ข้อปฎิบัติเมื่อขับรถช้ากว่าคันอื่นหรือผ่านวงเวียน
การจราจรบนท้องถนนที่ติดขัดหรือเคลื่อนตัวได้ช้า ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากผู้ขับขี่ที่ขับรถช้า และอยู่ในช่องทางขวาสุด การขับรถด้วยความเร็วประมาณ 80 - 90 กม./ชม. ในความเร็วระดับนี้หลายๆ คนคิดว่าสามารถขับเลนขวาสุดได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งในความจริงแล้วนั้นไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะตามกฎหมายที่แท้จริงของการเดินรถบนถนนทุกๆ เส้นทางจะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมอยู่ด้วยเช่นกัน
ในพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2522 ในหมวด 1 การขับรถ มาตรา 35 ได้ระบุเอาไว้ว่า
"รถที่มีความเร็วช้า หรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายเท้าที่จะกระทําได้"
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า หากเราจะขับรถในเส้นทางใดก็ตาม ทั้งทางด่วน หรือ ถนนทั่วไป หากความเร็วของรถเราช้ากว่ารถคันอื่นๆ ก็ควรจะขับชิดเลนซ้ายมากกว่าขับเลนขวานะครับ
นอกจากนี้ยังมีข้อปฎิบัติที่ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจมองข้ามไปอีกประการนั่นคือ การขับรถในวงเวียน
การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกหรือวงเวียน ควรปฎิบัติดังนี้
1. เมื่อผู้ขับขี่รถมาถึงทางร่วมทางแยก ให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติดังต่อไปนี้
- ถ้ามีรถอื่นอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถทางร่วมทางแยกนั้นผ่านไปก่อน
- ถ้ามาถึงทางร่วมทางแยกพร้อมกัน และไม่รออยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถที่อยู่ทางด้านซ้ายของตนไปผ่านไปก่อน
- เว้นแต่ในทางร่วมทางแยกใดมีทางเดินรถทางเอกตัดผ่านทางเดินรถทางโท ให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับขี่รถในทางเอกมีสิทธิขับผ่านไปก่อน
2. ทางเดินรถทางเอก ได้แก่ ทางเดินรถที่เจ้าพนักงานจราจรได้ประกาศ และติดตั้งเครื่องหมายจราจร แสดงว่าเป็นทางเดินรถทางออก หรือป้าย "หยุด" อยู่ที่ริมทางร่วมทางแยกนั้นให้ถือว่าเป็นทางเดินรถทางโท ทางดินรถอื่นนอกจากทางเดินรถทางเอก ตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าเป็นทางเดินรถทางโท
3. ในกรณีที่วงเวียนใดได้ติดตั้งสัญญาณจราจร ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามสัญญาณจราจร หรือเครื่องหมายจราจรนั้น
- ถ้าไม่มีสัญญาณจราจร หรือเครื่องหมายจราจรตามวรรคหนึ่ง เมื่อผู้ขับขี่รถมาถึงวงเวียนต้องให้สิทธิแก่ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถอยู่ในวงเวียน ทางด้านขวาของคนขับผ่านไปก่อน
- ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรเห็นสมควร เพื่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรจะต้องใช้สัญญาณ จราจรเป็นอย่างอื่นแล้วนอกจากที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ก็ได้ในกรณีเช่นนี้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามสัญญาณจราจรที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดให้
4. ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถออกจากทางบุคคล หรือทางเดินรถในบริเวณอาคาร เมื่อจะขับรถผ่านหรือเลี้ยวเข้าสู่ทางเดินรถที่ตัดผ่านต้องหยุดรถ เพื่อให้รถที่กำลังผ่านทาง หรือรถที่กำลังแล่นอยู่ในทางเดินรถผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับต่อไปได้