แหล่งเงินกู้ซื้อรถ และ ข้อควรพิจารณาในการกู้เงิน
ในปัจจุบัน การที่คุณจะซื้อรถซักคันนึง ไม่ได้เป็นเรื่องยากแบบแต่ก่อน แม้ว่าจะมีเงินเก็บเพียงน้อยนิด ก็สามารถถอยรถใหม่ป้ายแดงออกมากันได้แล้ว เพราะทั้งธนาคาร และบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ ออกแคมเปญ ปล่อยเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์อย่างเต็มที่ ด้วยข้อเสนอดอกเบี้ยที่ต่ำเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อ และในปัจจุบันยังมีสินเชื่ออเนกประสงค์ สินเชื่อเงินกู้รถยนต์ ซื้อรถยนต์ ที่เปิดโอกาสให้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีความต้องการจะซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดง แต่ไม่ต้องการจ่ายค่ารถยนต์ทั้งหมดในครั้งเดียว โดยผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายเงินดาวน์ไปก่อน แล้วผ่อนชำระเงินค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ตามระยะเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อผู้เช่าซื้อผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนตามสัญญาแล้ว กรรมสิทธิ์ในรถยนต์จะโอนเป็นของผู้เช่าซื้อ
จำนวนเงินดาวน์ส่วนใหญ่จะคิดเป็น 15-25% ของราคารถ บางที่อาจจะให้ดาวน์ต่ำสุด 0% ไปจนถึง 50% เลยทีเดียว เช่น ทำงานได้เงินเดือน 15,000 บาท ยังไม่มีเงินเก็บออม แต่อยากจะซื้อรถคันละประมาณ 500,000 บาท ก็ต้องสะสมเงินก้อนแรกเพื่อดาวน์รถประมาณ 80,000-140,000 บาท (ตามเปอร์เซ็นต์การดาวน์รถ 15-25%) ถ้าคุณตั้งใจว่าจะเริ่มเก็บออมเฉพาะเงินดาวน์เดือนละ 5,000 บาท ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ปีได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ เงินเดือน 15,000 บาท ไม่ควรผ่อนรถเกินเดือนละ 4,000-5,000 บาท หากมากกว่านี้อาจกลายเป็นภาระหนักเกินไป
เงินกู้ซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงนั้น ไม่สามารถใช้เงินกู้ซื้อรถยนต์ได้เต็มราคา หากรถยนต์ราคา 500,000 บาท คุณต้องมีเงินดาวน์รถยนต์อย่างน้อย 5% แต่การจะได้เงื่อนไขเงินดาวน์ 5% ต้องมีรายได้สุทธิมากกว่าค่าผ่อนชำระต่องวด 3 เท่าของค่างวด และต้องมีผู้ค้ำประกันรถยนต์มีรายได้มากกว่าค่างวดรถยนต์ 2 เท่าของรายได้สุทธิ ที่สำคัญจะต้องไม่ติดเครดิตบูโร
การวางเงินดาวน์รถยนต์ ถ้าคุณวางเงินดาวน์มาก ก็จะผ่อนชำระน้อยเดือน ดอกเบี้ยก็จะถูก หากดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยก็แพง คุณจะต้องเริ่มเก็บออมเงินเดือนไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อไว้สำหรับดาวน์รถ โดยช่วงที่เก็บเงินก็อาจจะใช้ระบบขนส่งมวลชนไปก่อน เพื่อประหยัดรายจ่ายไปด้วยในตัวเมื่อคุณต้องพึ่งเงินกู้จากไฟแนนซ์ ข้อคิดอีกอย่างหนึ่งสำหรับการเป็นหนี้คือ ไม่ควรเลือกระยะเวลากู้ที่นานเกินไป ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกผ่อนจ่ายระยะสั้นเข้าไว้ เช่น ผ่อนภายใน 12 - 24 เดือน จะช่วยลดดอกเบี้ยลงได้มาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถนั้น เป็นการคิดแบบ Flat Rate คือ คิดรวมดอกเบี้ยกับเงินต้นเข้าด้วยกัน แล้วค่อยแบ่งออกเป็นรายงวด นั่นหมายถึงว่า ยิ่งคุณเลือกระยะเวลาการกู้แบบผ่อนจ่ายนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งแบกภาระดอกเบี้ยหนักขึ้น
ขั้นตอนการกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อรถ
หลายคนอยากมีรถ แต่ไม่สามารถซื้อรถยนต์ด้วยเงินสดได้ จึงจำเป็นต้องกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อรถ ขั้นตอนการกู้เงินธนาคารซื้อรถยนต์มีดังต่อไปนี้
- เตรียมเอกสารในการขอกู้เงินธนาคารซื้อรถ ได้แก่ บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, สมุดเงินฝาก หรือสเตทเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือน, สลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน, สำเนารถยนต์คันที่จะซื้อ (ในกรณีที่เป็นรถยนต์มือสอง)
- ไปติดต่อทำเรื่องกับธนาคารที่เราต้องการกู้เงิน
- ติดต่อกู้เงินธนาคาร เซ็นเอกสาร เซ็นสัญญากู้เงินธนาคารเรียบร้อย แล้วรอผลอนุมัติประมาณ 2-5 วันทำการ ช้าเร็วขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของธนาคาร
- เมื่อธนาคารอนุมัติให้ผ่าน สามารถกู้เงินได้
- กรณีรถยนต์ใหม่ป้ายแดงก็จะนัดชำระเงินดาวน์ และนัดรับรถยนต์อีกครั้งในกรณีที่ไม่มีรถ
- กรณีรถยนต์มือสองทางเต้นท์รถมือสองก็จะเรียกท่านไปทำสัญญาซื้อขายรถยนต์มือสองให้สมบูรณ์ พร้อมท่านต้องชำระเงินดาวน์และสามารถรับรถยนต์ไปใช้งานได้ทันที
ขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์ หรือขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- แจ้งยี่ห้อ รุ่น ปี รถที่ต้องการซื้อ หรือต้องการนำมากู้เงิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อ ประเมินยอดจัดให้ ซึ่งโดยปกติประมาณ 70-80% ของราคาซื้อขาย ซึ่งเมื่อลูกค้าตกลงที่จะจัด จะต้องเตรียมเอกสารของตนเอง และคนค้ำประกันเพื่อทำสัญญาเช่าซื้อ
- นัดเซ็นสัญญา และส่งมอบเอกสาร ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาทำสัญญาที่บริษัทหรือจะให้พนักงานไปเซ็นนอกสถานที่ได้ หากไม่สะดวกในการเดินทางมาที่บริษัท เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะขอถ่ายรูปรถ และลอกลายเลขเครื่อง เลขตัวถังรถเพื่อประกอบการทำสัญญาด้วย
- รอผลอนุมัติประมาณ 2-5 วันทำการ
- เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะแจ้งผลการอนุมัติ เพื่อขอเล่มทะเบียนตัวจริงไปโอนที่ขนส่ง เมือโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เป็นของบริษัทแล้ว บริษัทจะจ่ายเช็คให้ผู้ขายรถทันที แต่หากเป็นการโอนย้ายไฟแนนซ์ เล่มทะเบียนตัวจริงจะยังอยู่กับไฟแนนซ์เดิม หากเรื่องผ่านการอนุมัติ ทางบริษัทจะจ่ายเช็คให้กับไฟแนนซ์เดิม เพื่อปิดบัญชีให้ลูกค้าก่อน แต่ลูกค้าจะต้องเซ็นชุดโอนกรรมสิทธิ์ให้บริษัทเก็บไว้ เพื่อรอเล่มจากไฟแนนซ์เดิมมาโอนเข้าบริษัทในภายหลัง หากปิดบัญชีแล้วมีเงินเหลือ ลูกค้าจะได้รับเงินเลยในวันเดียวกันกับที่บริษัทไปปิดบัญชีไฟแนนซ์เดิมให้
นอกจากนี้คุณยังสามารถกู้เงิน ผ่านสินเชื่ออเนกประสงค์ของธนาคาร ที่มีกันในหลายๆ ธนาคารก็ได้ ให้คุณได้มีเงินผ่อนรถและบริหารการใช้จ่ายได้ดีขึ้น เช่น ผ่อนชำระได้นานตั้งแต่ 5-10 ปี หรือบางแห่งให้ถึง 15 ปีก็มี แต่การได้รับวงเงินกู้ ก็ขึ้นอยู่กับราคาประเมินทรัพย์สินนั้นๆด้วย เช่น นำคอนโดไปค้ำประกัน หากมูลค่าของสินทรัพย์ต่ำกว่าวงเงินกู้ ลูกค้าก็จะได้รับวงเงินกู้ที่ต่ำ ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ กับราคารถยนต์อีก แต่ดีตรงที่ว่า หากคุณมีเงินก้อน ก็สามารถนำมาโปะ หรือจ่ายคืนให้แก่ธนาคารได้ก่อนกำหนดอีกด้วย เหมือนกับการผ่อนบ้าน แต่ขณะที่การผ่อนรถกับไฟแนนซ์ หากลูกค้าจะจ่ายเงินคืนทั้งหมดก่อนกำหนด ก็จะเสียประโยชน์ทันที เพราะเงินกู้และดอกเบี้ย ได้ถูกนำไปเฉลี่ยในแต่ละงวดตลอดอายุสัญญาไว้เรียบร้อย การจ่ายก่อนกำหนด จึงไม่ช่วยประหยัดดอกเบี้ยแต่อย่างใด และการผ่อนเงินกู้ซื้อรถยนต์กับไฟแนนซ์ กรรมสิทธิ์ในตัวรถยนต์ จะยังคงเป็นของบริษัทไฟแนนซ์ จนกว่าจะได้ผ่อนชำระหมด จึงสามารถรับโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนทำการ "กู้" ต้องทำการการศึกษาเงื่อนไขในการขอกู้สินเชื่อประเภทต่างๆ ก่อนตัดสินใจ หาข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง อย่าลืมว่าการซื้อรถใหม่มานั้นย่อมมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเสมอ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าแต่งรถ ค่าใบสั่ง ค่าซ่อมรถ ค่าประกัน ค่าพรบ. ค่าบำรุงรักษาตามระยะ ฯลฯ ที่ตามมารอให้คุณเสียเงินอีกเป็นขบวน การซื้อรถที่ดีนั้น "ไม่ต้องรีบ" ดูเงื่อนไขต่างๆ และศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจซื้อ และคุณควรบริหารเงินในการผ่อนจ่ายให้ดี รักษาวินัยทางการเงินให้มั่น ไม่งั้นรถของคุณอาจจะต้องไปจอดอยู่ในลานประมูลรถของบริษัทดังๆหลายเจ้าก็เป็นได้...