AUDI รุกตลาดประเทศไทย "ปรับราคาลงทุกรุ่น" ขายดีจนส่งมอบไม่ทัน !

บริษัท เยอรมัน มอเตอร์ เวอร์ค จำกัด (German Motor Work Co., Ltd.) ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ออดี้ (Audi) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยแผนกลยุทธ์การตลาดในเมืองไทยรูปแบบใหม่ พร้อมได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากบริษัทรถยนต์ออดี้ประเทศเยอรมันนีอย่างเต็มที่ในการปรับราคาจำหน่ายรถยนต์ออดี้ในแต่ละรุ่นให้ต่ำลง เพื่อรุกตลาดรถยนต์ระดับ Luxury car ที่มาพร้อมสมรรถนะและสามารถสัมผัสเทคโนโลยีของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ระบบเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro (ควอโทร) อันเลื่องชื่อ และความปลอดภัยที่มีให้เป็นมาตรฐานเหนือกว่าคู่แข่ง

ขายดีจนส่งมอบไม่ทัน !

รถคุณภาพอย่าง Audi หลังปรับราคาลงมาค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้ขายดีมากจนส่งมอบให้ลูกค้าแทบไม่ทัน รถยอดฮิตบางรุ่น คิวส่งมอบยาว 3 - 4 เดือน ทำให้ Audi ต้องรีบผลิตเพื่อส่งมอบให้ทัน เพราะขายดีมากๆ

ราคาน่าสนใจแค่ไหน เราเอาราคารถบางรุ่น มาเปรียบเทียบให้ดู ดังนี้

AUDI Q5 2.0 TDI quattro เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร
ราคาเดิม 3.89 ล้านบาท เหลือ 3.199 ล้านบาท

AUDI Q3 2.0 TFSI quattro ราคาเกรย์มาร์เก็ต 2.9 - 3.9 ล้านบาท
เหลือ 2.399 ล้านบาท

AUDI Q7 3.0 TDI quattro เครื่องดีเซล 3.0 ลิตร
ราคาเดิม 6.85 ล้านบาท เหลือ 5.99 ล้านบาท

AUDI A8L 2.0 TFSI hybrid เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร
ราคาเดิม 6.99 ล้านบาท เหลือ 5.99 ล้านบาท

AUDI A4 รุ่นเดิมเครื่องเบนซิน 1.8 ลิตร ราคา 2.69 ล้านบาท
รุ่นใหม่เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร เพียง 2.55 ล้านบาท

World Famous quattro 4WD

quattro เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะของ AUDI จะควบคุมการส่งถ่ายกำลังแบบแปรผันสู่ล้อทั้ง 4 ตามสภาพถนน ตอบสนองทุกสภาวะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ โครงสร้างของตัวถังมีส่วนผสมของอะลูมิเนียม น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง เพื่อความปลอดภัย มั่นใจแม้เกิดเหตุไม่คาดคิด ลูกค้าหลายต่อหลายคนที่เคยใช้รถยุโรปยี่ห้ออื่น เมื่อได้ลองขับรถยนต์ออดี้ส่วนใหญ่จะติดใจสมรรถนะที่ดีของเครื่องยนต์ ช่วงล่างและรวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ซึ่งเกาะถนนได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อเวลาขับเข้าทางโค้ง

quattro ดียังไง?

ราคาถูกกว่า Grey Market แต่คุณภาพยังคับแก้วเหมือนเดิม

แม้ AUDI จะปรับราคาลงมาค่อนข้างเยอะจนถูกกว่า Grey Market แต่ยังคงคุณภาพและสมรรถนะคับแก้วเช่นเดิม ทั้งความหรูหรา อุปกรณ์ครบถ้วน พร้อมความปลอดภัย เพื่อให้เป็นเจ้าของยนตรกรรมเยอรมันแท้ๆ ได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจกับคุณภาพของ Audi มาตรฐานสูงสุดจากโรงงาน ไม่ต้องกังวลเหมือนกับกรณีที่ซื้อรถจาก Grey Market เพราะรถทุกคันได้รับการออกแบบ ผลิต และทดสอบตามสภาวะภูมิอากาศ และภูมิประเทศในประเทศไทยโดยเฉพาะ พร้อมการรับประกันและดูแลคุณภาพจากโรงงานออดี้เยอรมันโดยตรง ซี่งแตกต่างจากการนำเข้าของเกรย์มาร์เก็ตที่ใช้สเปครถจากประเทศอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งเป็นรถที่ผลิตเพื่อใช้ในยุโรปทีมีอากาศหนาว ไม่ได้ผลิตตามสเปคเพื่อส่งขายในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทยทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญหลายชิ้นไม่เหมาะกับการใช้งานในบ้านเรา ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง และเริ่มมีปัญหาตามมาในภายหลัง ที่สำคัญการบริการหลังการขายที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่สามารถอัพเกรดโปรแกรมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ ในภายหลังเมื่อจำเป็น

นอกจากนี้รถที่ซื้อจาก Grey Market ยังมีปัญหาในเรื่องการรับประกันคุณภาพรถยนต์จากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ออดี้ (World wide - Warranty) ที่ไม่สามารถใช้ได้ และการที่ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการปฏิเสธการรับบริการซ่อมบำรุงรักษาหลังการขาย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ใช้ในภายหลัง เพราะผู้นำเข้าเกรย์มาร์เก็ตมักไม่มีอุปกรณ์เครื่องมือในการตรวจเช็คและซ่อมบำรุงที่ทันสมัยตามมาตรฐานจากออดี้เยอรมัน รวมถึงช่างเทคนิคที่ขาดความชำนาญเฉพาะทาง และที่สำคัญ ในกรณีที่ Audi ตรวจพบว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเรียกคืนรถในเอเชีย เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รถ Grey Market จะไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการเรียกคืนแต่อย่างใด 

เนื่องจากในปัจจุบันโชว์รูมเกรย์มาร์เก็ตได้นำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศมาจำหน่าย โดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง หรือบางแห่งนำเข้ามาแบบหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า เมื่อมีการตรวจสอบจากทางภาครัฐฯ ทั้งผู้จำหน่ายและผู้ซื้อมีโอกาสถูกตรวจสอบการชำระภาษีย้อนหลังและอาจถึงขั้นถูกยึดรถได้ ในกรณีที่ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดการชำระภาษีของรถคันนั้นๆ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับผู้บริโภคที่ไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง

ดังนั้นภาระต่างๆ จึงตกมาที่ผู้ซื้อรถโดยตรง เมื่อขายต่อ ราคาก็จะตกลงมามาก และเมื่อใช้งานไปจนถึงระยะที่ต้องมีการบำรุงรักษาตามขั้นตอนของรถออดี้ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้งานในไทยโดยตรง รถเกรย์มาร์เก็ตก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อถึงจุดนั้น เจ้าของรถก็มักจะขายทิ้ง เพราะปัญหาจุกจิก ซ่อมไม่จบไม่สิ้น ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญว่า "ทำไมต้องซื้อรถยนต์ออดี้จากดีลเลอร์แท้เยอรมันเท่านั้น"

ทั้งนี้ ผู้อ่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ที่บทความ "เข้าใจรถเกรย์ มาร์เก็ต"

7 รุ่น 7 แบบ 7 สไตล์

รถยนต์ออดี้ใหม่มี 7 รุ่น 7 สไตล์พร้อมให้ลูกค้าสัมผัสสมรรถนะ ความหรูหราและความปลอดภัย กับราคาใหม่ที่ให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยจะเริ่มทยอยนำเข้ารุ่นใหม่ๆ ภายในปี 2014 เป็นต้นไป ได้แก่

Audi A4 2.0 TDI ซีดานสุดหรูขนาดกลาง ปรับโฉมใหม่หมดจากรุ่นก่อนหน้าพร้อมอุปกรณ์ ไฟหน้าแบบ Xenon และ LED Daytime running เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งระบบปรับอากาศแยกส่วน 3 โซน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เบาะหนังแท้ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ระบบควมคุมความเร็วความบังเทิงทุกรูปแบบเชื่อมต่อ iPod, Bluetooth, mp3 มาพร้อมความปลอดภัยเต็มคันด้วยถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง และที่ศีรษะ ระบบเบรก ABS, EBD, ESC และ ASR

เครื่องยนต์แบบดีเซลคอมมอลแรลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติมัลติโทรนิกส์ 6 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20.83 กม./ลิตร

ออดี้ A4 2.0 TDI พิเศษด้วยราคาจำหน่ายเพียง 2,550,000 บาท เท่านั้น ซึ่งปกติการใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลมักจะมีราคาสูงกว่าเบนซิน แต่ออดี้ปรับราคาให้ถูกกว่ารุ่นเดิมคือ A4 1.8 TFSI ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 160 แรงม้า ที่จำหน่ายราคา 2,690,000 บาท

Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro รถสปอร์ตคูเป้ขนาดกลางสำหรับผู้ชื่นชอบความแรงแต่ประหยัด พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายและความบันเทิงที่ครบคัน เหมือนออกมาจากรุ่น A6 ระบบความปลอดภัยเต็มคัน ระบบกันขโมย Immobilizer generation 5 ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี เบรก ABS ระบบ ESP, ASR, EBD เป็นต้น

เครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบ เพียง 2.0 ลิตร แต่อัดแน่นเทคโนโลยีเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ทำให้มีกำลังมากถึง 224 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,500 - 4,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติมัลติโทรนิกส์ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยระบบ quattro เอกสิทธิ์ของออดี้เท่านั้น ที่ปรับพลังขับเคลื่อนได้สมดุลในทุกสภาพถนน ผสานช่วงล่างแบบสปอร์ต อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.93 กม./ลิตร ราคา 3,990,000 บาท

Audi A6 2.0 TFSI hybrid ใหม่ล่าสุด จำหน่ายที่เยอรมนีในปีค.ศ. 2012 ที่ผ่านมา บัดนี้ได้มาถึงเมืองไทยแล้ว ยนตรกรรมล้ำอนาคต พร้อมความประหยัดด้วยระบบไฮบริดอันทรงพลัง อัตราเร่งเร้าใจ ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ LED ให้ความสว่างสูง รวมไปถึงสามารถปรับลดแสงได้อัตโนมัติเมื่อมีรถยนต์วิ่งสวนมา ล้อแม็กลาย Turbine Design ขนาด 18" ลายเฉพาะรุ่น ส่วนห้องโดยสารภายในใช้เบาะหนังแท้ระดับ Top แผงคอนโซลปุ่มควบคุมต่างๆ จัดไว้อยู่ในตำแหน่งที่ใช้ง่ายสบายตา มาพร้อม Option ที่มากกว่าใคร อาทิ จอขนาด 7 นิ้ว แสดงการทำงานต่างๆ ของรถ

เครื่องยนต์แบบเบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 54 แรงม้า กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,500 - 4,200 รอบ/นาที ผ่านเกียร์อัตโนมัติทริปทรอนิกส์ 8 จังหวะ ใช้ระบบ Lithium-ion battery สามารถวิ่งด้วยโหมด "EV" หรือมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ในระยะทางต่อเนื่องถึง 3 กม. และทำความเร็วในโหมดนี้ได้ถึง 60 กม./ชม. พร้อมจอแสดงสถานะการทำงานในทุกโหมด อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.13 กม./ลิตร มีให้เลือก 3 สี นั่นคือ สีบรอนซ์, สีเทา และสีดำ ราคาเพียง 3,980,000 บาท

คุ้มค่าด้วยการรับประกันคุณภาพนานที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดระดับเดียวกันถึง 5 ปี หรือ 100,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน) พร้อมกับการรับประกันตัวถังปลอดสนิมนานถึง 12 ปี

Audi A8 2.0 TFSI LWB hybrid ยนตรกรรมซีดานหรูรุ่นตัวถังยาวพิเศษขนาดรถใหญ่สุดของค่าย เอาใจผู้บริหารที่ชื่นชอบรถในสไตล์หรูหรา กว้างขวาง แต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะอันทรงพลัง และความประหยัด เพียบพร้อมทั้งความสะดวกสบายทุกการเดินทาง เช่น ไฟหน้าแบบ LED Matrix ซึ่งเป็นระบบล่าสุดที่มี LED แยกดวง ปรับแสงสว่างได้อัตโนมัติ ระบบช่วยการจอดถอยหลังพร้อมจอภาพ ปลายท่อไอเสียคู่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแท้ จอแสดงผลอัจฉริยะ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ ไฟภายในห้องโดยสาร Ambient LED light ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน Solar sunroof, Rear seat entertainment, DVD changer และช่วงล่างแบบ Adaptive air suspension, Audi Exclusive folding table, เครื่องเสียง BOSE-CD/MP3/WMA/SDcard/Bluetooth, ระบบ Audi connect พร้อมลำโพง 8 จุด กำลัง 630 วัตต์, ระบบกันขโมย Immobilizer generation 5, ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี เบรก ABS ระบบ ESP, ASR, EBD เป็นต้น

เครื่องยนต์แบบเบนซิน 2.0 ลิตร TFSI เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 54 แรงม้า กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,500 - 4,200 รอบ/นาที ผ่านเกียร์อัตโนมัติทริปทรอนิกส์ 8 จังหวะ สามารถวิ่งด้วยโหมด "EV" หรือมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ได้ระยะทางต่อเนื่องถึงกว่า 1 กม. และทำความเร็วในโหมดนี้ได้ถึง 60 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.62 กม./ลิตร ราคาเดิม 6,990,000 บาท เหลือเพียง 5,990,000 บาท

Audi Q3 2.0 TFSI quattro SUV ขนาดเล็กกึ่งขนาดกลาง ซึงกำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้าอยู่มากมายในขณะนี้ มาพร้อมรูปทรงสไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว สวยงาม สไตล์ Crossover กับค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทาน (Cd) เพียง 0.32 ภายในสไตล์รถยนต์สปอร์ต เบาะนั่งสะดวกสบาย ขับสบาย Option มากกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน เช่น ไฟ Xenon พร้อมระบบฉีดล้างไฟหน้า ระบบช่วยการจอดถอยหลัง ปลายท่อไอเสียคู่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อม Shift paddle ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แบบ 3 ก้านหุ้มหนังแท้ จอแสดงผลอัจฉริยะ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน เครื่องเสียง CD/MP3/WMA/SDcard พร้อมลำโพง 8 จุด ระบบกันขโมย Immobilizer generation 5 ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี เบรก ABS ระบบ ESP, ASR, EBD เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ Audi Q3 ได้รับรางวัลความปลอดภัยสูงสุด "Best in Class" จากการทดสอบการชนโดย EURO NCAP (European New Car Assessment Program) ซึ่งเป็นเป็นองค์กรอิสระระดับนานาชาติที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาโดยสมาชิก ซึ่งมาจากการรวมตัวกันของสมาคมยานยนต์ในประเทศต่างๆ เช่น สเปน, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, อังกฤษ และสวีเดน รวมถึงหน่วยงานอย่างสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ หรือ FIA และ ADAC ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ รถยนต์ในเยอรมนี เพื่อการกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ด้วยการจัดการทดสอบชนรถยนต์ใหม่ ที่เริ่มทำตลาด และนำข้อมูลเหล่านี้เผยแพร่สู่สาธารณชนอย่างเป็นกลางเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการซื้อรถยนต์ใหม่

Audi Q3 มาพร้อมเครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบ เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 2.0 ลิตร 170 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 1,700 - 4,200 รอบ/นาที ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ quattro ลุยได้ทุกสภาวะ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 12.98 กม./ลิตร

ออดี้ Q3 2.0 TFSI ราคาเพียง 2,399,000 บาท และรุ่นพิเศษ S-Line เพิ่มอุปกรณ์ความสปอร์ตมากขึ้น เช่น กระจังหน้าโครเมียม, คิ้วหลังคาโครเมียม, กาบประตู S-Line, ปลายท่อไอเสียโครเมียม, ล้อแม็ก 18 นิ้วแบบ Sport, ปุ่ม Start/Stop, Driver Select โหมด Sport, เบาะหนังกลับแบบ Sport และเครื่องเล่น CD 6 แผ่น เป็นต้น ในราคา 2,990,000 บาท

นอกจากนี้ ทางเยอรมัน มอเตอร์ เวอร์ค ยังมีแผนนำเข้า Audi Q3 2.0 TDI quattro รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนแรลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 177 แรงม้า ในช่วงกลางปี 2014 ซึ่งราคาถูกตั้งเอาไว้ที่ 2,599,000 บาทเท่านั้น ซึ่งกว่ามากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเพียง 200,000 บาท แต่ได้ความประหยัดระดับ 16.94 กม./ลิตร และแรงบิดที่มากขึ้นถึง 380 นิวตันเมตร

Audi Q5 2.0 TDI quattro รถ SUV ขนาดกลางซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ เหนือกว่าด้วยอุปกรณ์ภายในครบครัน เช่น ไฟ Xenon พร้อมระบบฉีดล้างไฟหน้า ระบบช่วยการจอดถอยหลังพร้อมจอภาพ ปลายท่อไอเสียคู่ ราวหลังคาอะลูมิเนียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อม Shift Paddle หุ้มหนังแท้ จอแสดงผลคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Lambar Support ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน เครื่องเสียง CD/MP3/WMA/SDcard พร้อมลำโพง 8 จุด

เครื่องยนต์แบบดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 177 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ S tronic พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ quattro กระจายกำลังขับเคลือนทั้ง 4 ล้อได้อย่างสมดุลทุกสภาวะการขับขี่ มาพร้อมความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบกันขโมย Immobilizer generation 5 ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี เบรก ABS ระบบ ESP, ASR, EBD อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.76 กม./ลิตร รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มากมาย ทั้งแรงทั้งประหยัด ซึ่งเมื่อเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลมักจะมีต้นทุนการผลิตสูงมาก ราคาเดิม 4,199,000 บาท ลดเหลือเพียง 3,199,000 บาทเท่านั้น ซึ่งในรุ่นเดิมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 TFSI 211 แรงม้า มีแรงบิดน้อยกว่าที่ 350 นิวตันเมตร แต่ราคาสูงกว่าคือ 3,890,000 บาท ดังนั้นออดี้ Q5 2.0 ดีเซลใหม่จะประหยัดเงินได้มากถึง 691,000 บาท

Audi Q7 3.0 TDI quattro สุดยอด SUV ขนาดใหญ่ล่าสุดจากออดี้ รูปทรงโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ต หรูหรากว้างขวาง ตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์แบบนักธุรกิจภูมิฐาน และลุยได้ทุกทีในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดดเด่นด้วยไฟ LED กระจังหน้าสี่เหลี่ยมคางหมูสัญลักษณ์ของออดี้ อุปกรณ์ครบครัน เช่น ไฟ Xenon พร้อมระบบฉีดล้างไฟหน้า ระบบช่วยการจอดถอยหลังพร้อมจอภาพ ปลายท่อไอเสียคู่ ราวหลังคาอะลูมิเนียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้านหุ้มหนังแท้ จอแสดงผลคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Lumbar Support เบาะนังแถวที่ 2 ปรับเลื่อนหน้า-หลังหรือเอนนอนได้ และพับได้ 40-20-40 เบาะแถวที่ 3 พับได้แบบ 50-50 และยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 28 แบบ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน พร้อมช่องแอร์แถวที่ 2-3 เครื่องเสียง CD/MP3/WMA/SDcard/Audi music Interface พร้อมลำโพง 8 จุด เป็นต้น

เครื่องยนต์แบบดีเซลคอมมอลแรลเทอร์โบ วี 6 สูบ 3.0 ลิตร ปรับปรุงพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 245 แรงม้า จากเดิม 220 แรงม้า แรงบิดมหาศาลระดับ 550 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,750 รอบ/นาที ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ tiptronic พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ quattro กระจายกำลังขับเคลือนทั้ง 4 ล้อได้อย่างสมดุลทุกสภาวะการขับขี่ และความปลอดภัยเต็มคัน เช่น ระบบกันขโมย Immobilizer generation 5 ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี เบรก ABS ระบบ ESP, ASR, EBD เป็นต้น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.51 กม./ลิตร พร้อมด้วยการเพิ่ม Option ต่างๆ เช่น สัญญาณกันขโมย กล้องมองหลัง ตกแต่งโครเมียม ฯลฯ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท! ราคาเดิม 6,850,000 บาท เหลือเพียง 5,990,000 บาท ประหยัดเงินถึง 860,000 บาท

รายละเอียดข้อแตกต่างสเปคและราคาระหว่างรถยนต์ออดี้รุ่นใหม่และรุ่นเก่า

รุ่น	แรงม้า	แรงบิด นิวตันเมตร	อัตราสิ้นเปลือง เฉลี่ยกม./ลิตร	ราคา (บาท)
Audi A4 2.0 TDI *รุ่นเดิม Audi A41.8 TFSI	150 160	320 250	20.83  13.83	2,550,000 *2,690,000
Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro	224	350	14.93	3,990,000
Audi A6 2.0 TFSI hybrid + APS Program	211	350	16.13	3,980,000
Audi A8 2.0 TFSI LWB hybrid	211	350	15.62	5,990,000
Audi Q3 2.0 TFSI	170	280	12.98	2,399,000
Audi Q3 2.0 TDI	177	380	16.94	2,599,000
Audi Q5 2.0 TDI *รุ่นเดิม Audi Q5 2.0 TFSI	177 211	380 350	16.39 11.76	3,199,000 *3,890,000
Audi Q7 3.0 TDI quattro *รุ่นเดิม Audi Q7 3.0 TFSI	245 220	550 550	13.51 13.51	5,990,000 *6,890,00

AUDI พร้อมแล้วที่จะทะยานไปข้างหน้าเคียงคู่คนไทย ภายใต้แคมเปญ "Thailand land of quattro" เน้นสมรรถนะของระบบการควบคุมแรงบิดที่ล้อทั้ง 4 อย่างอัจฉริยะที่ติดตั้งเพิ่มให้ (เฉพาะรุ่น) ที่เหนือกว่ารถระดับเดียวกัน เพิ่มงานด้านบริการหลังการขายจากช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมจากออดี้ ในประเทศเยอรมัน และการแลกเปลี่ยนทัศนะพร้อมการรับบริการตรวจเช็คโดยช่างเทคนิคที่บินตรงจากบริษัทออดี้ประเทศเยอรมัน เพิ่อความอุ่นใจและเชื่อมั่นในของลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการเพิ่มศูนย์บริการรถยนต์ออดี้ให้ทั่วถึงครอบคุมลูกค้ามากขึ้น พร้อมการ "รับประกันคุณภาพนานถึง 2 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันตัวถังปลอดสนิม 12 ปี"

นอกจากนี้ ในปี 2014 ออดี้เพิ่มศักยภาพทั้งการเตรียมนำเข้ารถยนต์รุ่นต่างๆ อาทิ Audi A3 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.9 ล้านบาท, Audi Q1 รถ SUV ขนาดเล็กราคาประหยัด และอื่นๆ และมีแผนจะขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการที่ขึ้นตรงกับบริษัทรถยนต์ออดี้ในประเทศเยอรมัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกท่าน ที่จะได้ใช้รถยนต์คุณภาพเยี่ยมจากเยอรมนี พร้อมทั้งการบริการหลังการขายด้วยคุณภาพสูงสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เยอรมัน มอเตอร์ เวอร์ค จำกัด (German Motor Work Co., Ltd.) โทร. 02-719-7979 หรือเว็บไซต์ www.audi.co.th

รีบตัดสินใจกันนะครับ รถราคาพิเศษนำเข้าจำนวนจำกัดเท่านั้น "หมดแล้วหมดเลย" 

อย่าลืมบอกว่ารู้ข่าวมาจาก CheckRaKa.com เพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมนะครับ

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Audi ทุกรุ่น