รู้เทคนิคขับรถปลอดภัยช่วงฤดูฝน
ประเทศไทยช่วงนี้ มักมีฝนตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง เพราะสภาพอากาศแปรปรวน บางครั้งหนักจนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายแก่ที่พักอาศัยและรถเป็นอย่างมาก การขับรถตอนฝนตกก็เป็นปัญหาที่หลายคนเจอในช่วงนี้ โดยเฉพาะการขับฝ่าน้ำที่รอการระบาย
ข้อแนะนำอย่างแรกคือ ควรหลีกเลี่ยงขับรถในสภาพอากาศเลวร้ายและฝนตกหนัก แต่หากมีความจำเป็นทาง ฟอร์ด ก็มีเทคนิคการขับรถปลอดภัยช่วงฤดูฝน มาฝากกัน
คำแนะนำสำหรับการขับรถในสภาพอากาศเลวร้าย
1. ลดความเร็วลง
เราต่างรู้กันอยู่แล้วว่า เมื่อถนนเปียก พื้นถนนจะลื่นขึ้น และทำให้เราจำเป็นต้องลดความเร็วลง ซึ่งความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้สำหรับถนนเส้นนั้นเป็นความเร็วที่ถูกกำหนดให้ใช้ได้ในสภาพถนนปกติเท่านั้น ไม่ควรใช้ความเร็วดังกล่าว เมื่อต้องขับรถบนพื้นถนนเปียก
2. เพิ่มทัศนวิสัยระหว่างฝนตก
การมองไปข้างหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จะทำให้คุณมีโอกาสดีที่สุดในการรับมือกับเหตุการณ์ใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น "หนึ่งในทางที่ดีที่สุด คือ การขับรถอยู่ในเลนที่ไม่มีรถข้างหน้าบังสายตา" เคน เฮปเบิร์น ผู้ประสานงานด้านความปลอดภัยของผู้ขับและท้องถนน ณ สนามทดสอบยูยางของฟอร์ด ในประเทศออสเตรเลีย กล่าว "อีกวิธี คือ การขับตามรถคันข้างหน้า (ในระยะห่างที่ปลอดภัย) ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เพื่อที่คุณจะสามารถมองเห็นรถคันข้างหน้า รวมถึง พื้นที่ระหว่างรถคันหน้า อย่าขับตามรถบรรทุกคันใหญ่ๆ ที่บดบังทัศนวิสัยของคุณ นอกจากนั้น การเรียนรู้ที่จะใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในรถของคุณ ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถช่วยคุณได้"
สิ่งที่ต้องปฏิบัติเมื่อเจอผิวถนนชำรุด
1. ระวังแอ่งน้ำบนถนน
แอ่งน้ำเล็กๆ อาจซ่อนหลุมขนาดใหญ่เอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีน้ำมากพอ ยางรถยนต์อาจไม่สามารถรีดน้ำออกได้ทันและส่งผลให้รถไม่เกาะถนน
2. อย่าขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม
อย่าพยายามขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วมในระดับที่คุณไม่สามารถเดินผ่านได้ และระวังจุดที่น้ำท่วมขังอยู่บนพื้นถนน หากน้ำเข้าไปยังวาล์วไอดีและเครื่องยนต์ รถอาจจะดับ และคุณจะติดอยู่ในรถ
3. ควรระมัดระวังเป็นพิเศษกับถนนที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก
ระมัดระวังเป็นพิเศษกับเศษซากต่างๆ บนพื้นถนน เช่น แผ่นป้ายต่างๆ ที่อาจหลุดลอยมา หรือถนนที่มีพื้นที่ก่อสร้างใกล้เคียงก็มักมีเศษหิน ดิน ทราย เลอะบนถนน ทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น
4. เตรียมตัวรับมือกับสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น
อันตรายบนท้องถนนไม่เพียงมีสาเหตุจากธรรมชาติ เช่น ก้อนหินและกิ่งไม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนเดินเท้าทั่วไป สัตว์ต่างๆ รวมถึงรถคันอื่นที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน "เพื่อหลีกเลี่ยงกับสิ่งเหล่านั้น คุณต้องขับรถให้ช้าพอเพื่อที่จะสามารถสังเกตและมีปฏิกิริยาตอบโต้ได้ทันที จนสามารถหยุดรถได้สนิท ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น" เฮปเบิร์น กล่าว "หลักการทั่วไป คือ ระยะห่างจากสิ่งที่เห็น ไม่ควรน้อยกว่าสี่เท่าของระยะหยุดรถของคุณ"
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขับที่มีประสบการณ์มากแค่ไหน การขับรถในสภาพอากาศที่เลวร้ายบนพื้นถนนเปียก เป็นช่วงเวลาที่คุณต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ การสร้างเกราะป้องกันตัวเองด้วยความรู้ที่เพียงพอ ตลอดจนเรียนรู้เทคนิคต่างๆ จะช่วยให้คุณรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ดีขึ้น และเป็นผู้ขับที่มีความรับผิดชอบและคำนึงถึงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น