึบครบทุกย่านเสียงแล้วครับ
Ford Ranger Doubble Cab Wildtrak Ford Ranger Open Cab
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันมีปุ่มครบทุกการสั่งงานจนเต็มพื้นที่บนพวงมาลัย ทั้งควบคุมเครื่องเสียง, Cruise Control, รับ/วางสายโทรศัพท์, สั่งงานจอแสดงผลบนหน้าปัด เรียกได้ว่าไม่มีกั๊กเลย
วันแรกกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ด้วย Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT
วันแรกทีมงานเช็คราคา.คอม ได้ทดสอบ
ฟอร์ด เรนเจอร์ โอเพนแค็บ รุ่น 3.2 ไวล์ดแทรค ยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ความรู้สึกแรกที่ได้รับคือ ความทันสมัย ดูแข็งแกร่งจากภายในที่ปรับปรุงใหม่หมด สวย ดูหรูและแกร่งกว่ารุ่นก่อนหน้า
อัตราเร่งนุ่มๆ แต่ดึงหน้าหงาย!
อัตราเร่งออกตัวที่เกียร์ 1 แม้ไม่เลี้ยงคลัตช์ กดคันเร่งไม่ลึกมากก็ตอบสนองได้ไว แม้จะพอจับอาการหน่วงจากคันเร่งได้บ้าง แต่ใช้เวลาไม่นานก็ไต่ระดับความเร็วขึ้นไปจนเปลี่ยนเกียร์ 2 แทบไม่ทัน และตั้งแต่เกียร์ 2 ขึ้นไปยิ่งรับรู้ถึงแรงบิดมหาศาล และความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ในเกียร์ 1 นั้นอัตราทดค่อนข้างสูงมากจึงต้องเปลี่ยนเกียร์ 2 ให้เร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นรอบเครื่องจะสูงเกินไป และทำให้หน่วงเมื่อเข้าเกียร์ 2 และช่องว่างของคันเกียร์มีน้อยมากและชิดกันพอสมควร ดังนั้นอาจต้องทำความคุ้นเคยสักพักจึงจะเข้าเกียร์ได้คล่องในทุกจังหวะครับ นอกจากนี้การเข้าเกียร์ก็มีความแข็งอยู่บ้างต้องใช้แรงขืนเล็กน้อย แต่ก็อาจเป็นข้อดีที่ช่วยในเรื่องการเข้าผิดตำแหน่งเกียร์ เพราะระหว่างตำแหน่งคันเกียร์ที่ 3 กับ 5 และ 4 กับ 6 ชิดกันมาก
อัตราเร่งมาอย่างรวดเร็วแม้รอบต่ำที่เกียร์ 6 เมื่อทดลองใช้อัตราเร่งจากความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ตำแหน่งเกียร์ 6 เรนเจอร์ใหม่สามารถเร่งไต่ระดับความเร็วได้ง่ายดาย นับว่ามีแรงบิดที่ดีมากแม้รอบต่ำๆ
ช่วงล่างในรุ่นตัวถังแบบตอนครึ่ง ส่วนท้ายมักจะเบากว่าแบบ 4 ประตู จึงทำให้ท้ายมีอาการกระเด้งกระดอนอยู่บ้างเมื่อขับผ่านถนนที่ไม่เรียบ และเมื่อเข้าโค้งพร้อมกับเจอเนินหรือคอสะพาน ท้ายจะออกอาการสะบัดเล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติของรถท้ายเบาอย่างปิคอัพ แต่โดยรวมแล้วยังเกาะถนนและสนุกในการขับเป็นอย่างมากครับ ทั้งอัตราเร่ง เกียร์ที่เข้าง่ายคล่องมือ และเสียงที่เข้ามาในรถน้อยมาก ต้องใช้ความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปถึงจะเริ่มมีเสียงจากช่องระหว่างกระจกมองข้าง นับว่าเก็บเสียงได้เงียบดีจริงๆ ครับ
พวงมาลัยไฟฟ้ารายแรกๆ ของปิคอัพในไทย!
พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มมือจับกระชับ และใช้วัสดุอย่างดี น้ำหนักพวงมาลัยขณะจอดนิ่งเบามาก... ใช้นิ้วก้อยหมุนได้สบายๆ แม้คุณผู้หญิงก็ไม่ต้องออกแรงมาก ส่วนที่ความเร็วสูงๆ กลับปรับน้ำหนักให้หนืดขึ้น ทำให้ไม่เบาหวิวเกินไปและมีความเฉียบคมทำให้ควบคุมได้แม่นยำในทุกโค้ง ระบบเบรกที่ปรับตั้งมาค่อนข้างดี นุ่มและใช้ระยะเบรกลึกในสไตล์ยุโรป เพื่อป้องกันการเบรกแรงโดยไม่ตั้งใจ และเบรกได้หนึบมาก
ทีมงานเช็คราคา.คอม ได้ทดลองนั่งเบาะทั้งตำแหน่งคนขับและข้างคนขับ เบาะคนขับกระชับสบายพร้อมปรับสูงต่ำได้ ใช้วัสดุผ้า ส่วนเบาะข้างคนขับสบายเช่นกันและมีพื้นที่เหลือรอบตัวมากไม่อึดอัด ส่วนของแค็บด้านหลังก็กว้างขว้าง เก็บของได้มาก หรือหากใส่เบาะนั่งก็ไม่แคบมากนัก แต่อาจจะไม่ปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ เพราะไม่มีเข็มขัดนิรภัย และรถลักษณะนี้มักเน้นการวางสัมภาระมากกว่าหรืออาจนั่งได้บางครั้งคราวครับ
บททดสอบความแกร่งในค่ายทหาร!
ในทริปนี้เพิ่มการทดสอบในรูปแบบสมบุกสมบันเสมือนว่าเป็นการจำลองเพื่อทดสอบสมรรถนะของยานพาหนะเพื่อใช้ในงานทางทหาร! ด้วยการทดสอบฉบับย่อ 4 ด้านย่อย โดยใช้ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิ้ลแค็บ 3.2 ไวล์ดแทรค เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีระบบ "Shift-on-the-fly" พร้อมผู้ฝึกสอนที่คอยแนะนำวิธีการขับให้ผ่านอุปสรรคได้อย่างปลอดภัย
ฐานที่ 1 สลาลมบนพื้นกรวด
ในฐานนี้จะให้ขับไปตามเส้นทางที่กำหนดด้วยกรวยยางลักษณะคล้ายการขับสลาลมไป-มา เพื่อสัมผัสระบบการควบคุมและการทรงตัวของเรนเจอร์ใหม่ ในพื้นลื่นๆ ที่มีทั้งก้อนกรวดและหิน ซึ่งใช้เพียงระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ก็เกินพอแล้ว เพราะฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ สามารถควบคุมได้ง่ายดาย เพียงใช้แค่การเดินคันเร่งให้พอเหมาะและบังคับพวงมาลัยไปตามเส้นทาง ที่เหลือปล่อยให้ระบบควบคุมการทรงตัวต่างๆ ในเรนเจอร์ดูแลต่อไป
ฐานที่ 2 ไต่ทางชันกว่า 60 องศา
ในฐานนี้จะให้ขับฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ ไต่ขึ้นทางชันระดับ 60 องศาและไปเบรกค้างไว้ตรงจุดที่ชันที่สุดของเนิน จากนั้นก็ปล่อยเท้าจากเบรกประมาณ 3 วินาที เพื่อทดสอบระบบช่วยออกตัวบนทางลานชัน (Hill Launch Assist) ซึ่งช่วยให้เปลี่ยนเท้าจากเบรกไปเหยียบคันเร่งได้อย่างสบายๆ รถไม่ไหลถอยหลังแน่นอน แต่ต้องไม่เกิน 3 วินาทีนะครับ
เมื่อถึงยอดเนินก็เลี้ยวกลับลงมาอีกฝั่งซึ่งมีความชันเพิ่มขึ้น เพื่อทดสอบระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่สามารถปรับระดับความเร็วได้ที่ปุ่มเดียวกับ Cruise Control นับว่าไฮเทคมากๆ
ฐานที่ 3 ลุยทาง Off-Road โขดหินยักษ์
ในช่วงนี้ในขับฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ ลุยเข้าถนนที่ไม่ใช่ถนน! ซึ่งผิวทางมีแต่ก้อนหินขนาดใหญ่พอควร เพื่อให้ทดสอบความแกร่งของช่วงล่าง โดยใช้โหมดการขับแบบ 4L และแทบไม่ต้องเพิ่มแรงที่คันเร่งเลย รถสามารถไหลไปได้เรื่อยๆ ด้วย "Walker Speed" และค่อยๆ ลองเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกเล็กน้อย พบว่า กระเทือนน้อยลงกว่าช่วงที่ขับช้าๆ และรับรู้ถึงการซับแรงกระแทกของช่วงล่างที่ดี
ต่อเนื่องด้วยเนินลูกระนาดขนาดใหญ่มาก โดยใช้โหมด 4L และใช้เพียงการเดินคันเร่งแผ่วๆ เท่านั้น ฟอร์ดเรนเจอร์ก็สามารถผ่านไปได้อย่างนุ่มนวล
ฐานที่ 3 แช่น้ำคลายร้อน ลึกกว่า 60 ซม.
ฐานสุดท้ายเป็นการขับฟอร์ดเรนเจอร์ใหม่ลงในบ่อน้ำลึกระดับ 60 ซม. เพื่อทดสอบมุมไต่หน้าและหลังของตัวรถและการทดสอบเมื่อต้องเจออุปสรรคเป็นบ่อน้ำ ซึ่งในจุดนี้ใช้โหมด 4L และปล่อยให้รถไหลไปตามรอบเดินเบา ซึ่งก็ผ่านไปได้แบบชิวๆ เลยครับ
สำหรับโหมดรูปแบบการขับขี่สามารถเปลี่ยนจากขับเคลื่อน 2H เป็น 4H และกลับเป็น 2H ได้โดยไม่ต้องจอดรถ หรือระบบ "Shift-on-the-fly" นั่นเอง แต่ถ้าจะปรับเป็นจาก 4H ไปที่ 4L ต้องจอดรถให้สนิทโดยจะมีไฟเตือนแสดงสถานะในแต่ละโหมดบนมาตรวัด
วันที่สองกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ ด้วย Ford Ranger Open Cab 2.2 XLT 4X2 AT
วันที่สองได้ลองของกับ
ฟอร์ดเรนเจอร์ โอเพนแค็บ 2.2 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง บอกได้คำเดียวว่า 2.2 ลิตรก็พอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วครับ! แม้จะเป็นเกียร์อัตโนมัติ แต่อัตราเร่งจัดจ้านไม่น้อย คันเร่งตอบสนองได้ไวมาก ด้วยกำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตัน-เมตร นับว่าใช้งานได้ครบทุกด้าน แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย
ช่วงล่างคล้ายๆ กับรุ่น 3.2 ลิตร ที่ได้ขับในวันแรก การเข้าโค้งค่อนข้างหนึบ แต่ก็ควรระวังหากเจอผิวถนนเป็นลอนคลื่นอาจมีอาการสะบัดได้บ้าง การตอบสนองนั้นเปรียบเทียบกันค่อนข้างยาก เพราะเครื่องยนต์และระบบเกียร์แตกต่างกัน แต่อัตราเร่งในรุ่นเกียร์ธรรมดาเครื่องแค่ 2.2 กลับขับได้เนียนกว่า และควบคุมง่าย บวกกับความสะดวก สรุปว่าถ้าไม่ใช้งานหนักเช่น บรรทุกของหลายตัน, ลากจุงรถพ่วงและขับขึ้นเขาทางชันมากๆ ฟอร์ด เรนเจอร์ 2.2 ลิตร สบายๆ ใช้ได้ทุกสภาวะ
Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT (รุ่นที่ขับทดสอบ)
เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนแรลเทอร์โบแปรผัน 5 สูบ 20 วาล์ว DOHC 3,198 ซีซี 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร พร้อม เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ "Shift-on-the-fly"
Ford Ranger 2.2 XLT AT 4X2 (รุ่นที่ขับทดสอบ)
เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนแรลเทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ความจุ 2,198 ซีซี 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 2 ล้อ
ช่วงล่างทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์เป็นแบบหน้าปีกนกสองชั้นโช้กอัพคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแหนบพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม นับเป็นปิคอัพรุ่นแรกๆ ที่ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPAS พร้อมปรับน้ำหนักตามความเร็ว
ความปลอดภัยในรุ่นที่ขับทดสอบทั้ง
Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT และ
Ford Ranger Open Cab 2.2 XLT 4X2 6 AT เพียงระบบพวงมาลัยที่ปรับน้ำหนักได้ก็นับว่าช่วยในการควบคุมได้มาก และยังมีเบรก ABS/EBD กุญแจ Immobilizer, ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Cruise Control และเซ็นเซอร์ถอยหลัง เป็นต้น
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้สารพัดรูปแบบ หลากหลายสภาพถนน มาพร้อมความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยที่เลยมาตรฐานไปไกลลิบ! รุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ตอบสนองได้ดี ส่วนรุ่น 2.2 ลิตรที่ประหยัดขึ้น กำลังเพิ่มขึ้นนับว่าแค่นี้ก็เกินพอต่อการใช้งานแล้ว ยังไม่หมดครับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะเปลี่ยนโหมดได้ทันใจแบบ "Shift-on-the-fly" และช่วงล่างที่เกาะถนน ทั้งหมดนี้จ่ายเพียง
859,000 บาท สำหรับ Ford Ranger Open Cab 3.2 XLT 4X4 6 MT และ
789,000 บาท สำหรับ Ford Ranger Open Cab 2.2 XLT 4X2 6 AT เท่านั้น