เทคโนโลยีสุดล้ำของรถยนต์ฮอนด้าที่คุณอาจไม่รู้
รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันต่างก็มีการพัฒนา และมีการคิดค้นให้ระบบการทำงานต่างๆ ทั้งเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และช่วงล่างของรถให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ไม่ใช่แค่กับการทำงานพื้นฐานของรถยนต์เท่านั้น ปัจจุบันยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือการขับขี่และติดตั้งในรถยนต์ต่างๆ ซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้ มาดูกันว่าระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยล้ำสุดๆ ของรถยนต์
ฮอนด้าจะมีอะไรบ้าง
เครื่องยนต์ขนาดเล็กประหยัดให้กำลังสูง
ฮอนด้า เริ่มใช้เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานมาหลายปี โดยผลสำเร็จที่ชัดเจนในปัจจุบันนั่นคือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo ใน
ฮอนด้า ซีวิคใหม่ ซึ่งผ่านการคิดค้นให้มีขนาดตัวและน้ำหนักที่เบาลง ชิ้นส่วนต่างๆ น้อยลง พร้อมทั้งติดตั้งระบบเทอร์โบชาร์จ เพิ่มกำลังให้มีสมรรถนะสูงสุด ขนาดของความจุ 1.5 ลิตร แม้ดูไม่มาก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ฮอนด้า คิดค้นและปรับปรุงจนสามารถสร้างพละกำลังได้มากถึง 173 แรงม้า และให้แรงบิดขนาด 220 นิวตันเมตร เทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ในขณะที่ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 1,317 กิโลกรัมเท่านั้น (รุ่น TURBO RS)
เครื่องยนต์ที่ฮอนด้า คิดค้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดมลภาวะ ลดการเสียดสีของชิ้นส่วนและมีอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำลง โดยเทคโนโลยีนี้ออกแบบให้เครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบ เช่นในแอคคอร์ด 2.4 ลิตรใหม่ ใช้ระบบหัวฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ หลักการทำงานแบบ Atkinson Cycle และระบบ VTC (Variable Timing Control) และ EGR ช่วยให้เผาไหม้ดีขึ้น พร้อมระบบเกียร์ที่ออกแบบให้ลดความฝืดเพื่อไม่ให้สูญเสียกำลังโดยเปล่าประโยชน์
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด นับเป็นรถยนต์ระดับหรูที่ให้ความประหยัดสูงสุด และตอบสนองความสะดวกสบายและสมรรถนะที่ดีควบคู่กันไป โดยระบบเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบ Atkinson 145 แรงม้า ผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวให้กำลังสูงสุดถึง 215 แรงม้า มากกว่ารถระดับเดียวกันในท้องตลาด และระบบแบตเตอรี่ 1.3 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ส่งผลให้แอคคอร์ดไฮบริดสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังทำงานสอดคล้องกันทั้ง 2 ระบบ เพื่อเสริมสมรรถนะให้เพิ่มมากขึ้นตามสภาวะการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ
Honda Sensing ระบบช่วยเหลือการขับขี่ปลอดภัย
ฮอนด้า นับเป็นรายแรกของรถยนต์ซีดานระดับหรูในประเทศไทยที่ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่มากที่สุดนั่นคือ ระบบแจ้งเตือนและควบคุมการออกรถนอกเลนพร้อมระบบดึงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางพร้อมการหมุนพวงมาลัยอัตโนมัติ, ระบบตรวจจับวัสตุด้านหน้ารถ, กล้องมองภาพด้านของฝั่งซ้ายรถ และระบบเตือนมุมอับสายขณะเปลี่ยนช่องทาง ซึ่งเรียกรวมกันว่า Honda Sensing นั่นเอง
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน - Adaptive Cruise Control (ACC)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก
Collision Mitigation Braking System (CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS)
ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
ระบบ Brake Hold เจ้าแรกใน Crossover HR-V
ฮอนด้า ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบช่วยเบรกเมื่อจอดสนิท ป้องกันการไหลโดยไม่ตั้งใจ หรือ Brake Hold ที่ติดตั้งใน
Honda HR-V ใหม่ ระบบนี้นอกจากจะใช้จอดรถกันไหลแบบเดียวกับเบรกมือทั่วไปแล้ว ยังสามารถเป็นระบบเบรกชั่วคราวเมื่อจอดรถติดไฟแดงหรือจอดไม่นาน โดยไม่ต้องแช่เท้าที่เบรก เพียงแตะคันเร่งเท่านั้น รถก็จะสามารถขับต่อไปได้ทันที ใช้งานง่ายๆ เพียงกดปุ่ม Brake Hold เท่านั้น และเมื่อยกเลิกก็เพียงกดอีกครั้งให้สัญญาณบนหน้าปัดดับลง หนึ่งในเทคโนโลยีที่ฮอนด้าใส่ใจเพื่อความใช้งานที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เจ้าแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัยครบทุกรุ่นย่อย
ฮอนด้านับเป็นเจ้าแรกที่นำระบบความปลอดภัยทันสมัยมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของรถยนต์ฮอนด้า
Jazz และ
City ในทุกรุ่นย่อย นั่นคือ ระบบความคุมการรงตัวขณะเข้าทางโค้ง (VSA), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) รวมถึงระบบกุญแจ Immobilizer
สตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยรีโมท
รถยนต์ฮอนด้า นับเป็นเจ้าแรกๆ ที่ติดตั้งระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยรีโมทคอนโทรล เพื่อให้ระบบปรับอากาศทำงานเมื่อจอดตากแดดนานๆ เป็นการลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารก่อนที่จะขึ้นรถ โดยระบบนี้เป็นสุดยอดเทคโนโลยีที่ล้ำอนาคตมากๆ และมักมีอยู่ในรถยุโรปสุดหรู ซึ่งทางฮอนด้าได้ติดตั้งในแอคคอร์ตและซีวิคใหม่ (เฉพาะรุ่น) วิธีใช้งานก็ไม่ยุ่งยากเพียงกดปุ่ม "ล็อค" 1 ครั้งและกดปุ่ม "สตาร์ต" เครื่องยนต์ค้างเอาไว้จนไฟเลี้ยวกะพริบ เมื่อจะเข้ารถก็เพียงกดปุ่มเปิดล็อคอีกครั้ง และอย่าลืมเหยียบเบรกและกดปุ่ม "Push Start" เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย
รถยนต์ฮอนด้า สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 3 แบบ (เฉพาะบ้างรุ่น) คือ ขับขี่ปกติ, ขับแบบสปอร์ต และเน้นความประหยัด โดยเฉพาะระบบ ECON ที่ฮอนด้าภูมิใจนำเสนอนั้นตอบสนองความประหยัดและให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ โดยไม่ต้องกังวลในการคอยระวังการขับเร็วไปหรือช้าเกินไป ระบบ ECON จะช่วยการขับขี่ในรูปแบบประหยัด ด้วยการประมวลผลการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ตำแหน่งเกียร์และอัตราทด เพื่อรักษาอัตราการสิ้นเปลืองที่คงที่มากที่สุด แต่หากจำเป็นต้องใช้กำลังในการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว ระบบก็จะคำนวณการจ่ายน้ำมันเพิ่มตามการสั่งงานของคันเร่งที่เท้าผู้ขับ และพร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างทันใจ หลังจากนั้นก็จะกลับเข้าสู่รูปแบบประหยัดเช่นเดิม นับว่าเทคโนโลยี ECON ทั้งประหยัดและปลอดภัยในระบบเดียว
รถยนต์ฮอนด้าถูกคิดค้น ออกแบบและผลิตอย่างตั้งใจทุกขั้นตอน จึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เร้าใจในสมรรถนะของฮอนด้าทุกรุ่น
นอกจากรถยนต์ที่ดีมีสมรรถนะเยี่ยมแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ผู้ให้บริการรถยนต์ฮอนด้า ที่ต้องผ่านการอบรม การตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากทางฮอนด้า ประเทศไทย และฝึกฝนประสบการณ์และฝีมือในการให้บริการ เช่น พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้าโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการอันดับต้นๆ ในประเทศไทย ครบวงจร ทันสมัย ใส่ใจลูกค้า และเชื่อมั่นได้ พร้อมให้บริการและประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า เพื่อให้ได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพรวมกับการบริการที่ดีในทุกๆ ด้าน เพื่อเป็นการดูแลรถยนต์ของลูกค้าต่อจากโรงงานฮอนด้า และให้ลูกค้ามีความไว้วางใจตลอดมากว่า 20 ปี "พระราม 3 กรุ๊ปฮอนด้า เราให้คุณเหนือกว่า"
ปี พ.ศ. 2560 นับเป็นการครบปีที่ 21 ของ
"พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า" ซึ่งมีโชว์รูมและศูนย์บริการฯ 7 สาขา และศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์มือสอง (Used Car Showroom) จำนวน 2 สาขา
พบกับรถยนต์คุณภาพ และเทคโนโลยีที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้ที่
บริษัท พระราม 3 กรุ๊ป ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด ทั้ง 7 สาขา ได้แก่
- สาขา พระประแดง 02-232-2711
- สาขา สาธุประดิษฐ์ 02-296-7111
- สาขา บางคอแหลม 02-232-2555
- สาขา ดาวคะนอง 02-232-2777
- สาขา ถนนนราธิวาสฯ 02-296-7199
- สาขา สุรวงศ์ 02-325-4333
- สาขา หัวลำโพง 02-232-2888
Honda Certified Used Car ถนนนราธิวาสฯ (โชว์รูม Honda Certified Used Car แห่งแรกในประเทศไทย) และขยายเพิ่มอีก 1 สาขา ภายในโชว์รูมดาวคะนอง