ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

VOLVO 240 ตำนานความปลอดภัยจากยุค 70

icon 27 ส.ค. 56 icon 43,371
VOLVO 240 ตำนานความปลอดภัยจากยุค 70

VOLVO 240 ตำนานความปลอดภัยจากยุค 70
เทคโนโลยียานยนต์ทุกวันนี้ก้าวหน้าไปมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะ ความเร็ว ความประหยัด เชื้อเพลิงทางเลือก เทคโนโลยีไฮบริด นวัตกรรมความปลอดภัย กว่าจะมาเป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งในวันนี้  "วอลโว่ 240" นับได้ว่าเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่พลิกโฉม และผลักดันให้วงการยานยนต์โลกเดินมาถึงจุดนี้ในวันนี้

ย้อนไปเมื่อปี 40 ปีก่อน ยุคที่กางเกงขาบาน เสื้อผ้าลายทาง ลายกราฟิก เพลงดิสโก้ดังกระหึ่มไปทั่วเมือง วอลโว่ 240 ก็ออกสู่ตลาดครั้งแรก แม้ว่าจะหน้าตาจะดูเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยมหน้ายาวๆ ท้ายยาวๆ อย่างที่หลายคนอาจจะเคยเห็นในหนังฮอตของฮอลลีวู้ดหลายเรื่อง เช่น The Hand That Rocks the Cradle และ Mystic Pizza  หรือหนังแรงๆ อย่าง Fatal Attraction  แต่ภายใต้โฉมแสนจะธรรมดานี่เองที่ซ่อนนวัตกรรม เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกของเราไว้มากมาย และเป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรมยานยนต์ที่ยังคงเรียกว่าล้ำยุคได้ในวันนี้


ในปัจจุบัน ค่ายรถยนต์เริ่มหันมาแข่งขันกันในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย เช่น โครงการ DRIVe ของวอลโว่ที่พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน อันเป็นก้าวสำคัญสู่การผลิตรถยนต์ปลอดไอเสีย และนำมาซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เครื่องยนต์เชื้อเพลิงทางเลือก FlexiFuel การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ลดแรงต้านและประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารสะอาด ปลอดภัยมากที่สุด   แน่นอน เมื่อ 40 ปีก่อน วอลโว่ 240 เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้
เมื่อเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2517 วอลโว่ 240 ดังเป็นพลุแตกเพราะระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เกินกว่าใครจะคาดถึงในยุคนั้น  เช่น การทดสอบความปลอดภัย และการปกป้องผู้โดยสารระหว่างเกิดอุบัติเหตุที่สำนักงานความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐอเมริกาจัดทำขึ้นโดยนำรถยนต์รุ่นต่างๆ มาทดสอบด้วยการชน พบว่า วอลโว่ 240 ชนะขาดในทุกการทดสอบ  และนี่ทำให้สำนักงานความปลอดภัยทางหลวงของสหรัฐอเมริกาได้ใช้มาตรฐานของวอลโว่ 240 เป็นมาตรฐานกลางของรถยนต์ทุกคันที่จำหน่ายในสหรัฐ
 

ส่วนในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมที่หลายๆ คนเพิ่งจะตระหนักเมื่อผลกระทบจากภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เป็นสิ่งที่วอลโว่ตระหนักและให้ความสำคัญมาตลอด  ในวอลโว่ 240 เป็นครั้งแรกที่มีความพยายามลดก๊าซที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยพัฒนาประสิทธิภาพของระบบเผาไหม้ให้สมบูรณ์ และควบคุมให้มีการปล่อยไอเสียในระดับต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อันเป็นที่มาของเซ็นเซอร์ที่ชื่อว่า Lambda ซึ่งอุปกรณ์จิ๋วรุ่นนี้เป็นนวัตกรรมด้านวิศวกรรมที่สามารถลดก๊าซ และสารประกอบที่เป็นตัวก่อมลพิษสำคัญคือ คาร์บอนมอนออกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน และไนตริกออกไซด์ลงไปได้ถึง 90%

ในยุคนั้น เทคโนโลยีการผลิตน้ำมันไม่ได้ทันสมัยเหมือนยุคนี้ ไม่ได้มีพลังงานสะอาดเช่นแก๊สโซฮอล์เป็นตัวช่วย เรียกว่า ความสำเร็จในการลดก๊าซและสารประกอบทั้ง 3 ชนิดนี้ เป็นฝีมือของเครื่องยนต์วอลโว่ล้วนๆ
สิ่งที่วอลโว่สร้างสรรค์ขึ้นได้จุดประกายแรงบันดาลใจ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  เช่น ในปีถัดจากที่วอลโว่ 240 ออกสู่ตลาดครั้งแรก รัฐแคลิฟอร์เนียตั้งกฎใหม่ กำหนดเพดานการปล่อยสารไฮโดรคาร์บอนไม่เกิน 0.41 กรัมต่อไมล์ คาร์บอนมอนออกไซด์ไม่เกิน 9.0 กรัมต่อไมล์ และไนตริกออกไซด์ไม่เกิน 1.5 กรัมต่อไมล์   ซึ่งนับว่าเป็นกฎที่เข้มข้นที่สุดในโลก แต่แน่นอนว่าไอเสียของวอลโว่ 240 มีสารเหล่านี้อยู่ในระดับต่ำกว่าที่รัฐแคลิฟอร์เนียกำหนด  และยังทำให้วอลโว่ได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมวิศวกรรมยานยนต์ยอดเยี่ยมจากรัฐบาลของนายจิมมี คาร์เตอร์ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น วอลโว่ 240 เป็นรถยนต์ที่ทำความเร็วได้เหนือใคร  ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่ผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วอลโว่ 240 เอาชนะรถยี่ห้ออื่นในสนามแข่งครั้งแล้วครั้งเล่าในยุโรป และกลายเป็นแชมป์ของกลุ่ม A ไปในที่สุด  และความสำเร็จภายใต้ตัวถังทรงกล่องนี่เองที่ทำให้วอลโว่ 240 ถูกเรียกเล่นๆ ว่า "Flying Brick" 
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่วอลโว่ตระกูล 240 ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และความโดดเด่นในหลายด้าน ทำให้กลายเป็นรถยนต์ที่เป็นเครื่องบ่งบอกสถานะของยัปปี้ หรือชาวยุโรปรุ่นใหม่ (ในยุคนั้น) ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย เช่น วอลโว่ 240 Polar ที่กลายเป็นรถที่เฟี้ยวที่สุดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990  และจุดยืนนี้ก็ยังคงอยู่ในปัจจุบัน เพราะวอลโว่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จ และมีสไตล์เป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ดี ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ในที่สุด วอลโว่ตัดสินใจหยุดผลิตวอลโว่ 240 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2536 หลังจากผลิตวอลโว่ 240 มานานถึง 19 ปี และออกสู่ตลาดไปแล้วรวมทั้งสิ้น 2,862,573 คัน เพื่อหลีกทางให้กับนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่  วอลโว่ได้ส่งมอบรถคันสุดท้ายจากสายการผลิตให้แก่สาวชาวสวีเดน โดยเป็นรถพิเศษที่สั้นกว่าคันอื่นๆ สะท้อนถึงระยะเวลาในการผลิตรถคันพิเศษนี้ที่น้อยกว่าคันไหนๆ และผู้ที่นำรถไปส่งมอบให้กับลูกค้ารายนี้คือประธานบริษัทของวอลโว่เอง
ทุกวันนี้ วอลโว่ 240 ยังคงวิ่งอยู่บนถนนตามที่ต่างๆ ทั่วโลก แม้จะมีอายุมากกว่า 20 ปี แต่ก็ยังคงใช้งานได้ดี  รวมทั้งยังมีแฟนคลับที่ชื่นชมและอนุรักษ์รถรุ่นนี้กันอย่างเหนียวแน่น  แต่ที่สำคัญคือ จิตวิญญาณและเทคโนโลยีด้านเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของวอลโว่ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นในรถยนต์วอลโว่รุ่น 240 นี้ ยังคงอยู่ และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้  ซึ่งทำให้วอลโว่ยังคงรักษาความเป็นหนึ่งและเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน
รถยนต์วอลโว่ในปัจจุบันมีรุ่นที่จำหน่ายมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ยึดถือมาเป็นอันดับ 1 ทุกรุ่นทุกคันเสมอมา

 VOLVO V40 T5 B 1,680,000 บาท และ VOLVO V40 T5 S 1,790,000 บาท

VOLVO S60 DRIVe B 1,899,000 บาท และ VOLVO S60 DRIVe S 2,169,000 บาท

V60 DRIVe 2,269,000 บาท

Volvo S80 DRIVe 2,549,000 บาท, Volvo S80 D4 2,749,000 บาท และ Volvo S80 T4 2,840,000 บาท

Volvo XC60 D4 3,050,000 บาท และ Volvo XC60 D4 6-Pack 3,149,000 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)