รีวิว Mini Cooper S แฮตช์แบ็ก 3 ประตู แรงสุดของรุ่น

มินิ คูเปอร์ เอส ใหม่ นับเป็นเจเนอเรชั่น 3 มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด สวยงามลงตัวทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้รหัส เอส บ่งบอกถึงหัวใจมอเตอร์สปอร์ตของผู้ขับ ที่เน้นความสนุกในการขับอย่างจริงจัง

ย้อนไปในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง มินิ คูเปอร์ เอส เริ่มต้นกับเครื่องยนต์พลังซูเปอร์ชาร์จความจุ 1.6 ลิตร จากนั้นปี 2006 มีการนำเทอร์โบเข้ามาปั่นพลังแทน ส่วนคูเปอร์ เอส รุ่นใหม่ล่าสุดจะขับสนุกขึ้น และสร้างความประทับใจให้กับเราได้แค่ไหน ทีมงานเช็คราคา.คอม ได้นำรุ่น 3 ประตู ไปขับทดสอบ ผลจะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ

การขับในเมืองได้วิ่งเน้นพื้นที่เขตเพลินจิตเป็นหลัก  พร้อมวิ่งสลับเขตดอนเมือง และเขตพระนคร ส่วนการขับนอกเมืองใช้เส้นทางกรุงเทพฯ - สระบุรี โดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพจากกรุงเทพฯ เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรี ได้ตัดเข้าถนนอดิเรกสาร ซึ่งขนานกับแม่น้ำป่าสัก และถนนมิตรภาพ ไปตัดออกผ่านสะพานบ้านป่า-บ้านธาตุ สู่ทางหลวงหมายเลข 3223 สู่อำเภอแก่งคอย ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งและมีทางขึ้น-ลงเขาสลับบ้าง

ใครที่คิดว่า มินิ ในมือบีเอ็มดับเบิ้ลยู ถูกปรับโฉมให้ดูแตกต่างไปจากเดิมคงคิดผิด เพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูผิวเผินแทบแยกไม่ออกจากรุ่นก่อนหน้า เมื่อเปรียบเทียบกับ มินิ ต้นกำเนิดของท่านเซอร์ Alex Issigonis เมื่อปี 1969 เค้าโครงภายนอกแทบไม่ถูกปรับอะไรมาก

มินิ คูเปอร์ ใหม่รุ่นนี้ มีสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นทุกมิติ แม้สังเกตยากแต่ตัวเลขบอกกับเราว่ามันยาวขึ้น 98 มม. กว้างขึ้น 44 มม. และสูงขึ้น 7 มม. เมื่อเทียบกับตัวเก่า

ภายนอกปรับใหม่หมด ไฟหน้าและไฟเลี้ยวเป็นแอลอีดี พร้อมไฟเสริมส่องทางในมุมอับด้านหน้าเมื่อเลี้ยว และไฟตัดหมอกก็เป็นแอลอีดีด้วย (เฉพาะ Cooper S) ด้านกระจังหน้าใหญ่ขึ้นเน้นรับอากาศเข้าได้มากขึ้น  พร้อมโครงสร้างภายในแบบรังผึ้งพร้อมสัญลักษณ์ S ที่มุมขวา ให้อารมณ์สปอร์ตรับความแรงของเวอร์ชั่น เอส ด้านหลังโดดเด่นด้วยไฟท้ายดีไซน์ ใหม่ กันชนด้านล่างมีช่องระบายอากาศเต็มกันชนครึ่งล่าง พร้อมติดตั้งไฟตัดหมอกที่มุมซ้าย-ขวา ตรงกลางเว้าขึ้นรับกับท่อไอเสียปลายคู่

ภายในปรับปรุงใหม่อย่างน่าประทับใจ ทุกตำแหน่งให้ประสิทธิภาพในการใช้งานได้เหมาะสม การออกแบบมาตรวัดความเร็วแบบลอยตัว ให้อารมณ์เสมือนซูเปอร์ไบค์ และเก๋ไก๋ด้วยระดับน้ำมันเป็นแนวช่องไฟที่ด้านข้าง ซึ่งข้อดีก็คือ มองแล้วอ่านง่าย เพราะตำแหน่งอยู่ในระดับสายตาพอดี แต่การปรับเปลี่ยนรูปแบบของการบอกระดับน้ำมันอาจทำให้เกิดเผอเรอขับสนุกจนเพลินไม่ทันระวัง

สวิตช์กระจกไฟฟ้าและล็อคประตู วางตำแหน่งข้างแผงประตู ให้ความสะดวกใช้การใช้งานใกล้มือ โดยแทบไม่ต้องละสายตามองนาน เหมือนตรงคอนโซลกลาง ตำแหน่งแผงควบคุมแอร์อัตโนมัติใช้งานง่ายด้วยพิมพ์นิยมแบบ 3 ตำแหน่งมือหมุน ส่วนพวงมาลัยทรง 3 ก้าน พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชัน มีขนาดกำลังพอมือ วัสดุหนังห่อหุ้มให้ความรู้สึกดีและกระชับ จับแล้วให้อารมณ์สปอร์ต

ภายในปรับให้มีพื้นที่มากขึ้น แต่สไตล์ มินิ อย่างไรก็เหมาะกับการขับไปเดี่ยวหรือคู่เป็นหลักมากกว่า อย่างไรก็ตามเบาะด้านหลังเข้าออกไม่ยาก แม้ต้องปรับเบาะหน้าให้โน้มไปทางด้านหน้า ผู้ใหญ่ 2 คน ยังสามารถนั่งได้สบายไม่เบียด

ส่วนพื้นทีเก็บสัมภาระใต้กระโปรงด้านหลังก็ยังไม่ใหญ่พอที่จะใส่ของชิ้นโตอยู่ดี การเข้า-ออก ตัวรถ ด้วยประตูบานกว้างสไตล์แฮตช์แบ็ก พบว่าสามารถลุกเข้า-ออกได้ง่าย ส่วนที่นั่งด้านหลัง เพียงปรับเบาะโน้มคนขับหรือคนนั่งข้างโน้มมาข้างหน้าก็ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

หัวข้อ	มินิ คูเปอร์	มินิ คูเปอร์ ดี	มินิ คูเปอร์ เอส
สเปกเครื่องยนต์	3/4	3/4	4/4
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี)	1,499 ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ	1,499 ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ	1,998 ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ
ระบบเกียร์	อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม สเตปทรอนิค
กำลังสูงสุด (HP)	136 ที่ 4,500-6,500 รอบ/นาที	116 ที่ 4,000 รอบ/นาที	192 ที่ 4,700-6,500 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด (Nm)	220 ที่ 1,250 รอบ/นาที	270 ที่ 1,750 รอบ/นาที	280 ที่ 1,250 รอบ/นาที (Overboost Function)
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.)	210	204	233
0-100 กม./ชม. (วินาที)	7.8	9.2	6.7
เชื้อเพลิง	ใช้ได้ถึง E20	ใช้ได้ถึง B7	ใช้ได้ถึง E20

เครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ แรงม้าฝรั่งตัวโตเฉียด 200 ตัว ด้วยตัวเลขที่เคลมไว้ 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.7 วินาที กับความเร็วสูงสุดทำได้ 233 กม./ชม. อาจเป็นสิ่งที่บอกได้ถึงขอบเขตความแรงของคูเปอร์ เอส แต่เราได้ลองโหมดสปอร์ตก็พบว่าการออกตัวด้วยเสียงยางสปินกับพื้นเบาๆ แล้วพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้มือที่กุมพวงมาลัย เพิ่มน้ำหนักการจับขึ้นโดยไม่รู้ตัว เสียงแบคไฟร์ระหว่างเกียร์ต่อเกียร์ ยิ่งกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านมากขึ้น ช่างเป็นรถที่ให้อัตราเร่งเร้าใจแบบที่ไม่ค่อยได้สัมผัสมานานในรถสแตนดาร์ดจากโรงงาน

การขยับจากเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เป็น 2.0 ลิตร ในคูเปอร์ เอส รุ่นใหม่ ให้ความแตกต่างในด้านพละกำลังมากขึ้น การตอบสนองจากการทดลองออกตัวแบบทันที พบว่าแรงบิดดึงดีตั้งแต่ปลายรอบต้น-กลาง ดังนั้นการขับแบบโค้งต่อโค้งแคบๆ หรือต้องผ่อนแล้วเร่ง จึงทำให้ คูเปอร์ เอส แสดงสมรรถนะอันโดดเด่นด้านอัตราเร่งได้อย่างน่าประทับใจ

เมื่อลองเดินคันเร่งเพิ่มความเร็วยาวๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางลาดขึ้น-ลงเขา พละกำลังของเครื่องยนต์กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ก็ผสานการทำงานให้รถขับเคลื่อนได้เร็วอย่างต่อเนื่อง

การขับทดสอบช่วงแรกเป็นการใช้งานในเมือง พร้อมปรับโหมดการขับแบบ MID หรือมาตรฐาน สลับกับ GREEN เป็นบางครั้ง พบว่ารถพรีเมียมขนาดเล็กอย่างมินิ ให้ความคล่องตัว และเข้าจอดได้ง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง แต่ มินิ คูเปอร์ เอส เป็นรุ่นพิเศษที่อาจไม่เหมาะกับทุกคนที่ชอบเพราะเพียงรูปลักษณ์ภายนอก เพราะล้อขนาด 18 นิ้ว กับยางแบบรันแฟลทขนาด 205/40 ผสานกับช่วงล่างแบบสปอร์ต ทำให้การควบคุมตัวรถเป็นไปอย่างมั่นคง ฉับไว และแน่นหนึบ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่บางคนไม่คุ้นเคยและคาดหวัง แต่ด้วยความเป็นมินิ นี่คือ จุดเด่นที่ดึงดูดให้หลายคนอยากเป็นเจ้าของ ส่วนที่น่าประทับใจจากการใช้งานในเมืองก็คือ การขับเคลื่อน โยกย้ายเปลี่ยนเลนได้อย่างคล่องแคล่ว และหาจอดในพื้นที่จำกัดได้ง่าย

เมื่อทดลองขับออกสู่นอกเมือง เพื่อสัมผัสสมรรถนะของคูเปอร์ เอส ได้มากขึ้น โหมดการขับมีการสลับจาก MID ไปเป็น SPORT มากขึ้น ตามความเหมาะสม เราใช้เส้นทางสู่จังหวัดสระบุรี แล้ววิ่งเข้าด้านถนนเส้นในสู่แก่งคอย ซึ่งเป็นทางโล่ง และมีโค้งขึ้น-ลงเขา ให้ได้ลอง เมื่อลองวิ่งวนไป-กลับอยู่ครึ่งวันก็เข้าถึงความตั้งใจของผู้ออกแบบรถมินิ คูเปอร์ เอส รุ่นนี้ได้มากขึ้น ช่วงทางตรง เมื่อลองกดคันเร่งเต็มที่ แรงบูสต์ของเทอร์โบ ช่วยให้อัตราเร่งจัดจ้านตั้งแต่รอบต่ำ และกลายเป็นความสนุก

จากนั้นเราลองเดินคันเร่งต่อเนื่องไปตามเส้นทางเปิดโล่ง เมื่อขับผ่านทางโค้งที่ทำความเร็วได้ค่อนข้างสูง และโค้งเอสต่อเนื่อง พบว่าเกิดความรู้สึกคล้ายกับการขับโกคาร์ท การยึดเกาะถนน และความฉับไวของการจิกเข้าโค้ง ทำให้เราวางใจในประสิทธิภาพด้านการทรงตัวของคูเปอร์ เอส มากขึ้น จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ไม่ได้ขับรถที่ให้ความสนุกและเร้าใจแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว แม้การขับใช้งานในเมืองอาจจะรู้สึกสะเทือนมากกว่ารถทั่วไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับโหดร้ายแบบรถโมดิฟาย สำหรับเราคิดว่ามันเป็นรถที่เหมาะกับคนที่จริงจังกับการขับและการเลือกรถที่สะท้อนความเป็นตัวตนผู้ครอบครองได้ชัดเจนมากกว่าทั่วไป

การใช้งานในเมือง เป็นระยะทางราว 150 กิโลเมตร เจอหลากหลายสภาวะทั้งรถติดที่รถต้องเดินเบานาน, การใช้ความเร็วต่ำสลับหยุดนิ่งต่อเนื่อง ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบนหน้าจอแสดงผลวัดได้ 9.8 กิโลเมตร/ลิตร

ส่วนการขับนอกเมืองที่มักเป็นทางโล่ง แต่มีสลับขึ้น-ลงเขา ทำให้ต้องใช้กำลังจากเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ และไม่ได้คำนึงการทำตัวเลขประหยัดน้ำมัน โดยรวมระยะทางประมาณ 300 กม. พบว่าตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 13.4 กิโลเมตร/ลิตร

ความพิเศษของรุ่น คูเปอร์ เอส ที่แตกต่างจาก คูเปอร์ และคูเปอร์ ดี ก็คือ ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์สุดอลังการ อย่างแรกคือ จอแสดงผลทรงกลมตรงกลางคอนโซลขนาดใหญ่ถึง 8.8 นิ้ว ควบคุมง่ายด้วย มินิ คอนโทรลเลอร์ ตรงกลาง ปรับสะดวกสไตล์ iDrive พร้อมระบบเนวิเกเตอร์ นำทางแบบละเอียด ส่วนเครื่องเสียงเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นด้วยยี่ห้อ ฮาร์มาน/การ์ดอน พร้อมลำโพงรอบคัน 12 ตัว เพียงพอและมากพอต่อความต้องการ

ข้อดีของผู้ซื้อรถมินิ แฮตช์แบ็ก ใหม่ทุกรุ่นเครื่องยนต์คือ ได้ระบบมาตรฐานความปลอดภัยชั้นเลิศเทียบเท่ากันหมด นับเป็นแนวโน้มที่ผู้ผลิตรถหลายยี่ห้อให้ความสำคัญกันมากขึ้น หลายยี่ห้อเริ่มใส่ระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นจนถึงรุ่นท็อป ส่วน มินิ คูเปอร์ เอส  คันนี้ ก็เพียบพร้อมด้วยสารพัดระบบช่วยเหลือ เช่น ยางรันแฟลต, ถุงลมนิรภัย, ระบบช่วยเบรก และป้องกันเบรกล็อค (BA&ABS), ระบบควบคุมเบรกในโค้ง (CBC), ระบบกระจายแรงเบรกแบบไฟฟ้า (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัว (DSC), ระบบช่วยตอนออกตัว (DTC), ระบบช่วยล็อคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า ฯลฯ

จากการทดสอบเน้นด้านระบบเบรกเป็นหลัก โดยในช่วงความเร็วต่ำเบรกทำงานได้ดี ให้น้ำหนักการตอบสนองที่แทบไม่ต้องปรับตัวมาก โดยเฉพาะรถสัญชาติยุโรปขนาดซับคอมแพคมักวางใจได้หายห่วงเรื่องเบรก เมื่อใช้เบรกในการชะลอที่ความเร็วสูง ก่อนเข้าโค้ง ก็พบว่าการจับตัวของคาลิเปอร์ให้พลังหน่วงอย่างนุ่มนวลและลดความเร็วได้เยี่ยม โดยตัวรถยังรักษาสมดุลพร้อมเดินคันเร่งส่งต่อออกจากโค้งได้อย่างฉับไว นับเป็นความมั่นใจที่ช่วยให้การขับรถสนุกขึ้นจริงๆ 

มินิ คูเปอร์ เอส รหัสตัวถัง F56 นับเป็นรุ่นล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงในหลายจุดให้มีความน่าใช้พร้อมคงความเป็นมินิได้ไม่ต่างจากเดิม การเลือกคบหากับรุ่นแรงสุดอย่าง คูเปอร์ เอส ด้วยราคา 2,840,000 บาท ย่อมทำให้หลายคนอาจคิดว่าราคาระดับนี้มีรถพรีเมียมในตลาดให้เลือกเยอะ อย่างน้อยก็มีคู่ปรับสำคัญอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ 250 AMG ที่ขับสนุกเหมือนกัน (แต่ราคาถูกกว่า) อย่างไรก็ตามรถมินิถูกออกแบบและผลิตโดยกลุ่มคนที่คิดต่าง ทำรถเพื่อคนที่ต้องการความแตกต่าง เอกลักษณ์และคาแรคเตอร์ของมินิจึงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวผู้ที่ชื่นชอบมาหลายสิบปี ด้วยความเล็ก คล่องตัว และสมบูรณ์แบบในหลายๆ ด้าน มินิ แฮตช์แบ็ก ใหม่ จึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบและสนุกกับการขับรถสไตล์นี้

มินิ คูเปอร์ เอส เป็นรถที่เลือกผู้ขับตั้งแต่แรก ถ้าคุณลองแล้ว ความรู้สึกบอกว่าใช่ เงินในบัญชีบอกว่าได้ คุณก็จะมีความสุขกับมินิได้นาน และยุคนี้ซื้อรถมินิไม่ต้องกังวล เพราะได้การรับประกัน MINI Service Inclusive - MSI นาน 5 ปี หรือ 50,000 กม. (เดิม MSI คุ้มครอง 3 ปี / 50,000 กม.) แต่เราเชื่อว่าเวลาไม่ช่วยอะไร เพราะคุณจะเพลินไปกับการขับ มินิ แฮตช์แบ็ก ใหม่จนระยะถึงก่อนมากกว่า

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Mini Hatch 3-Door ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Mini ทุกรุ่น