ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว Volkswagen Scirocco สปอร์ตแฮตช์แบค แรง ดิบ ดุ

icon 24 ก.พ. 58 icon 129,940
รีวิว Volkswagen Scirocco สปอร์ตแฮตช์แบค แรง ดิบ ดุ
Volkswagen Scirocco สปอร์ตแฮตช์แบค แรง ดิบ ดุ
นับตั้งแต่โฟล์คสวาเกน ได้สร้างสรรค์รถสปอร์ตคูเป้ขนาดกลางอย่าง Scirocco ขึ้นมาในปี 1974 ซึ่งก็ขายดิบขายดีมาก จนในปี 1981 จึงออกเจเนเรชั่นที่ 2 มา ก็ยังคงคอนเซปต์รถสปอร์ตท้ายลาดอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ปรับปรุงเส้นสายให้ทันสมัยขึ้น ก่อนที่หายไปจากท้องตลาดในปี 1992 และกลับมากำเนิดใหม่ในรูปแบบของรถต้นแบบ "IROC" ในปี 2006 ก่อนจะผลิตออกขายอย่างเป็นทางการในปี 2008 และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก (ยกเว้นในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ที่ไม่มีจำหน่าย)
สำหรับ Scirocco รุ่นที่ 3 มาพร้อมรูปทรงหล่อเข้มอันโดดเด่น เตี้ยแบนโฉบเฉี่ยว ทันสมัย มาพร้อมสมรรถนะที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์ พร้อมความสะดวกสบายที่เติมเต็มระหว่างการขับขี่เต็มพิกัด โดย Scirocco ที่เราทดสอบกันอยู่ในรีวิวรถใหม่ชุดนี้ เป็นรถที่ผลิตในโรงงาน AutoEuropa ของโฟล์คสวาเกนในประเทศโปรตุเกส ส่งตรงมายังเมืองไทยภายใต้การจำหน่ายของบริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ซึ่งเปิดตัวขายในบ้านเราไปตั้งแต่ปี 2009 โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น คือรุ่นธรรมดา, รุ่น Highline และรุ่นใส่ชุดแต่งรอบคัน R-Line
ทางทีมงาน Thai Product Review และ "เช็คราคา.com" ได้รับเชิญจากค่ายไทยยานยนตร์ให้ไปทดสอบ Scirocco รุ่นธรรมดา ราคา 2,395,000 บาท มาให้ท่านได้ติดตามอ่านกันเหมือนเช่นเคยครับ


เส้นทางทดสอบ
เราทดสอบเจ้า Scirocco คันนี้ โดยเริ่มต้นจากบริเวณโชว์รูมโฟล์คสวาเกน วิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปตามถนนวิภาวดีรังสิตจนถึง มธ.ศูนย์รังสิต ก่อนเข้าถนนคลองหลวง มุ่งหน้าสู่ถนนสายรังสิต-ปทุมธานี ถนนติวานนท์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนศรีสมาน ถนนสรงประภา แล้วย้อนกลับมาใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต จนถึงช่วงดินแดง เข้าถนนจตุรทิศ มาสิ้นสุดการทดสอบที่ถนนนิคมมักกะสัน ท่ามกลางสภาพจราจรที่โล่งและสลับกับรถติดเป็นช่วงๆ เรียกได้ว่าได้ครบทั้งการขับทางตรงไกลๆ การเข้าโค้ง และการขับในเมืองเลยล่ะครับ
ข้อมูลทั่วไป-จุดเด่น Volkswagen Scirocco
รูปลักษณ์ภายนอกของ Scirocco นั้นโดดเด่นด้วยสไตล์สปอร์ต (ไม่สูงมาก) แบน และตัวถังที่กว้าง สไตล์รถสปอร์ต ขนาดตัวถังของ Scirocco ยาว 4,256 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,404 มม. และฐานล้อ 2,578 มม.
ภายนอกโดดเด่นด้วยหน้าตาอันดุดัน ไฟหน้าขนาดใหญ่รูปทรงกลมรี กระจังหน้าแบบสีดำเงา High Gloss Black แนวยาว ส่วนช่องรับลมในกันชนด้านล่างเป็นลายรังผึ้ง มาคู่กับไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกที่อยู่ด้านข้าง มาพร้อมล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ขนาดใหญ่ ช่วงกระจกบานด้านข้างออกแบบมาให้เรียวลู่ลมรับกับเส้นสายข้างตัวรถไปถึงด้านท้าย รับกับไฟท้ายรูปทรงแนววงรีด้วยเช่นกัน ด้านท้ายที่มีสัดส่วนโค้งเว้าดูอวบอัด สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านหลังขนาดเล็ก แบนเรียบรับกับหลังคาหลัง พร้อมปลายท่อไอเสียคู่ชุบโครเมียม กันชนท้ายยังมีเซนเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด เพิ่มความสะดวกในการถอย
ห้องโดยสารภายในอุปกรณ์ครบครัน ทั้งเบาะหนังหุ้มหนังแท้โทนสีดำพร้อม Heater และปรับไฟฟ้าด้านคนขับ, พวงมาลัยแบบสปอร์ต 3 ก้านหุ้มหนังแท้ พร้อม Shift Paddle, คันเกียร์หุ้มหนังแท้, วิทยุ RCD 510 สามารถเล่นแผ่น CD 6 แผ่น MP3 พร้อมลำโพง 8 ตัวและช่องต่อ AUX, ระบบแอร์อัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า, กระจกไฟฟ้าคู่หน้า ปัดน้ำฝนหลังพร้อมระบบไล่ฝ้าแบบถ่วงเวลา, ปลั้กไฟ 12V หน้า-หลัง, ที่วางแก้วน้ำ เป็นต้น
SPECIFICATION
Scirocco มาพร้อมกับเครื่องยนต์รหัส EA888 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกันกับใน Golf GTi และ Audi TT ก็ตาม
เครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 1,984 ซีซี พร้อมเทอร์โบจาก BorgWarner รุ่น K03 ให้แรงม้าสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 5,100-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร (28.5 กก.-ม.) ที่ 1,700-5,000 รอบ/นาที ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DSG 6 จังหวะแบบคลัตช์คู่ สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วฉับไวกว่าเกียร์ธรรมดาซะอีก (ที่เมืองนอกยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย)
สมรรถนะ : 5 ดาว
การตอบสนองของเครื่องยนต์ให้ความรู้สึกสไตล์สปอร์ต ที่แม้ว่าเหยียบคันเร่งเบาๆ รถก็พุ่งไปข้างหน้าแล้ว ซึ่งทำได้ดีในเวลาช่วงเปลี่ยนเลน หรือต้องการเร่งแซงอะไรซักอย่าง แต่หากคุณเกิดมันส์เท้า เหยียบคันเร่งจนจมสุดเลย อาการ "หลังติดเบาะ" เกิดขึ้นในทันที เป็นเพราะเทอร์โบที่เริ่มทำงานตั้งแต่รอบต่ำไม่ถึง 2,000 รอบไปจนถึง 5,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถลากรอบเลย Red Line ขึ้นไปได้ถึง 7,000 รอบ/นาที และระบบเกียร์ DSG จะกระชากเกียร์ลงมาเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนให้รถพุ่งไปข้างหน้า 


เมื่อขับขี่ไปแล้วสามารถทำความเร็วขึ้นได้เรื่อยๆ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 238 กม./ชม. แต่ในการทดสอบจริงนั้น สามารถทำได้สูงถึง 240 กม./ชม. เลยทีเดียว ส่วนการวัดอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. นั้น ทีมงานเราสามารถทำได้ภายในเวลาประมาณ 7 วินาที แบบสุดประทับใจ
อัตราสิ้นเปลือง : 5 ดาว
เมื่อพูดถึงรถในรูปแบบสไตล์สปอร์ตแล้ว เรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็สำคัญไม่ใช่น้อยเช่นกัน แต่หลายคนมักจะพูดว่า "จริงหรือ?" สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยของ Scirocco นั้น อยู่ที่ 10.6-10.7 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร การใช้งานในเมืองโดยเฉลี่ยตกประมาณ 7-10 กม./ลิตร ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร (ในโบรชัวร์ระบุใช้น้ำมันโดยเฉลี่ย 7.5 ลิตร ต่อ 100 กม.) หากวิ่งนอกเมืองแบบไม่กดหนักๆ ก็อยู่ประมาณ 12-13 กม./ลิตร เนื่องจากเจ้า Scirocco มีเทอร์โบช่วยตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ทำให้เวลาขับขี่ไม่ต้องเหยียบหนักมากมาย ใช้รอบความเร็วน้อยกว่าแต่ได้ความเร็วเทียบเท่ารถเก๋งซีดาน แต่ถ้าเหยียบหนักๆ ก็กินน้ำมันเหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ นั่นล่ะครับ แม้ว่าตัวเลขโรงงานทดสอบจะได้ถึง 16.9 กม.ต่อลิตรเลยก็ตาม แต่พอเวลาขับคันนี้ทีไร ก็อดใจไม่ได้ที่ต้องใช้ความเร็วสูงทุกที


ความสะดวกสบาย : 5 ดาว
ที่นั่งคนขับ/ผู้โดยสารประตูบานใหญ่ของ Scirocco คันนี้เมื่อลองเปิดดู ก็ค่อนข้างประทับใจ เพราะเปิดกว้างได้ถึง 90 องศา ที่เวลาเปิด-ปิด จะมีแรงเหวี่ยงหนักๆสไตล์ประตูรถยุโรปที่ยาวและกว้าง  พอเข้ามานั่งในห้องโดยสารที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำ ตัวเบาะค่อนข้างต่ำ กะทัดรัด เวลานั่งจึงรู้สึกห้องโดยสารดูโปร่ง นั่งสบายสำหรับรูปร่างคนไทยที่ไม่ใหญ่มาก เพราะหากคนรูปร่างใหญ่อาจจะนั่งแล้วอึดอัดซักนิด ส่วนพื้นที่วางขาผู้โดยสารหน้านั้นกว้างขวาง เบาะหลังก็สไตล์รถสปอร์ตล่ะครับ ขนาดเล็กกะทัดรัด
ทัศนวิสัยสำหรับ Scirocco เน้นความเป็นรถสปอร์ตขนาดเล็ก แต่ตัวถังกว้าง เนื่องจากเบาะที่ต่ำทำให้มองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้าได้ดี แม้แต่คนตัวเล็กก็ไม่มีปัญหา เพราะเบาะด้านคนขับสามารถปรับสูง-ต่ำได้ กระจกมองข้างอาจจะเล็กซักนิด หากคนที่ไม่ชินกับกระจกมองข้างสไตล์รถสปอร์ต เวลาจะเลี้ยวแซง หรือเลี้ยวรถ ต้องตั้งใจมองมากเป็นพิเศษหน่อย ระบบปรับกระจกมองข้างก็มีทั้งแบบปรับไฟฟ้าแต่พับด้วยมือในรุ่นธรรมดา ส่วนในรุ่น Highline ถึงจะมีระบบพับไฟฟ้ามาให้  
สำหรับกระจกมองหลังนั้นได้รับการออกแบบมาเป็นแบบทรงกลมย้อนยุคเหมือนรถสมัยก่อน ขนาดไม่ได้ใหญ่มากตามสไตล์รถสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งคนที่ชินกับกระจกมองข้างใหญ่ๆที่ติดมากับรถเก๋งหรือรถกระบะ อาจต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยซักนิด
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองบนเพดาน ก็พบกับหลังคาซันรูฟแบบ Panoramic Tilting Sunroof ที่สามารถเปิด-ปิด แง้มไปทางด้านหลังได้ ไว้เปิดรับสายลมเล็กๆ ยามขับขี่ตอนเช้าๆ พร้อมแผ่นกันแสงที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ ให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และดูวิวท้องฟ้าได้ด้วย
ภายในโดยรวมนั้นถือว่าโอเคนะครับ สไตล์รถสปอร์ต ไม่เน้นของเล่นอะไรมากมาย เน้นความสนุกในการขับขี่เป็นหลัก


ความรู้สึกเมื่อลองขับ
ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ขับขี่เจ้า Scirocco คันนี้ก็รู้สึกประทับใจกับขุมพลังจากเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร 210 แรงม้า ที่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ DSG 6 จังหวะ เปลี่ยนเกียร์ได้สนุกฉับไว พร้อม Paddle Shift ที่เวลาเล่นกับโหมดนี้ เมื่อรถข้างหน้าต้องติดอยู่กับที่นิ่งๆ ซักประมาณ 1 นาที เกียร์จะตัดกลับเข้าสู่ระบบการทำงานธรรมดาให้เอง ทั้งนี้ จะเปลี่ยนเกียร์จากปุ่ม Shift Paddle บนพวงมาลัยก็ได้ หรือจะโยกบริเวณคันเกียร์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นแบบ +  กับ - สามารถลากรอบได้อย่างที่ต้องการ หรือจะใช้โหมด S (Sport) ก็ย่อมได้ สามารถลากรอบได้ถึง 5,500 รอบเลยทีเดียว แต่ถ้าเล่นระบบเปลี่ยนเกียร์เอง แบบแมนนวลนั้นผู้ขับจะต้องปรับเปลี่ยนเกียร์เองบริเวณคันเกียร์ หรือบริเวณพวงมาลัย เมื่อชะลอความเร็ว เกียร์รถจะไม่เปลี่ยนให้เองโดยอัตโนมัติ หากเป็นในโหมด S นั้น ระบบเกียร์จะเปลี่ยนให้เองโดยอัตโนมัติ
เมื่อลองขับด้วยความเร็วค่อนข้างสูง (ประมาณ 140 กม./ชม.) การเก็บเสียงภายในนั้นทำได้ดีเลยทีเดียว แถมเสียงท่อไอเสียก็เร้าใจ ได้ความรู้สึกคล้ายๆ กำลังขับรถซูเปอร์คาร์เลยทีเดียว
เกียร์ของ Scirocco นั้น มากับเทคโนโลยี DSG (Direct Shift Gearbox) ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานด้วยสมองกล พร้อมคลัตช์คู่ที่แยกกันทำหน้าที่ในแต่ละเกียร์ โดยคลัตช์ชุดแรกจะใช้กับเกียร์ 1, 3 และ 5 ส่วนคลัตช์ชุดสองจะใช้กับเกียร์ 2, 4 และ 6 
ระบบช่วงล่างของ Scirocco ในรุ่นที่นำเข้าสามารถปรับระดับความแข็ง-อ่อนได้อย่างที่ต้องการ เสียดายที่รุ่นที่เราทดสอบนั้นไม่มีระบบนี้ติดมาด้วยเลยไม่ได้ลองกัน 
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัวนั้น ช่วงที่เราทดสอบบนถนนย่านชานเมือง ใช้ความเร็วสูง ก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่าการทรงตัวของรถนั้นดี แม้ว่าจะเร่งแซงแบบกะทันหันก็ไม่ออกอาการโคลงให้รู้สึก แต่ความแข้งกระด้างนั้นค่อนข้างมากหน่อย สำหรับรถสไตล์สปอร์ต ต้องแบบนี้ถึงจะขับสนุก
ระบบปรับอากาศระบบปรับอากาศใน Scirocco เป็นแบบ Manual สามารถปรับได้ทั้งร้อนและเย็น ความแรงของลมแอร์มีให้เลือก 4 ระดับ ส่วนระบบแอร์อัตโนมัติแบบกดปุ่ม พร้อมระบบกรองอากาศ Climatronic มีเฉพาะในรุ่น Highline และในส่วนของช่องเก็บของด้านหน้า หากคุณจะเก็บพวกเอกสารต่างๆ อย่าลืมใส่ห่อพลาสติกไว้ด้วย เพราะว่าช่องเก็บของนี้มีระบบทำความเย็นด้วยนะครับ
เสียงรบกวนจากภายนอกสำหรับ Scirocco การเก็บเสียงถือว่าดีสำหรับรถที่ไม่มีขอบกระจก แต่ก็ยังมีเสียงลมเล็ดลอดดังเข้ามาได้บ้าง เมื่อใช้ความเร็วสูงตั้งแต่ 140 กม./ชม. ขึ้นไป แต่ทีเด็ดนั้นเมื่อเวลาลากรอบเครื่องยนต์สูง อยู่ตรงที่เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์และท่อไอเสียลอดเข้ามาในห้องโดยสาร ให้ความสนุกเร้าใจจนน่าแปลกใจ
อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงระบบเครื่องเสียงที่ติดมาให้จากโรงงานของ Scirocco นั้นต้องถือว่า ฟังก์ชั่นครบถ้วน ใช้งานง่าย ระบบวิทยุแบบ RCD 510 สามารถใช้งานได้ทั้ง AM/FM CD, MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีน พร้อมช่องใส่ SD Card และช่อง AUX บริเวณที่วางแขนตรงคอนโซลกลาง ก็ถือว่า OK เรียนรู้ในการใช้งานได้ง่าย แต่ถ้ามีระบบ Navigator ติดตั้งเพิ่มมาให้ด้วยก็จะดีมาก
ความปลอดภัย : 5 ดาว
ด้านระบบความปลอดภัย Scirocco ก็จัดมาให้สมกับราคาตัวรถ ปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 6 ลูก 8 ตำแหน่ง (รวมม่านนิรภัย) ในตำแหน่งถุงลมนิรภัยด้านผู้โดยสาร สามารถปิดการใช้งานได้ กับเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ปรับสูงต่ำได้ และดึงกลับอัตโนมัติ ระบบ ESP ช่วยในการรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ยิ่งทำให้เพิ่มความมั่นใจเวลาเข้าโค้งหรือแซงได้ดียิ่งขึ้น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว (ASR) ช่วยให้รถไม่สะบัด เมื่อเวลารถออกตัวอย่างเต็มที่ พวงมาลัยเป็นแบบ Servotronic แปรผันไปตามความเร็วของรถ และหากคุณมีเด็กเล็กที่ต้องติดรถไปด้วย เบาะหลังมีจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX เอาไว้ให้พร้อม 
เวลาถอยจอด ด้านท้ายของตัวรถจะมี Sensor กะระยะถอยหลัง 4 จุด พร้อมโชว์ภาพผ่านหน้าจอทัชสกรีน (Parking Distance Control) เพิ่มความสะดวกในการจอดถอยหลัง
ระบบดิสค์เบรก 4 ล้อเดิมๆ ที่เบรกได้ดั่งใจในการใช้งานทั่วไป แต่เวลาขับขี่ในเมืองขับขี่ความเร็วต่ำ เวลาเบรกแค่เหยียบเบาๆ รถก็จะหยุด "กึก" โดยทันที จนรู้สึกหน้าทิ่มได้หลายครั้ง หากลงน้ำหนักเท้าที่แป้นเบรกมากนิดนึง ถ้าคนขับเจ้า Scirocco ไม่ชินรถ เวลาเบรกทีนึงหัวทิ่มเลย เลยต้องเรียนรู้การขับขี่เจ้า Scirocco ซักหน่อยในช่วงแรกของการทดสอบรถคันนี้ก็เรียกว่าสร้างความมั่นอกมั่นใจแก่คนนั่งและคนขับได้ดีเลยละครับสำหรับระบบความปลอดภัยที่จัดมาให้


ความสวยงาม : 5 ดาว
รูปลักษณ์ภายนอกของ Scirocco นั้นโดดเด่นด้วยสไตล์สปอร์ต และตัวถังที่กว้าง โดดเด่นด้วยหน้าตาอันดุดัน ไฟหน้าขนาดใหญ่รูปทรงกลมรี พร้อมหลอดไฟโปรเจคเตอร์แบบ Bi-Xenon ขนาดใหญ่ 1 ดวง ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และหลอดไฟฮาโลเจนอีก 1 หลอด ที่ทำหน้าที่เหมือนหลอดไฟ Daylight คือไฟก็จะติดเองอัตโนมัติ ตั้งแต่สตาร์ทรถ พร้อมที่ฉีดน้ำไฟหน้า กระจังหน้าแบบสีดำเงา High Gloss Black แนวยาว ส่วนช่องรับลมในกันชนด้านล่างเป็นลายรังผึ้ง มาคู่กับไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกที่อยู่ด้านข้าง 
เมื่อเรากวาดสายตามามองที่ด้านข้างของตัวรถ ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ขนาดใหญ่ พร้อมยาง Pirelli ขนาด 235/45 R17 และเมื่อมองมาทางด้านบน กระจกมองข้างมาพร้อมไฟเลี้ยว ช่วงกระจกบานด้านข้างออกแบบมาให้เรียวลู่ลมรับกับเส้นสายข้างตัวรถไปถึงด้านท้าย รับกับไฟท้ายรูปทรงแนววงรีด้วยเช่นกัน ด้านท้ายที่มีสัดส่วนโค้งเว้าดูอวบอัด สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านหลังขนาดเล็ก แบนเรียบรับกับหลังคาหลัง พร้อมปลายท่อไอเสียคู่ชุบโครเมียม กันชนท้ายยังมีเซนเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด เพิ่มความสะดวกในการถอย
ภายในแผงคอนโซลใช้โทนสีดำ รูปแบบที่เรียบง่ายคล้ายกับในรุ่น Golf GTi มาก จัดวางอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างลงตัว ดูเรียบง่าย และง่ายต่อการใช้งาน จะมีที่ใช้งานลำบากนิดหน่อยตรงสวิตซ์ปรับกระจกมองข้างอยู่บริเวณแผงประตูด้านข้าง ทำให้ใช้งานไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เพราะอยู่ใกล้กับที่สำหรับจับประตู (ที่มีขนาดใหญ่มาก) 
ส่วนบรรยากาศเวลาเปิดไฟส่องแผนที่ด้านบนเพดานรถนั้น พูดได้คำเดียวว่าดีเลยทีเดียว แสงสีเหลืองๆไม่มืดไม่สว่างจนเกินไป ส่วนไฟบอกตำแหน่งต่างๆ ใช้โทนสีส้มแดงคล้ายๆ กับรถที่ขายในท้องตลาดทั่วไป เบาะนั่งหนังแท้แบบ Bucket Seat รูปทรงโอบกระชับ ปรับสูง-ต่ำ หน้า-หลังได้ พร้อมเพิ่มคันโยกด้านข้างเบาะสำหรับเพื่อผู้โดยสารหลังเข้า-ออกได้ง่ายขึ้น หน้าปัดแบบทรงวงกลมคู่ มาพร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ ด้านล่างแบบแนวนอน สามารถชันเช่าขับแบบนักแข่งรถได้ กรอบช่องแอร์ล้อมด้วยกรอบอะลูมิเนียมสีเงินประดับ พร้อมแผงคอนโซลประดับอลูมิเนียมสีเงินด้วยเช่นกัน


ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา : 4.5 ดาว
Volkswagen Scirocco 2.0 TSi คันนี้ตอบโจทย์สำหรับหนุ่มๆ ผู้รักและชื่นชอบสปอร์ตขับหน้าขนาดเล็ก ที่ให้ความสนุกสนานและเร้าใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ทั้งบรรยากาศภายในห้องโดยสาร สมรรถนะการขับขี่ ที่ให้อารมณ์แบบดิบๆ สไตล์รถแข่ง ออกตัวและเร่งแซงได้ (รวดเร็วมาก ออกตัวล้อฟรีเลยทีเดียว) รวมไปถึงช่วงล่างที่เกาะถนนได้ยอด ระบบเบรกที่ดีเยี่ยม (แต่ต้องทำความคุ้นเคยกันหน่อย) เครื่องยนต์ก็สามารถต่อยอด นำไปแต่งให้แรงขึ้นได้ อัตราเร่งทันใจ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็ทำได้ดี ไม่กินเยอะอย่างที่คาด ส่วนราคาก็ถือว่าสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตจากค่ายอื่นๆ ที่นำเข้ามาขาย ถ้าไม่เชื่อ ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองนะครับ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)