เทียบสเปค Eco car 5 ประตู รุ่นไหนคุ้มสุด
รถยนต์ประเภทประหยัดหรืออีโคคาร์ เริ่มมีมากขึ้นในประเทศไทยทั้งรุ่นตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบ็ก 5 ประตู และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากราคาที่ต่ำ และประโยชน์ในการใช้สอยที่ไม่ด้อยไปกว่ารถยนต์ระดับกลางขนาด 1.5 ลิตร แถมยังได้ความสะดวกคล่องตัว เล็กกะทัดรัด และประหยัดในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านเชื้อเพลิง ค่าบำรุงรักษา รถอีโคคาร์จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลาง หรือเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ รวมไปถึงผู้ต้องการใช้รถขนาดเล็กเพื่อขับในเมืองที่การจราจรติดขัด
วันนี้ทางเช็คราคา.คอม จะพาไปดูกันครับว่า รถ
Eco Car แบบแฮตช์แบ๊ก 5 ประตู ในบ้านเรามีรุ่นไหนที่น่าสนใจ และรุ่นไหนจะคุ้มที่สุด เราลองไปดูกันเลยครับ
Nissan March ราคา 388,000 - 558,000 บาท
Nissan March - นิสสัน มาร์ช ผู้นำเทรนด์รถประหยัด
จุดเด่น - รูปทรงน่ารักทันสมัยปรับโฉมใหม่ ตัวถังขนาดเล็กคล่องตัว แต่ภายในกว้างขวางเกินคาด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรุ่นท็อปที่มีให้ครบ และเป็นเจ้าแรกที่ใช้ระบบ Push Start Engine และยังมีระบบแอร์อัตโนมัติมาให้ด้วย
เครื่องยนต์ - HR12DE เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 1,198 ซีซี 79 แรงม้า รองรับ E20 เกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 15 นิ้ว
สมรรถนะ - อัตราเร่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง การเร่งแซงความเร็วต่ำๆ ทำได้ดีไม่อืด แต่ในช่วงความเร็วสูงๆ การเร่งแซงต้องกะระยะให้พอเหมาะ ระบบช่วงล่างนับว่าเกาะถนนระดับหัวแถวของรถระดับนี้ ไม่แข็งกระด้างเกินไป ยังมีความนุ่มนวลให้สัมผัสพอสมควร ระบบเบรกรองรับตัวรถขนาดนี้ได้สบายๆ น้ำหนักนุ่มเท้ากดแป้นเบรกไม่ต้องลึกมากก็ตอบสนองดี
ภายใน/การประกอบ/วัสดุ - คอนโซลหน้าและกลางอาจดูใช้วัสดุเน้นประหยัด ใช้พลาสติกฉีดขึ้นรูปเป็นหลัก แต่การประกอบทำได้เรียบร้อย จัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ แบบง่ายๆ ไม่ต้องงมหาขณะขับรถ เบาะออกจะนุ่มไปเล็กน้อย ไม่กระชับเท่าที่ควร แผงประตูบอบบางไปหน่อยตามราคาค่าตัว ช่องเก็บและใส่ของจุกจิกมีเยอะพอควร และที่วางแก้วน้ำอย่างจุใจ
ค่าบำรุงรักษา/ภาษีประจำปี - มาร์ชใช้เครื่องยนต์เพียง 1,198 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 1,197 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
ตารางค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา นิสสัน มาร์ช Mitsubishi Mirage ราคา 380,000 - 546,000 บาท
Mitsubishi Mirage - มิตซูบิชิ มิราจ คุ้มราคา Option เต็มคัน
จุดเด่น - มิตซูบิชิ มิราจ เปิดตัวด้วยความเล็กกะทัดรัด แต่ให้ Option เพียบ รูปทรงตลอดคันมีเหลี่ยมสันออกแนวสปอร์ตนิดๆ ส่วนหลังคาจะเตี้ยกว่ามาร์ชเล็กน้อย แต่ช่วยลดแรงต้านอากาศได้ ระบบเครื่องเสียงในรุ่นสูงๆ เป็นจอสัมผัสใช้งานได้ครบทุกการเชื่อมต่อ ความประหยัดยังอยู่ระดับหัวแถว และเป็นเจ้าเดียวที่มีระบบตัด-ต่อกำลังระหว่างชุดส่งกำลังไปยังล้อเพื่อลดภาระเครื่องยนต์ขณะจอดนิ่งโดยที่ค้างตำแหน่งเกียร์ไว้ที่ "D" เพื่อความประหยัดน้ำมันขึ้นอีก และที่สำคัญรุ่นท็อปจะมีสเกิร์ตรอบคัน และสปอยเลอร์หลังมาครบแทบไม่ต้องแต่งเพิ่ม และปุ่ม Start/Stop Engine แถมด้วยลูกเล่นกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อกดล็อคประตู
เครื่องยนต์ - เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 1,193 ซีซี 78 แรงม้า รองรับน้ำมัน E20 เกียร์อัตโมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 14 นิ้ว
สมรรถนะ - อัตราเร่งออกตัวของมิราจอยู่ในระดับที่พอเพียง แต่ในช่วงเร่งแซงที่ความเร็วสูงๆ ย่อมไม่ทันใจตามกำลังเครื่องยนต์ที่มี ต้องกะระยะให้ปลอดภัย แต่ไม่ถึงกับแย่นักถ้าเร่งแซงในช่วงความเร็วจาก 70 - 100 กม./ชม. นั้นยังสบายๆ ครับ ระบบช่วงล่างมิราจถูกผลิตมาในแบบรถประหยัดใช้งานในเมืองเป็นหลัก ดังนั้นจึงเน้นความนุ่มนวลอาจจะย้วยไปบ้างเมื่อขึ้นเนินกระดกแรงๆ และในช่วงความเร็วสูงๆ ก็ต้องใช้สมาธิพอควร เนื่องจากตัวรถที่เบาและช่วงล่างที่นิ่ม แต่ถ้าเป็นทางตรงยาวๆ นั้น ใส่ได้เต็มๆ เพียงแค่ลดความเร็วลงมาให้เหมาะสมเมื่อจะเข้าโค้ง ส่วนระบบเบรกความรู้สึกใกล้เคียงรถระดับเดียวกันไม่แข็งและนิ่มไป แต่ต้องขับให้คุ้นเคย เพราะแตะไม่ลึกมาก รถจะหยุดหัวคะมำได้
ภายใน/การประกอบ/วัสดุ - คอนโซลหน้าและกลางออกแบบสไตล์เปียโนแบล็ค ดุดันแบบสปอร์ต ทันสมัยและงานประกอบรวมถึงวัสดุที่ใช้ค่อนข้างจะดีกว่าเจ้าอื่นๆ หากไม่จับบีบหรือกดแรงๆ จะดูเหมือนวัสดุที่ใช้ในรถระดับ 1.6 หรือ 1.8 เลยทีเดียว การจัดวางชุดควบคุมต่างๆ นับว่าลงตัว และสวยงามไม่แพ้รถขนาดกลาง เบาะนั่งสบายและกระชับ ที่ฐานเกียร์ดูหรูหราและเป็นแบบขั้นบันได เครื่องเสียงจอสัมผัส และแอร์แบบอัตโนมัติ
ค่าบำรุงรักษา/ภาษีประจำปี - มิตซูบิชิ มิราจใช้เครื่องยนต์เพียง 1,193 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 1,189 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
ตารางค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา มิตซูบิชิ มิราจ
Kia Picanto ราคา 425,000 - 551,000 บาท
Kia Picanto - เกีย พีเคนโต้ รถเล็กยอดนิยมระดับโลก
จุดเด่น - เกีย พีเคนโต้เป็นรถที่ไม่ควรมองข้าม แม้จะเป็นแบรนด์ที่ไม่นิยมในไทยมากนัก แต่กลับโด่งดังมากในทวีปยุโรปและแถบอเมริกา ด้วยรูปทรงที่ออกแบบได้สวยงามสมสัดส่วนทั้งไฟหน้า กระจังหน้า กันชน ช่องไฟตัดหมอก โดยเฉพาะไฟท้ายที่มีรูปทรงและสีสันสวยงามยามค่ำคืน เครื่องเสียงรองรับ CD/MP3/USB/AUX
เครื่องยนต์ - เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL CVVT 1,248 ซีซี 87 แรงม้า รองรับ E20 เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ แบบ Gate-type ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 14 นิ้ว
สมรรถนะ - พีเคนโต้มีอัตราเร่งที่อยู่ในระดับกลางๆ ไม่จัดจ้าน แต่ไม่อืดจนตามใครไม่ทัน เนื่องจากโครงสร้างและตัวถังนั้นรวมแล้วมีน้ำหนักค่อนข้างมากกว่าคู่แข่งสักเล็กน้อยคือประมาณ 1,000 กิโลกรัมเศษๆ แต่ความคล่องตัวด้วยวงเลี้ยวแค่ 4.7 เมตรและช่วงล่างที่ปรับมาได้ดี ทำให้เมื่อขับความเร็วสูงๆ แน่นหนึบกว่ารถระดับเดียวกัน
ภายใน/การประกอบ/วัสดุ - คอนโซลหน้าและกลางออกแบบได้สวยแปลกตาไม่ซ้ำใครดูไม่เบื่อ พร้อมกับลูกเล่นโทน 2 สีสลับกัน พวงมาลัยกับมาตรวัดที่ดูสวยและน่าขับที่สุดในบรรดาอีโคคาร์ เบาะนั่งกระชับพอควรและมีพื้นที่วางขากับเหนือศีรษะกำลังดี แม้หลังคาจะไม่สูงมาก แต่การออกแบบของรถยนต์เกียมักเน้นไปทางคนรูปร่างยุโรปอยู่แล้ว สำหรับไซส์คนไทยจึงสบายๆ ส่วนวัสดุและการประกอบนับว่าดีที่สุดในกลุ่มอีโคคาร์เช่นกัน เนื่องจากนำเข้าทั้งคันจากโรงงานเกาหลีแท้ๆ ดังนั้นต้องยอมรับว่าการประกอบได้มาตรฐานโรงงานโดยตรงแน่นอน
ภาษีประจำปี - เกีย พีเคนโต้ ใช้เครื่องยนต์ 1,248 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 1,272 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ และเกียรับประกันคุณภาพนานกว่าเจ้าอื่นๆ ที่ 5 ปี
Toyota Yaris ราคา 469,000 - 599,000 บาท
Toyota Yaris - โตโยต้า ยาริส รถประหยัดรุ่นแรก แต่ทำการบ้านมาดี
จุดเด่น - โตโยต้า ยาริส มีจุดเด่นที่ความกว้างของพื้นที่ผู้โดยสารตอนหลังไม่แพ้นิสสัน อัลเมร่า รูปทรงใช้พื้นฐานจากรถขนาด 1.5 ลิตรหรือใกล้เคียงวีออส แต่ใช้ลดความจุเครื่องยนต์ลงเหลือ 1.25 ลิตร เพื่อให้เข้าข่ายรถอีโคคาร์ สามารถทำราคาต่ำลงมาสู้กับคู่แข่งในตลาดได้ ยาริสมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มคันในรุ่นท็อป แซงหน้าคู่แข่งบางรุ่น และเหมือนคุณได้ใช้รถขนาด B-segment แต่ประหยัดเทียบเท่าอีโคคาร์ และราคาถูกจนไม่เหนื่อยตอนผ่อนค่างวด
เครื่องยนต์ - เบนซิน 3NR-FE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i 1,197 ซีซี 86 แรงม้า รองรับ E20 เกียร์อัตโนมัติ Super CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 15 นิ้ว
สมรรถนะ - ยาริสเป็นรถค่อนข้างตัวใหญ่และน้ำหนักมากกว่าอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ แต่มีเครื่องยนต์เล็กดังนั้น การคาดหวังเรื่องความแรงคงต้องทำใจ อัตราเร่งพอไปได้แบบ "ชิล-ชิล" อย่าใจร้อนนัก แต่ก็ไม่ถึงกับรอจนหลับ การเร่งแซงแค่เผื่อระยะทางมากหน่อย ส่วนระบบช่วงล่างและเบรกนั้น เน้นว่าดีกว่าและเหนือกว่ารถระดับเดียวกัน ซึ่งเราจะได้ระบบความปลอดภัยมาแทนที่ความแรง และพวงมาลัยที่แม่นยำเพราะมีพื้นฐานใกล้เคียงกับวีออสนั่นเอง
ภายใน / การประกอบ / วัสดุ - โตโยต้า ยาริส มีสิ่งที่เหนือกว่ารถระดับเดียวกันอีกอย่างนั่นคือ ภายในที่ใช้วัสดุและการประกอบที่เรียกว่าสวยงาม ทนทาน ใช้งานง่าย และเนี้ยบ ซึ่งก็เป็นการนำเอาพื้นฐานเดียวกันจากวีออสเช่นกัน เบาะนั่งทรงกระชับและนั่งสบาย พื้นที่ใช้สวยกว้างขวาง โดยเฉพาะที่นั่งตอนหลังที่กว้างมากกว่าโตโยต้าวีออสด้วยซ้ำไป
ภาษีประจำปี - โตโยต้า ยาริส ใช้เครื่องยนต์ 1,197 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 1,195.5 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ และเกียรับประกันคุณภาพนานกว่าเจ้าอื่นๆ ที่ 5 ปี
รายละเอียดการบำรุงรักษาตามระยะทาง (ข้อมูลโตโยต้ายารีสใหม่ยังไม่อัพเดท)
Honda Brio 454,000 - 533,000 บาท
Honda Brio - ฮอนด้า บริโอ รถประหยัดคันเล็กแต่จี๊ดจ๊าดที่สุด
จุดเด่น - ฮอนด้า บริโอจุดเด่นหลักเลยคือเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากสุดในกลุ่มอีโคคาร์ในประเทศไทย ณ ขณะนี้ และรูปทรงที่สามารถนำไปตกแต่งให้ดูสวย-โหด-ดุ จากของแต่งหลากหลายสำนัก รูปทรงด้านหน้าที่ลู่ลมทันสมัยคล้ายกับรุ่นแจ๊ส และจุดเด่นที่กลายเป็นจุดด้อยทันทีคือ ฝาท้ายที่แบนและมีพื้นที่น้อยสุดในบรรดารถระดับนี้ แต่โชคดีของคนซื้อล็อตหลังๆ ที่ติดที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังมาให้แล้ว
เครื่องยนต์ - เบนซิน 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC 1,198 ซีซี 90 แรงม้า รองรับ E20 เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 14 นิ้ว
สมรรถนะ - ฮอนด้า บริโอ มีอัตราเร่งที่ดีเกินตัว น้ำหนักรถเพียง 900 กว่ากิโลกรัม ทำให้ออกตัวดีรวมทั้งการเร่งแซงได้เปรียบกว่าอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ซึ่งแรงม้าขนาด 90 ตัวนั้น ในรถฮอนด้าแจ๊สรุ่นแรกที่ไม่มีระบบวีเทค (i-DSI) มีแค่ 88 แรงม้า ส่วนรุ่นวีเทคแค่ 110 แรงม้า จะเห็นว่ายังไงบริโอก็กระฉับกระเฉงกว่ารถระดับเดียวกันอย่างชัดเจน แต่ต้องระวังเรื่องช่วงล่างที่นับว่ายังด้อยกว่ารุ่นอื่นๆ อยู่มาก และอย่าลืมว่านี่คือรถประหยัด ควรใช้ความเร็วปานกลางก็พอ ดังนั้นทางฮอนด้าถึงล็อคความเร็วไว้ประมาณ 145 กม./ชม. (อยากแรงกว่านี้ต้องไปแก้ระบบเองครับ) เพราะห่วงความปลอดภัยของลูกค้านั่นเอง
ภายใน / การประกอบ / วัสดุ - มาถึงจุดนี้ต้องยอมรับว่าภายในรวมของเจ้าบริโอ นั้นอยู่ในเกรดเกือบต่ำสุด (ดีกว่าซูซูกิ เซเลลิโอเล็กน้อย) เพราะการลดต้นทุน การใช้วัสดุที่ลดมลพิษมาประกอบรวมกันเป็นอีโคคาร์ แต่โครงสร้างยังคงปลอดภัยตามมาตรฐานสากลครับ ยังพอมีชิ้นส่วนที่กู้หน้าตาได้คือ เครื่องเสียงที่ทันสมัยเชื่อมต่อได้หลากหลาย และฐานเกียร์เหมือนกับฮอนด้า แจ๊ส (รุ่นรหัส GE) ที่เหลือก็คิดว่าแลกกับรูปทรงที่สวยและเครื่องยนต์แรงขับสนุกกว่าก็พอรับได้
ภาษีประจำปี - ฮอนด้า บริโอ ใช้เครื่องยนต์ 1,198 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 1,197 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ และเกียรับประกันคุณภาพนานกว่าเจ้าอื่นๆ ที่ 5 ปี
ตารางค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาฮอนด้า บรีโอ
Suzuki Celerio - ซูซูกิ เซเลริโอ รถ 1,000 ซีซี ราคาประหยัด ไม่อึดอัด ต้นจัดปลายไหล
จุดเด่น - ซูซูกิ เซเลริโอ A-segment เพิ่งเปิดตัวเป็นรถอีโคคาร์แท้ๆ คันแรกที่ใช้เครื่องยนต์เล็กสุดเพียง 998 ซีซี ที่ประหยัดที่สุด ขับสนุกไม่แพ้เครื่่อง 1.2 ลิตรของรุ่นอื่นๆ และมีความกว้างขวางภายในห้องโดยสารเทียบเท่ารถแฮตช์แบ็กขนาด 1.2 ลิตรบางรุ่น โดยเฉพาะส่วนหลังคามีพื้นที่เหนือศีรษะมากเป็นพิเศษ และยังมาพร้อมช่วงล่างที่หนึบ และที่ใส่ของท้ายรถกว้างกว่ารุ่นสวิฟต์เสียอีก
เครื่องยนต์ - เบนซิน K10B 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 998 ซีซี 68 แรงม้า รองรับ E20 เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 14 นิ้ว
สมรรถนะ - อัตราเร่งของเซเลริโอไม่ธรรมดา ด้วยความเบาของรถเพียง 800 กว่ากก. แม้มีกำลังแค่ 68 แรงม้า แต่ทำได้น่าประทับใจมาก การเร่งแซงช่วงความเร็วสูงๆ ก็ไหลแบบเรื่อยๆ ไม่ต้องลุ้นมากนัก แถมช่วงล่างที่คิดว่าน่าจะโคลงเคลงยวบยาบกลับดีเกินคาด พวงมาลัยควบคุมได้แม่นยำ ความเร็วปลายยิ่งน่าตกใจเครื่อง 998 ซีซี ปลายไหลขึ้นไปเรื่อยๆ เกิน 170 กม./ชม.นะครับ
ภายใน / การประกอบ / วัสดุ - ซูซูกิ เซเลรีโอ ใช้วัสดุต้นทุนต่ำเพื่อให้เป็นรถประหยัดราคาถูก แต่กลับใช้ของค่อนข้างดี และการประกอบที่เนี้ยบมาก มีความแข็งแรงเมือลองกด เคาะเบาๆ รวมทั้งการออกแบบคอนโซลและแผงหน้าปัดเลียนแบบได้ใกล้เคียงซูซูกิ สวิฟต์ ทำให้ดูน่ารักและทันสมัยลบจุดด้อยอื่นๆ ไปได้เลย
ภาษีประจำปี - ซูซูกิ เซเลริโอ ใช้เครื่องยนต์ 998 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 897 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ และเกียรับประกันคุณภาพนานกว่าเจ้าอื่นๆ ที่ 5 ปี
Suzuki Swift - ซูซูกิ สวิฟต์ อีโคคาร์น่าหลงใหล+ยอดขายแซงหน้าเจ้าตลาด
จุดเด่น - ซูซูกิ สวิฟต์ เป็นที่รู้จักถึงความสวย น่ารักกับแนวการแต่งแบบ "มินิสไตล์" ทำให้ถูกใจสาวๆ และหนุ่มๆ ที่แอบชอบมินิ แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า รูปทรงออกแบบให้ดูทันสมัยในสไตล์ยุโรป บั้นท้ายสวยงามโฉบเฉี่ยว และความแตกต่างของสวิฟต์ที่ชัดเจนคือ รุ่นท็อปให้ล้อแม็ก 16 นิ้วมาให้ เรียกว่าคุ้มค่าจริงๆ
เครื่องยนต์ - เบนซิน K12B 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,242 ซีซี 91 แรงม้า รองรับ E20 เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วงล่างพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS กันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท - หลังทอร์ชั่นบีม เบรกหน้าดิสก์ - หลังดรัม ล้อขนาด 16 นิ้ว
สมรรถนะ - อัตราเร่งของสวิฟต์นับว่าพอตัวไม่แรงจัดจ้าน พื้นฐานโครงสร้างใช้ร่วมกับรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร (ในต่างประเทศ) แต่ไม่อืดอาด สรุปคือ ใช้งานทั่วไปได้อย่างเหลือเฟือ การเร่งแซงก็ไม่รอจนลุ้น แค่กะระยะให้เหมาะสม ความเร็วปลายไหลได้เรื่อยๆ กว่า 170 กม./ชม. ระบบช่วงล่างที่หนึบกำลังดี มีอาการยวบบ้างเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว พวงมาลัยควบคุมล้อได้แม่น น้ำหนักกำลังดี ขณะผ่านคอสะพานบางครั้งอาจมีอาการย้อยบ้าง แต่ขับโดยใช้ความเร็วกลางๆ นับว่านุ่มสบายไม่แพ้รถขนาดกลางเลย
ภายใน / การประกอบ / วัสดุ - สวิฟต์ออกแบบภายในได้สวยลงตัว ดูสปอร์ตทันสมัย ใช้วัสดุและการประกอบที่เรียบร้อย อุปกรณ์บางอย่างที่มีให้เทียบเคียงกับรถระดับกลาง เบาะนั่งนุ่มสบาย ลดการเมื่อยล้าแม้ขับเดินทางไกลๆ ระบบเครื่องเสียงที่ทันสมัยหลากหลายฟังก์ชั่น และมาตรวัดที่ดูลงทุนมากกว่ารถอีโค่คาร์รุ่นอื่นๆ อีกด้วย
ภาษีประจำปี - ซูซูกิ สวิฟต์ ใช้เครื่องยนต์ 1,242 ซีซี ดังนั้นจึงชำระค่าภาษีประจำปีเพียง 1,263 บาท ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้นภาษีจะลดลงปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
ตารางค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาซูซูกิ สวิฟต์
สำหรับรถยนต์ประหยัด หรืออีโคคาร์ (Eco car) เป็นรถที่เน้นการใช้งานในเมืองที่ให้ความคล่องตัว กะทัดรัด ประหยัด และมีความอเนกประสงค์ในตัว ใช้งานเดินทางไกลบ้างก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วสูงๆ ดังนั้นการนำรถประเภทนี้มาตกแต่งเพิ่มความแรง ควรคำนึงถึงความสามารถของตัวรถ และความปลอดภัยบนท้องถนนนะครับ ส่วนคำถามที่ว่ารถรุ่นไหนจะคุ้มที่สุด ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานด้านใดเป็นสำคัญ ผู้ซื้อก็ควรเลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง แล้วคุณจะได้รถที่ตรงใจและคุ้มค่ามากที่สุดครับ