ซื้อรถรุ่นไหนดี ให้เหมาะกับคุณ
การเลือกซื้อรถยนต์ให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ครบถ้วนนั้นอาจดูเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริงมีองค์ประกอบที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาอยู่หลายอย่าง เพื่อให้ได้รถยนต์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานให้มากที่สุด
นอกจากความชอบในรุ่นรถยนต์แล้ว โดยทั่วไปการเลือกซื้อรถให้ได้ประโยชน์ใช้สอยที่ลงตัวนั้น อันดับแรกมักเริ่มจากผู้ซื้อว่าเน้นการใช้งานในลักษณะใดเป็นหลัก รองลงมาก็คือ ยามว่างหยุดยาวๆ ชอบเดินทางท่องเที่ยวบ่อยเพียงใด และมีงานอดิเรกอย่างไร ซึ่งการเลือกลักษณะนี้จะทำให้มีตัวเลือกกว้างและตัดสินใจได้ยากมาก
วิธีการเลือกที่ง่ายที่สุดนั้นก็คือ "ดูคุณสมบัติรถยนต์ไปสู่ผู้ซื้อ" ให้เริ่มต้นจากการเลือกประเภท ขนาด และสมรรถนะของรถยนต์ว่ามีคุณสมบัติอย่างไร สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ซื้อได้มากน้อยเพียงใด ไล่เรียงลงมาเพื่อให้เห็นถึงจุดประสงค์หรือการออกแบบของรถยนต์รุ่นต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการได้ชัดเจนขึ้น ก่อนจะเลือกให้ตรงกับผู้ซื้อ และงบประมาณตามที่ตั้งเอาไว้มากที่สุด มาดูกันว่าการซื้อรถรุ่นไหนให้เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด
รถยนต์ขนาดเล็ก อีโคคาร์ หรือ บี-เซกเมนต์ "ใช้งานในเมืองเป็นหลัก"
รถยนต์ขนาดนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีกิจวัตรประจำวันอยู่ในเขตตัวเมืองเป็นหลัก เช่น สุขุมวิท เพลินจิต เยาวราช รัชดา เป็นต้น และเดินทางออกต่างจังหวัดไม่บ่อยอาจจะเดือนละครั้งหรือ 2 เดือนครั้งและบางทีก็ไม่ออกต่างจังหวัดเลย รถยนต์ขนาดนี้น่าจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนเมืองมากที่สุด โดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบกินเที่ยวย่านทองหล่อ เอกมัย ตลาดนัดหัวมุม ตลาดนัดเลียบทางด่วนหรือถนนเยาวราช หาที่จอดได้อย่างสะดวกสบาย
หากเน้นความประหยัดคล่องตัว บำรุงรักษาง่ายค่าใช้จ่ายต่ำต้องอีโคคาร์ เช่น
บริโอ้ อเมซ แต่ถ้ามีเพื่อนฝูงเยอะ สัมภาระมากหน่อยก็เล็งรถระดับบี-เซ็กเมนต์ เช่น
ซิตี้,
แจ๊ส เป็นต้น
รถประเภทนี้จึงเหมาะกับเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลักออกต่างจังหวัดเป็นครั้งคราว รถยนต์ขนาดกลาง หรือ ซี-เซกเมนต์ "ต้องการสมรรถนะมากขึ้น"
รถยนต์ขนาดนี้สามารถตอบสนองความต้องการสำหรับคนที่ต้องการรถที่มีขนาดที่กว้างขึ้น พร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยสูงขึ้น มีพื้นที่กว้างขวางนั่งสบาย เมื่อต้องการเดินทางไกลก็ให้ความมั่นใจมากขึ้น หรือหากใช้งานในเมืองก็ไม่เป็นปัญหา เพราะขนาดตัวรถที่กำลังดีเหมาะกับครอบครัว ที่พร้อมเดินทาง 3 - 4 คนได้สบายๆ และคล่องตัวในทุกสภาพถนนไม่แพ้รถขนาดเล็ก โดยเฉพาะรุ่นที่มีกล้องมองหลังขณะถอยจอด เซ็นเซอร์เตือนขณะจอดรถ ระบบกันการไหลขณะขึ้นทางชัน เช่น
ซีวิค เป็นต้น
รถยนต์ขนาดใหญ่ ดี-เซกเมนต์ "ภูมิฐานสมฐานะ"
รถยนต์ที่ตอบโจทย์ความโอ่อ่า หรูหรา ภูมิฐานสมฐานะ กว้างขวางและนั่งสบายมากขึ้นอีกระดับ เพื่อการใช้งานที่ต้องการความสะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ตอบสนองการเดินทางทุกรูปแบบทั้งในและนอกเมือง ด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ ช่วยลดความเสี่ยงและอาการเมื่อยล้าได้ดีระหว่างการเดินทาง เช่น ระบบป้องกันรถออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ หรือระบบเตือนการชนด้านหน้า สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้การเดินทางปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากต้องการความประหยัดสามารถเลือกรุ่น
ไฮบริดที่มาพร้อมความแรง ประหยัด และทันสมัยครบทุกด้าน
รถประเภทนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคง บ่งบอกถึงฐานนะ และความมั่นใจในสมรรถนะเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น
รถยนต์ปิคอัพ "มีไว้ลุย"
ปิคอัพเดิมทีถูกออกแบบให้ใช้งานประเภทบรรทุกเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีการปรับปรุงให้สะดวกสบายและทันสมัยมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่บรรทุกสิ่งของเป็นประจำหรือเป็นครั้งคราว ส่วนผู้ที่เน้นใช้เป็นรถครอบครัวหรือในเมืองเป็นหลัก ไม่ค่อยออกต่างจังหวัดมากนักอาจไม่คุ้มค่า เมื่อเทียบกันในเรื่องความสะดวกสบายอาจไม่เท่ารถเก๋ง แม้ว่าจะมีการพัฒนาให้มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นก็ตาม รถยนต์ปิคอัพจึงเหมาะสำหรับผู้มีกิจการส่วนตัว หรือคนที่ต้องขนสัมภาระต่าง ๆ น่าจะคุ้มค่ามากกว่า
รถยนต์ SUV "กิจกรรมสุด Chic"
รถยนต์ประเภทนี้มีขนาดใหญ่ มีหลายที่นั่ง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางไกล ขนสัมภาระเยอะ โดยเฉพาะการเดินทางทั้งครอบครัว พร้อมลุยในทุกสภาพถนน มีไลฟ์สไตล์ชอบทำกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมในยามว่าง รถยนต์ SUV นับว่าสามารถตอบสนองทั้งในด้านสมรรถนะ ความกว้างขวาง ความปลอดภัย และความสะดวกสบายได้อย่างครบครัน เช่น
ซีอาร์-วี หรือน้องเล็กอย่าง
เอชอาร์-วี ก็นับว่าคุ้มค่าไม่แพ้กัน แต่ในขณะเดียวกันหากใช้ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ออกนอกเมืองไม่บ่อยนัก รถยนต์ประเภทนี้อาจจะคล่องตัวน้อยกว่า ไม่สะดวกใช้งานในสภาพถนนแคบ การจอดรถอาจลำบากสักหน่อย รถประเภทนี้จึงเหมาะกับผู้ที่อยากได้สมรรถนะที่เพิ่มขึ้น มีความต้องการในการใช้งานที่หลากหลาย มีสัมภาระเยอะ หรือมีเพื่อนฝูงมาก ใช้การงานได้ทั้งในและนอกเมือง
รถยนต์เกิน 7 ที่นั่ง "เดินทางพร้อมครอบครัว"
ปัจจุบันรถยนต์แบบ 7 ที่นั่งไม่ว่าจะเป็นรถขนาดเล็กหรือใหญ่กำลังได้รับความนิยมสูงมากในประเทศไทย เป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการเดินทางไกล ปรับเปลี่ยนเบาะเพื่อบรรทุกของได้มาก ขนผู้โดยสารได้มาก เช่น
บีอาร์-วี,
โมบิลิโอ,
โอดีสซี่ เป็นต้น นับว่าซื้อทีเดียวได้ครบทุกความต้องการ
นอกจากการเลือกประเภทรถยนต์ให้เหมาะกับผู้ใช้งานแล้ว ยังมีตัวแปรอื่นๆ อีก เช่น รถยนต์ระบบขับเคลื่อน 2 หรือ 4 ล้อ เพิ่มมาด้วย ให้พิจารณาดูว่า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น มีชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์เพิ่มขึ้นมากอีก เช่น ชุดระบบขับเคลื่อน ระบบเกียร์ที่เพิ่มชุดขับเคลื่อน 4 ล้ออยู่ภายใน ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแล้ว ให้เลือกเพียงรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
การเลือกซื้อรถยนต์นั้นไม่ใช่เพียงดูจากงบประมาณและความชอบเพียงส่วนเดียว ควรสำรวจการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ ว่าเน้นไปในทิศทางใด เพราะหากซื้อรถยนต์ที่มีสมรรถนะในด้านที่ไม่ได้ถูกใช้งาน ก็เท่ากับว่าขาดทุนในการใช้รถยนต์คันนั้น บางครั้งระบบที่ไม่ค่อยใช้งานนั้น ก็อาจมีปัญหาตามมาทีหลัง และต้องเสียค่าดูแลรักษาที่เกิดจำเป็นอีกด้วย "เราควรจะใช้รถยนต์ให้คุ้มค่าเต็มประโยนช์มากที่สุด อย่าให้รถใช้คุณจนต้องคอยดูแลซ่อมบำรุงมากกว่าใช้งานนะครับ"