ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รวมรถยนต์พลังเทอร์โบน่าใช้

icon 16 ก.พ. 59 icon 40,300
รวมรถยนต์พลังเทอร์โบน่าใช้

รวมรถยนต์พลังเทอร์โบน่าใช้

ปัจจุบันเทคโนโลยีในการสร้างเครื่องยนต์พัฒนาไปไกลมากโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ความจุหรือจำนวนลูกสูบเยอะๆ เหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป นอกจากนี้ยังให้สมรรถนะสูง พร้อมความประหยัด แม้ความจุหรือขนาดเครื่องยนต์เล็กลงก็ตาม (Down-side) เครื่องยนต์เทอร์โบความจุต่ำๆ บางรุ่นให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ความจุสูงๆ ด้วยซ้ำไป มาดูกันว่ารถยนต์ซีดานเสริมพลังเทอร์โบรุ่นใดน่าใช้บ้าง...
1. Audi A3 Limousine 1.4 TFSI

Audi A3 Limousine รถหรูสไตล์สปอร์ต 4 ประตู ด้วยนวัตกรรม Light Weight Design ใช้ตัวถังอะลูมิเนียม เป็นองค์ประกอบในชิ้นส่วนที่สำคัญต่างๆ รวมถึงเครื่องยนต์และช่วงล่าง ทำให้รถ A3 Limousine มีน้ำหนักเบาเพียง 1,250 กิโลกรัม (Curb Weight) A3 Limousine เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกของรถซีดาน กับความโฉบเฉี่ยวของรถคูเป้ เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 TFSI ให้กำลังสูงสุดที่ 125 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร ที่รอบต่ำเพียง 1,500-3,000 รอบ/นาที ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 217 กม./ชม. และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.4 วินาที ระบบเกียร์แบบ S-Tronic 7 จังหวะ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 21.28 กม./ลิตร

2. Honda Civic 1.5 Turbo 


Honda Civic ใหม่ (ฮอนด้า ซีวิค) เจเนอเรชั่นที่ 10 เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่กลับมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า มาพร้อมดีไซน์พรีเมียมสปอร์ตตามสไตล์รถยุโรป ด้วยโครงสร้างตัวรถที่กว้าง และมีความสูงที่ต่ำลง ให้อารมณ์ความรู้สึกของการขับขี่แบบสปอร์ต และมั่นใจ โดยมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางยิ่งขึ้นใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอันทันสมัย ผสานกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย ด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) เพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง
All-new Honda Civic ราคา... รอวันเปิดตัวเร็วๆ นี้ 

3. Nissan Sylphy  1.6 DIG Turbo


Nissan Sylphy 1.6 DIG Turbo ใช้เครื่องยนต์ MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีด ไดเรคอินเจคชั่น ระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที โดยให้แรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) สูงสุดถึง 240 นิวตัน-เมตร ในช่วงรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,400-5,200 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร

4. MG6 1.8 X Turbo


MG6 Fastback แรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ที่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว นุ่มนวลในทุกการขับขี่ ทรงตัวดีเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันและด้านหลังแบบ Z-type มัลติลิงก์
MG6 มีหลายรุ่นย่อยราคาเริ่มต้น 818,000 บาท
5. MG5 1.5 X Sunroof Turbo

MG5 รถซีดานสไตล์คูเป้ แรงด้วยเครื่องยนต์ Turbo ขนาด 1.5 ลิตร แรงสุด 129 แรงม้า พื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่เทียบเท่ารถคอมแพกต์คาร์ กว้างขวาง นั่งสบาย เทคโนโลยีความปลอดภัยแบบเต็มพิกัดด้วย 9 Integrated Active Safety Systems สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง แสดงภาพจากกล้องมองหลัง เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ และ "inkaNet" เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างคนกับรถผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย เพื่อความปลอดภัย สะดวก และมั่นใจทุกเส้นทาง 

6. Nissan Pulsar 1.6 DIG Turbo


Nissan Pulsar DIG Turbo เร่งแซงได้ทันใจทุกจังหวะ ให้อัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเกินคาด สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเร้าใจเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันเกินคาดด้วยเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (พีเอส) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที โดยพัฒนาประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น เพื่อให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงขึ้น พร้อมเคลือบผิวเพลาลูกเบี้ยวด้วยเทคโนโลยีนาโน (Nano-Finish Coated) ช่วยลดแรงเสียดทานได้สูงสุด

7. Mercedes-benz A180 1.6 Turbo


Mercedes-Benz A180 Style โฉมใหม่ มาพร้อม เทคโนโลยี Dynamic Select ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ เช่น ระบบเกียร์ ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย หรือแม้กระทั่งระบบปรับอากาศห้องโดยสารจากปุ่มควบคุมเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยการตั้งค่าดังกล่าวมีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport, Eco และ Individual เครื่องยนต์เบนซิน ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 122 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร ที่ 1,250-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 202 กม./ชม.
8. BMW 118i 1.6 Turbo

BMW 118i Sport ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics เป็นคุณสมบัติมาตรฐาน พร้อมปรับแต่งรายละเอียดด้านดีไซน์มากมายทั้งภายในและภายนอกรถ โดยเพิ่มชุดอุปกรณ์ในรุ่นมาตรฐาน ควบคู่ไปกับออปชั่นใหม่ที่หลากหลาย เสริมทั้งประโยชน์ใช้สอยและรูปลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า จึงเร่งความเร็วถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.7 วินาที ทั้งยังใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่าด้วยอัตราการเผาผลาญน้ำมัน 16.9 กม./ลิตร และมีระดับการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
9. Proton Suprima S 1.6 Turbo

Proton Suprima S สะท้อนความเหนือระดับด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย และสมรรถนะ ภายนอกออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการของชีวิตทันสมัย แฮตช์แบ็กทรงสปอร์ต มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยพวงมาลัยที่ตอบสนองได้รวดเร็วเท่าที่ใจต้องการ โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ มาพร้อมกับไฟ Day Time Running Light กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ไฟตัดหมอก สะกดทุกสายตาด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดที่ 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 205 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 4,000 รอบ/นาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ และเทคโนโลยี LOTUS RIDE and Handling
10. Volvo S60 T5 1.6 Turbo

Volvo S60 T4F มาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Drive-E Powertrains อันชาญฉลาดแบบเบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ 1,596 ซีซี 180 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร ให้สมรรถนะที่สูงขึ้น การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ไอเสียต่ำและการตอบสนองที่ดีเยี่ยม และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องยนต์ 4 สูบในท้องตลาดปัจจุบันประมาณ 10-30% เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สามารถลากจูงหรือขึ้นเนินชัน ขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลภาวะไอเสียต่ำแม้ทำงานในรอบต่ำ
11. Mini Hatch Cooper 1.5 turbo

Mini Cooper Hatch 5 Door Cooper ถือเป็นนวัตกรรมแห่งความสำเร็จอีกขั้นของการดีไซน์ที่เติมเต็มทุกอารมณ์ ด้วยมิติที่เพิ่มขึ้น ความยาวฐานล้อและความกว้างช่วงล้อด้านหน้าและด้านหลังเพิ่มขึ้น โดยที่นั่งด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้ปรับตำแหน่งได้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่เบาะโดยสารด้านหลังมากกว่าเดิม เบาะหลังยังสามารถพับแยกได้แบบ 60:40 สำหรับช่องเก็บสัมภาระที่กระโปรงหลังเพิ่มความจุมากขึ้น 51 ลิตร รวมเป็น 211 ลิตร และสามารถปรับพื้นที่เก็บสัมภาระกระโปรงหลังได้หลายระดับอีกด้วยมอบสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo Technology มอบพลังขับเคลื่อน 136 แรงม้า ด้วยเครื่องยนต์สามสูบ ให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุดด้วยความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที
12. Subaru Levorg 1.6 Turbo

Subaru Levorg มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 1.6 ลิตร 4 สูบนอน Boxer DOHC 16 วาล์ว AVCS Direct Injection Turbo DIT พร้อมระบบขับเคลื่อน Symmetrical All-Wheel Drive (AWD) ดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่น รูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวของเลอวอร์ค เน้นความเป็นรถสปอร์ตทัวริ่ง แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูกะทัดรัด แต่ก็มีห้องสัมภาระใหญ่ที่สุดถึง 522 ลิตร นอกจากนั้นในด้านการป้องกันคนเดินถนน ฝากระโปรงด้านหน้าและผนังห้องเครื่องยังได้รับการออกแบบให้มีโครงสร้างรับแรงกระแทกและชุดรับแรงกระแทกด้านข้างของห้องเครื่องยนต์อีกด้วย
13. Peugeot 408 1.6 Turbo

Peugeot 408 Turbo สัญชาติยุโรปโลโล้ "กรงเล็บสิงห์" (Lion claw) ภายในกว้างขวาง ภายในตกแต่งด้วยโครเมียม พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ครบครัน ทั้งจอแสดงผลมัลติฟังก์ชั่น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี Twin Scroll Turbo ที่ออกแบบร่วมกันระหว่าง PSA และ BMW พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ด้วยกำลังสูงสุด 165 แรงม้า และแรงบิด 24.4 กก.-ม. หรือ 240 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบ Porsche Tiptronic สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ 
14. Ford Fiesta 1.0 Sport EcoBoost

Ford Fiesta EcoBoost มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้สาย ฟอร์ด ซิงค์ และเครื่องยนต์อีโคบูสต์ ขนาด 1.0 ลิตร ขนาดเล็กแบบ 3 สูบ ไดเรคอินเจคชั่น เทอร์โบชาร์จและระบบวาล์วแปรผัน 125 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร  ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 20% หรือถึง 18.9 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า เครื่องยนต์ทั้งเบาและเงียบ มาพร้อมพลังและสมรรถนะที่เทียบเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร 
15. Citroen DS4 1.6 Turbo

Citroen DS4 รถอเนกประสงค์สไตล์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ยกสูงในสไตล์ Crossover แบบสปอร์ต 2+2 ประตู ด้านหลังลาดเทแบบรถสปอร์ต ประตูคู่หลังถูกออกแบบให้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ที่เปิดประตูด้านหลังถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ให้อารมณ์รถสปอร์ตคูเป้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ที่ให้พละกำลังสูดสุง 155 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ DSG ตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจในทุกย่านความเร็ว
รถยนต์พลังเทอร์โบแต่ละรุ่น น่าใช้ทั้งนั้น และก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน รวมถึงราคาอีกด้วย แล้วคุณล่ะชอบรุ่นไหน?
แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)