รีวิว NEW FORTUNER 2.5G เอสยูวียอดนิยมตลอดกาล

Toyota Fortuner รถยนต์อเนกประสงค์ในโครงการ IMV ถือกำเนิดขึ้นในปี 2547 จวบจนปัจจุบัน Fortuner มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อรองรับการใช้งานแบบผสมผสาน ทั้งการขับขี่เดินทางไกล หรือลุยไปในทางวิบากที่รถทั่วไปเข้าไม่ถึง รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ห้องโดยสารที่เน้นความเรียบง่ายแต่หรูหรา สมรรถนะของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่มีให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ความแข็งแกร่งทนทานของโครงสร้างและช่วงล่าง ค่าดูแลรักษาที่ต่ำเนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ สมบุกสมบัน รวมถึงราคาขายต่อที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของรถยนต์ประเภทนี้ ทำให้ Toyota Fortuner ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

สิงหาคม 2555 บริษัท Toyota Motor Thailand ทำการปรับโฉมรถยนต์หลากหลายรุ่นภายในค่ายเพื่อกระตุ้นยอดขาย การแต่งเติมรายระเอียดในบางจุดให้มีความลงตัวเกิดขึ้นกับ New Fortuner เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับตัวรถ โดยวิศวกรของค่ายสามห่วง เพิ่มระบบส่งกำลังแบบใหม่ เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดที่ครอบคลุมทุกย่านความเร็ว อัพเกรดอุปกรณ์มาตรฐานและเพิ่มรุ่น 2.5G อีกหนึ่งรุ่นสำหรับ Fortuner เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งแต่เดิมรุ่นนี้มีจำหน่ายเพียงแค่เกียร์ธรรมดา 5 สปีด การปรับเปลี่ยนสมรรถนะของ Fortuner ทำให้รถรุ่นนี้มีจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยทั้งสิ้นถึง 5 รุ่น แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งด้านเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครอบคลุมทุกการใช้งานของลูกค้าใน ประเทศไทย

สำหรับรุ่นสูงสุดของ Toyota Fortuner 2012 เริ่มด้วยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 NAVI AT ขับเคลื่อนสี่ล้อ และที่เหลืออีกสี่รุ่น เป็นรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ โดยเริ่มจาก 3.0 NAVI AT 4x2 / 2.7 NAVI AT 4x2 / 2.5G MT 4x2 / 2.5G AT 4x2 (NAVI คือระบบนำทางและระบุพิกัดด้วยดาวเทียม) รถ New Fortuner 2012 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,085,000 บาท ไปจนถึง 1,449,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับรุ่นพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี Toyota Motor ในประเทศไทย เป็นรุ่น Fortuner TRD Sportivo ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้และนำเอาระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 สปีดมาติดตั้งเพื่อเพิ่มเติมสมรรถนะและประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนด้วยเช่น กัน

รูปลักษณ์ภายนอกที่ยังคงใช้พื้นฐานเดิมทั้งหมดของ New Fortuner ได้รับการออกแบบจาก Toyota Design Center ในออสเตรเรีย กระจังหน้า ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์แบบ HID พร้อมระบบปรับตั้งไฟหน้าสูง-ต่ำหรือเปิดปิดแบบอัตโนมัติ สปอยเลอร์และสคูปฝากระโปรงหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ เหนี่ยวนำเอาอากาศเข้าไประบายความร้อนในส่วนของอินเตอร์คูลเลอร์ที่วาง ตำแหน่งอยู่เหนือฝาสูบภายในห้องเครื่องยนต์ ระบบทำความสะอาดไฟหน้าที่ Toyota เสริมเข้ามาคือหัวฉีดน้ำทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพับซ่อนเก็บได้ กระจกมองข้างติดตั้งไฟ LED เพื่อการเปลี่ยนทิศทางที่ปลอดภัย แร็คหลังคาของ New Fortuner ช่วยเพิ่มเติมประโยชน์ใช้สอยในการขนสัมภาระจำนวนมากๆ ไว้บนหลังคา ส่วนด้านข้างมีกาบบันไดขนาบไปกับด้านข้างส่วนล่างติดกับบานประตูโดยไม่มีขอบ คิ้วกันกระแทกมาให้เกะกะแนวสายตา กันชนท้าย ไฟท้าย ขอบโครเมี่ยมบริเวณมือจับฝาท้ายและสัญลักษณ์ VN Turbo บ่งบอกว่ามันคือ Fortuner ตัวล่าสุดที่วางระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติที่มีอัตราทดเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง เกียร์ ล้ออะลูมินัมอัลลอยขอบ 17 นิ้ว มือจับประตูด้านข้างแบบ Grip Type ไฟท้ายมัลติรีเฟคเตอร์

ภายในห้องโดยสารของ New Fortuner 2012 มีความแตกต่างกันออกไปตามรุ่นของเครื่องยนต์และราคาค่าตัว ซึ่งจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกปลีกย่อยที่เพิ่มเข้ามาเช่นจอมัลติฟังก์ชั่น ขนาด 6.1 นิ้ว สั่งงานด้วยการสัมผัสไปที่หน้าจอ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม Navigator เครื่องเล่นวิทยุ DVD-CD / MP3 / AUX-USB พร้อมหน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด เบาะโดยสาร 7 ที่นั่ง แบบหุ้มหนังแท้หรือหนังสังเคราะห์ มาตรวัดเรืองแสง Optitron ที่ปรับตั้งความสว่างของมาตรวัดได้ จอแสดงผล MID - Multi Information Display แจ้งข้อมูลที่จำเป็นตลอดการเดินทาง พวงมาลัยหุ้มหนังและลายไม้แบบสี่ก้าน มีสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นปรับตั้งเครื่องเสียง รับหรือวางโทรศัพท์แบบไร้สายผ่านระบบ bluetooth ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control กล้องมองหลัง สวิชท์ควบคุมระบบปรับอากาศ ช่องแอร์บริเวณแถวที่นั่ง 2-3 ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกส่วน ที่เก็บแว่นตา ช่องวางแก้วน้ำ ช่องเก็บของและที่วางแก้วน้ำบริเวณแผงประตู

คอนโซลกลางยังคงรูปแบบเดิม พวงมาลัยลายไม้พร้อมก้านสวิตช์ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ระบบควบคุมการปิด-เปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ มาตรวัดเรืองแสง สวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารแบบ Digital ซุ้มเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแบบใหม่ Gate-Type กับหัวเกียร์ลายไม้ บริเวณแผงประตูฝั่งคนขับยังมีสวิตช์ควบคุมกระจกมองข้างและควบคุมกระจกไฟฟ้า

New Fortuner 2012 วางเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร 2KD-FTV (A/T) 2,494 ซีซี D4D 144 แรงม้า พร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบล่าสุด Diamond Tech รองรับการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล โดยใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบคอมมอลเรล ไดเรค อินเจคชั่น กล่องสมองกล 32 บิต ไม่มีการจ่ายน้ำมันส่วนเกินในทุกระบบของเครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ประมวลผลขนาด 32 บิต ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งระบบ ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ระบบจะคำนวนการลดปริมาณการจ่ายเชื้อเพลิงส่วนเกินทุกครั้งที่มีการลดความ เร็วรอบของเครื่องยนต์ โดยทำการแยกคำนวณและสั่งจ่ายน้ำมันอย่างอิสระในแต่ละกระบอกสูบ หัวฉีด Diamond liked carbon coating ช่วยให้หัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงได้คล่องขึ้น ป้องกันการเกาะตัวของคราบเขม่าที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ ช่วยลดปัญหาหัวฉีดอุดตัน ระบบเรียนรู้การฉีดจ่ายน้ำมัน Fuel Injection Learning System In ECU 32 Bit และ PDV คำนวณและปรับสภาพการฉีดเชื้อเพลิงให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรสี่กระบอกสูบ ติดตั้งระบบอัดอากาศแบบ VN Turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบเทอร์โบใน New Fortuner แบบ VN ควบคุมครีบปรับแรงดันด้วยมอเตอร์ขนาดเล็ก โดยทำงานเชื่อมต่อกับสมองกลของเครื่องยนต์ สามารถสั่งปิดหรือเปิดครีบปรับแรงดัน ลงลึกถึงองศาของการปิด-เปิดที่มีความเหมาะสม เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดับเบิลโอเว่อร์เฮตแคมชาร์ฟ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 106 กิโลวัตต์หรือ 144 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ปั๊มเชื้อเพลิง Supply Pump ทำหน้าที่สร้างแรงดันของเชื้อเพลิงให้สมดุลกับการทำงานของระบบอัดอากาศแบบ เทอร์โบ ลดอาการรอรอบในขณะที่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ฝากระโปรงด้านหน้าเจาะช่องรับอากาศเพื่อนำอากาศเย็นไประบายความร้อนให้กับ เครื่องยนต์และชุดอินเตอร์คูลเลอร์ของระบบอัดอากาศแบบ VN Turbo ตัวลดอุณหภูมิในระบบหรือ EGR Cooler ลดอุณหภูมิของไอเสียที่จะนำกลับเข้าไปยังห้องเผาไหม้ โดยไม่ทำให้กำลังของเครื่องยนต์ตกลง ลดการเกิดมลพิษ CO2 / HC / NOx

ระบบส่งกำลังแบบใหม่ New Fortuner 2012 ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีดรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาด้านอัตราทดที่มีความเหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ตอบสนองได้ดี นุ่มนวลและมีความสัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์ตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบ สูงสุด เกียร์ออโต้ของ Toyota New Fortuner ใช้น้ำมันเกียร์แบบ WF หรือ Toyota Genuine ATF WF ซึ่งวิศวกรของค่ายสามห่วงแจ้งว่า เกียร์ออโต้รุ่นใหม่ลูกนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการ ใช้งานอีกด้วย

Active Safety

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System)
  ควบคุม และป้องกันการลื่นไถลของล้อ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการทรงตัวของรถ (เฉพาะรุ่น 3.0G)
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
  ตรวจวัดระดับการทรงตัวของรถ ควบคุมให้การทรงตัวมีความมั่นคง ทั้งบนถนนที่เปียกลื่นหรือสภาพทางโค้ง ระบบจะสั่งการให้ลดกำลังของเครื่องยนต์ลงทันทีแบบอัตโนมัติและเพิ่มแรงดัน น้ำมันเบรกไปยังล้อที่สูญเสียการยึดเกาะเพื่อประคองการทรงตัวของรถที่กำลัง เกิดอาการลื่นไถลให้กลับเข้าสู่การทรงตัวที่มีความสมดุลอีกครั้ง (เฉพาะรุ่น 3.0G)
• ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System)
  ป้องกันล้อล็อกและลื่นไถลจากการเบรกแบบกะทันหัน (เฉพาะรุ่น 3.0G)
• ระบบเสริมแรงเบรค BA (Brake Assist)
  เพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกโดยอัตโนมัติให้มากขึ้นโดยทันที ในสภาวะการของการเบรกแบบฉุกเฉิน เมื่อระบบตรวจพบว่าแรงเบรกจากเท้าผู้ขับขี่ไม่เพียงพอเพื่อให้สามารถหยุดรถ ในระยะทางที่สั้นลง (เฉพาะรุ่น 3.0G) 
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
  ระบบจะทำการปรับแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ แปรผันไปตามน้ำหนักที่กดลงในแต่ละล้อ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเบรกและลดระยะเบรกใก้สั้นลง (เฉพาะรุ่น 3.0G) 

Passive Safety

• โครงสร้างนิรภัย GOA
  เทคโนโลยีเสริมความแกร่งให้กับห้องโดยสารจากการชนปะทะทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ดูดซับแรงกระแทกและกระจายแรงที่เข้ามากระทำกับตัวถัง
• ระบบถุงลมนิรภัย SRS
• เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3จุด 6 ที่นั่ง และ NR 2 จุด 1 ที่นั่งในแถวที่ 2
• พวงมาลัยแบบยุบตัวได้
  พวงมาลัยของ New Fortuner ถูกออกแบบให้ยุบตัวได้เมื่อเกิดการชนเพื่อป้องกันการกระแทกกับหน้าอกของผู้ขับขี่
• กุญแจ Immobilizer
  ระบบตรวจสอบรหัสของลูกกุญแจจากกล่องควบคุมเครื่องยนต์ ป้องกันการสตาร์ตในกรณีที่รหัสไม่ตรงกัน 
• ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม (Thief Deterrent System)

วันที่ 16-17 ตุลาคม 2555 เวลา 08.50 น. Toyota Motor Thailand เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมทดสอบขับขี่ New Fortuner 2012 โดยจัดเส้นทางจากสนามบินนานาชาติในจังหวัดเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชื่อมต่อทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1317 ไปยังร้านเฮืองใจ๋ยองในเขตอำเภอสันกำแพง ลัดเลาะไปตามเส้นทางหมายเลข 118 อำเภอสันทราย มุ่งหน้าอำเภอดอยสะเก็ต ผ่านหุบเขาแถบดอยช้าง แล้วไปสิ้นสุดการทดสอบที่โรงแรม Le Meridien เชียงราย รวมระยะทางสำหรับการทดสอบ New Fortuner 2012 ซึ่งใช้ระบบส่งกำลังแบบใหม่กว่า 220 กิโลเมตร

นอกเหนือไปจากการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ แล้ว ระบบส่งกำลังของ Toyota Fortuner จากที่เคยใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงมาเป็นเกียร์ออโต้แบบ 5 สปีด เพื่อความต่อเนื่องในย่านของกำลังแรงบิด และความนิ่มนวลของอัตราทดแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาให้เข้ากับการทำงานของเครื่อง ยนต์มากยิ่งขึ้น ส่วนระบบกันสะเทือนนั้น วิศวกรของ Toyota แจ้งว่ามีการปรับปรุงเล็กน้อย ด้วยการเสริมแผ่นปิดใต้ท้องเพื่อกันกระแสลมหมุนวน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบดับเบิลวิชโบน คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์ ออกแบบมาเพื่อการลุยไปในพื้นที่ทุรกันดานรวมถึงวิ่งบนถนนหนทางปกติ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อยังมีการนำเอา Torsen LSD ที่ช่วยกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้า-หลังให้มีความสัมพันธ์กับทุกสภาวะของการ ขับขี่โดยอัตโนมัติ เพื่อการทรงตัวและการยึดเกาะกับผิวถนน

ผมจับคู่กับน้องนัฐพล เดชสิงห์ นักข่าวจากสยามธุรกิจ คู่ขาในการขับทดสอบรถยนต์ที่รู้ใจกันเป็นอย่างดี บนตัวรถทดสอบรุ่น 2.5G A/T 4x2 สีทอง ไม้แรกสุดจึงเป็นหน้าที่ของนัฐพลในการควบเจ้า Fortuner จากสนามบินเชียงใหม่ไปจนถึงดอยช้าง หลังจากนั้นผมจึงจะเข้ามารับหน้าที่ต่อโดยขับลงจากดอยช้างไปยังโรงแรม Le Meridien เชียงราย อาการล้าจากการเดินทางไปทดสอบ Toyota GT86 ที่เยอรมนียังคงไม่จางหาย จากคาบเวลาที่ร่างกายเริ่มจะปรับตัวให้เข้ากับเวลาของฝากยุโรปที่ช้ากว่า เมืองไทยถึง 5 ชั่วโมง เริ่มส่งผลกับการนอนหลับจนทำให้เกิดความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง สภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อยจึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะขับทดสอบคนเดียวทั้งทริ ป เนื่องจากเส้นทางที่ใช้ทดสอบ New Fortuner ในครั้งนี้ อุดมไปด้วยทางขึ้น-ลงภูเขาที่สูงชันและค่อนข้างคับแคบ

ห้องโดยสารของ New Fortuner 2012 รุ่นปรับระบบส่งกำลังให้เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มีความคล้ายคลึงเหมือนกันกับรุ่นเดิมทุกอย่าง โดยมีอุปกรณ์ใหม่เสริมเติมแต่งเข้ามาในบางจุดเพื่อกระตุ้นยอดขาย เบาะผู้โดยสารหุ้มด้วยหนังแท้สีน้ำตาลอ่อนนั่งได้นิ่มสบายก้น รวมถึงทัศนวิสัยมุมมองรอบคันโปร่งโล่งมองเห็นได้ไกลกว่าปกติเนื่องจากเป็นรถ SUV ที่มีความสูงมากกว่ารถเก๋งถึงเกือบ 500 มิลลิเมตร ความสูงและกระจกใสรอบห้องโดยสารช่วยทำให้ความรู้สึกในการโดยสารไปกับ New Fortuner มีความสะดวกสบายจากพื้นที่ภายในที่ค่อนข้างขว้างขวาง ทั้งพื้นที่ในการวางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะ เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่พับเก็บได้ช่วยให้การขนสัมภาระมีพื้นที่เพิ่มมาก ขึ้น ฝาท้ายยังเปิดออกได้กว้างสุดๆเพื่อการยกของที่มีขนาดใหญ่พวกกระเป๋าเดินทาง ถุง Golf รถจักยานแบบพับได้ กล่องหรือลังขนาดใหญ่ก็ยังสามารถยัดเข้าไปยังส่วนท้ายได้อย่างสบาย

ระบบหัวฉีด Diamond Tech กับเทอร์โบแบบ VN ให้แรงบิดที่ดีในรอบเครื่องต่ำ ตั้งแต่การออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ไปจนถึงการเร่งความเร็วแบบคิกดาวน์คันเร่งไฟฟ้า สมรรถนะของเครื่อง 2.5 ลิตร 2KD-FTV VNT ให้แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตรที่รอบต่ำตั้งแต่ 1600 รอบต่อนาที แรงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ที่มีแรงบิด 241 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังแบบ 5 สปีดออโตเมตริก เข้ามาช่วยในด้านอัตราทดที่ครอบคลุมสัมพันธ์ไปกับรอบของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะเกียร์ 5 ซึ่งเป็นเกียร์ Overdrive ทำให้รอบเครื่องยนต์ต่ำลงมากกว่ารุ่นเกียร์ออโต้ 4 สปีดอย่างเห็นได้ชัด บนความเร็วเดินทางในระดับ 110-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถ New Fortuner ที่วางระบบส่งกำลังแบบใหม่จึงมีความประหยัดมากกว่ารุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดอยู่พอสมควร ส่วนพวงมาลัยไฟฟ้าที่เข้ามาแทนที่พวงมาลัยเพาเวอร์สายพานแบบเก่าที่กินกำลัง เครื่องยนต์ ให้สัมผัสที่ไม่แตกต่างกันมากนักทั้งน้ำหนักและความแม่นยำที่อยู่ในระดับ ปกติของรถยนต์แบบ SUV ความสูงของตัวรถที่ไม่สัมพันธ์กับกระแสลมหมุนวนที่ไหลเข้าไปยังใต้ท้อง ยังถูกจัดการด้วยแผ่นพลาสติกป้องกันกระแสลมที่เสริมเข้ามาในรุ่นนี้ แผ่นรองใต้ท้องรถช่วยทำให้การไหลเวียนของอากาศมีความเป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้ New Fortuner มีการวิ่งที่ย่านความเร็วสูงเงียบขึ้นแต่การทรงตัวยังคงเหมือนเดิม

ช่วงล่างแบบ TOP Platform ยังคงให้สัมผัสเดิมๆ ของตัวรถที่ผมเคยขับ ชุดกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระดับเบิลวิชโบน คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์ ยังคงส่งถ่ายสัมผัสเหมือนกับรถ Fortuner รุ่นแรกที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว การขับทดสอบที่จังหวัดกระบี่ไปยังสุราษฎร์ธานีแล้วข้ามไปขับที่เกาะสมุย ที่เมลเบิร์น ทวีปออสเตรเลีย ในวิคตอร์เรียครอสซึ่งเป็นสนามทดสอบการขับขี่แบบออฟโรด รวมถึงการขับทดสอบแยกย่อยในประเทศไทยที่จัดโดยทีม PR ของ Toyota Motor Thailand อีกหลายครั้ง ประสิทธิภาพและสมรรถนะของ Fortuner หนึ่งในรถยนต์นั่งโครงการ IMV จาก Toyota สื่อมวลชนทั้งไทยและเทศได้ซึมซับรับรู้มาตลอดตั้งแต่ตอนเปิดตัวรุ่นปรับ เปลี่ยนโฉมไปเมื่อช่วงกลางปี 2011โดยมีสื่อไทยเป็นเจ้าแรกที่ได้สัมผัสกับตัวรถรุ่นนี้ก่อนใคร เนื่องจากประเทศไทยนั้น ถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญอีกแห่งของ Toyota Motor ในการส่งออกรถยนต์ไปขายยังต่างประเทศ

ดอยช้าง มีที่ตั้งอยู่ยังบ้านดอยช้าง หมู่ที่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นยอดภูเขาสูงในเทือกเขาของดอยวาวี นับเป็นแหล่งต้นน้ำแม่กรณ์ บริเวณหุบเขาแถบนี้ มีชาวเขาเผ่าต่างๆ มาตั้งรกรากอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พื้นที่สูงชันแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานีทดลองเกษตรที่สูง เพื่อส่งเสริม การปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาว ลดการทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขาที่ทำให้ป่าเสื่อมโทรม ต่อมาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นศูนย์บริการวิชาการด้าน พืชและปัจจัยการผลิต บ้านดอยช้างตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทาง ทิศเหนือ หรือหันไปทางตัวจังหวัดเชียงราย สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง ส่วนผาหัวช้าง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,600 เมตร เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก อากาศเย็นสบายตลอดปีจากระดับความสูงเฉลี่ยที่มากกว่าสถานที่แห่งอื่นๆ ในประเทศไทย อุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส ดอยช้างมีชื่อเสียงในเรื่องของเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน ประเทศไทย นักท่องเที่ยวที่ขับรถเข้ามายังบริเวณหุบเขาแห่งนี้ จะได้ชมสวนกาแฟ พร้อมๆ กับชมดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งที่กำลังเบ่งบาน นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของภาคเหนือที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยผู้คน ในช่วงฤดูหนาว

เส้นทางขึ้นดอยช้าง เป็นทางลาดยางมะตอยสองเลนสวนกันและค่อนข้างคับแคบ แต่ทางโค้งบนดอยช้างกับไม่โหดเท่ากับเส้นทางในแถบ อ.สะเมิง ที่วกไปวนมารอบๆ หุบเขามากกว่า ทางหลวงหมายเลข 118 เชียงใหม่ ดอยสะเก็ด เวียงป่าเป้า แม่สรวย ดอยวาวี ดอยช้าง สภาพภูมิประเทศเป็นหุบเขาสูง สองข้างทางบริเวณเนินเขาในแถบนี้ชาวบ้านมักนิยมปลูกกาแฟและผักผลไม้เมือง หนาว ขบวนรถทดสอบ New Fortuner ทั้ง 14 คันใช้เวลาวิ่งจากแยกหลักกิโลเมตรที่ 807 กว่าครึ่งชั่วโมงผ่านทางโค้งขึ้น-ลงภูเขาที่ต้องใช้ความระมัดระวังกันพอ สมควรจนขึ้นมาถึงยอดดอยช้างเพื่อจอดแวะพักเก็บภาพ อากาศในช่วงกลางเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว อุณหภูมิบนยอดดอยเย็นสบายกว่าข้างล่างพอสมควร ทางลาดชันทั้งขึ้นและลงแต่ไม่สมบุกสมบันมากนัก เส้นทางหมายเลข 118 นี้เหมาะสมกับ New Fortuner รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อคันทดสอบ เกียร์ต่ำของระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 สปีดส่งถ่ายแรงบิด 343 นิวตันเมตรให้สามารถตะกายขึ้นดอยได้อย่างสบายๆ ในช่วงต้นฤดูหนาว หากเป็นช่วงกลางฤดูฝนที่ผิวทางมีความลื่นมากกว่านี้ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อน่าจะเหมาะสมกว่าสำหรับการวิ่งขึ้นมาที่ระดับความสูงเกือบๆ 1,600 เมตร

จากยอดดอยช้าง ช่วงขาลง ขบวนรถทดสอบ New Fortuner 2012 เพิ่มความเร็วมากขึ้นเนื่องจากต้องขับให้ถึงโรงแรม Le Meridien เชียงรายก่อนค่ำ ระยะทางจากดอยช้างไปยังจังหวัดเชียงรายไม่ไกลมากนัก ผมจึงเข้ามารับหน้าที่ขับต่อจากน้องอาร์ต นัฐพล เดชสิงห์ โดยไหลลงไปอยู่ท้ายขบวนเพื่อความปลอดภัย ทางลงเขากับความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากรถคันนำซึ่งเป็นรถตำรวจตราโล่รุ่น Camry Hybrid ทำให้การไล่ตามเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถบรรทุกขนาดใหญ่ มอเตอร์ไซค์และรถปิกอัพเจ้าถิ่นที่เริ่มจะมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อขับเข้าใกล้ตัวเมืองเชียงราย ทำให้รถตำรวจคันนำต้องทำหน้าที่อย่างหนักเพื่อความปลอดภัยของสื่อมวลชนและรถ ทดสอบทุกคัน วิทยุติดต่อประจำรถสำหรับการขับขี่ทางไกลช่วยให้ขบวนไม่แตกกระจัดกระจายและ สามารถกลับมาตั้งแถวทั้ง 14 คันเพื่อวิ่งเข้าสู่โรงแรมที่พักได้อย่างเรียบร้อย ต้องขอยกประโยชน์ให้กับระบบส่งกำลังแบบใหม่ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด กับระบบนำทางและกำหนดพิกัดด้วยดาวเทียมซึ่งมีติดตั้งอยู่ในจอมัลติฟังก์ชั่น ขนาด 6.4 นิ้ว แบบสั่งงานด้วยการสัมผัสไปที่หน้าจอมีแผนที่และจุดแวะพักที่ค่อนข้างละเอียด สมบูรณ์ เมนูภาษาไทยยังช่วยให้การอ่านข้อมูลต่างๆ รวมถึงการต่อเชื่อมกับสถานที่สำคัญ เช่น โรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์บริการของ Toyota ในเขตภาคเหนือทั้งหมด ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับการเดินทางไกลไปยังที่ที่ไม่มีความคุ้นชินแบบไม่ ต้องกลัวว่าจะหลงทางอีกต่อไป จุดชมวิวบนดอยช้างทำให้รถทดสอบทุกคันมาถึงโรงแรมช้ากว่ากำหนดถึงหนึ่งชั่วโมง

จากภาพรวมของการขับทดสอบ New Fortuner รุ่น 2.5 G NAVI มีระบบส่งกำลังแบบใหม่ซึ่งช่วยลดรอบเครื่องยนต์ที่เกียร์ 5 ทำให้อัตราสิ้นเปลืองมีตัวเลขที่ต่ำลงมาจากรุ่นเก่าที่วางเกียร์ออโต้ 4 สปีดอยู่บ้าง การทรงตัวและสัมผัสของพวงมาลัยยังคงให้ความรู้สึกเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ทางโค้งแคบๆ ไม่ควรใส่เข้ามาด้วยความเร็วสูงจากระดับความสูงของตัวรถซึ่งควบคุมการทรงตัว ได้ไม่ดีเท่ากับรถเก๋งอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มเติมเข้ามาทำให้ราคาของมันเพิ่ม ขึ้นพอสมควร สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ อัดอากาศด้วยระบบ VN Turbo ถ่ายทอดแรงบิดรอบต่ำได้ดี เครื่องยนต์ดีเซลของ Toyota รหัส 2KD-FTV แข็งแรงทนทานมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร แถมยังประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า ระบบเบรคต้องกะระยะให้ดีไม่ควรขับจี้ท้ายรถคันข้างหน้ามากจนเกินไป เนื่องจากเป็นรถที่มีมวลและมีความสูงมากกว่ารถเก๋งทั่วไป ผมได้แต่หวังว่า Fortuner ในรุ่นต่อไปเบรกหลังของมันจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบดิสเบรก แทนที่จะเป็นแบบดรัมเบรกเหมือนรุ่นที่ผ่านๆ มา อุปกรณ์ทั่วไปอยู่ในระดับปานกลางทั้งวัสดุที่ใช้ทำและรูปแบบ ราคาของรุ่น 2.5G 5A/T 4x2 ซึ่งเป็นรถคันทดสอบอยู่ที่ 1,179,000 บาท อยู่ที่การตัดสินใจของคุณเองว่าสมรรถนะของมันมีความเหมาะสมกับเงินในกระเป๋า หรือเปล่า สำหรับผู้คนส่วนใหญ่ ราคาขายต่อ อะไหล่และศูนย์บริการที่มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงของ Toyota คือสิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อต้องควักกันกว่าล้านบาท เพื่อแลกกับพาหนะคันใหม่ที่พร้อมจะลุยไปในทุกๆ ที่ของประเทศไทย

ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลจากคอลัมน์ Man & Machine