หัวเว่ย ยื่นฟ้อง ซัมซุง ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน ยื่นฟ้อง ซัมซุง ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีต่อศาลชั้นต้นในเขตนอร์ธเทิร์นของแคลิฟอร์เนีย ในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงศาลประชาชนชั้นกลางเมืองเซินเจิ้น ของประเทศจีน โดยในการยื่นฟ้องครั้งนี้ หัวเว่ย ต้องการเงินชดเชยในการถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจาก ซัมซุง ซึ่งรวมถึงสิทธิบัตรมูลค่ามหาศาลด้านเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่และซอฟต์แวร์ซึ่งถูกนำไปใช้ในเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ของซัมซุง
หัวเว่ย ในฐานะผู้ถือสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ มีความยึดมั่นในการออกใบอนุญาตเพื่อใช้สิทธิบัตรเหล่านี้ด้วยเงื่อนไขที่สมเหตุสมผลและเป็นธรรม และเชื่อว่าบริษัทควรได้รับเงินชดเชยอย่างสมเหตุสมผลจากบริษัทใดก็ตามที่นำเทคโนโลยีของ หัวเว่ย ไปใช้โดยปราศจากใบอนุญาต มร. ติง เจียนซิ่ง (Ding Jianxing) ประธานแผนกสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ หัวเว่ย กล่าวว่า "เราเชื่อว่าผู้เล่นทั้งหลายในอุตสาหกรรมนี้ควรร่วมมือกันในการผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการสร้างนวัตกรรมร่วมกันในระบบเปิด และในขณะที่เราให้ความเคารพต่อสิทธิบัตรของผู้อื่น เราก็จะปกป้องสิทธิบัตรของเราเองด้วย ดังที่เราทั้งหลายได้เห็นแล้วว่ามีข้อตกลงเรื่องการให้สิทธิบัตรร่วมกัน (cross-licensing agreements) ในอุตสาหกรรมนี้จำนวนมากที่ถูกเซ็นขึ้นเพื่อให้การนำเทคโนโลยีต่างๆ ไปใช้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากวิถีปฏิบัติเช่นนี้ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ด้วยความเชื่อนี้ หัวเว่ย จึงได้พยายามเจรจาต่อรองกับบริษัทผู้ถือสิทธิบัตรอื่นๆ ในอุตสาหกรรมอย่างแข็งขันตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดการใช้สิทธิบัตรร่วมกัน ดังนั้นพวกเราจึงได้เซ็นสัญญาทำข้อตกลงใช้สิทธิบัตรร่วมกันกับคู่แข่งทางการค้าของพวกเราไปแล้วจำนวนมาก พวกเราหวังว่า คู่แข่งจะเคารพต่อการลงทุนลงแรงในด้านวิจัยและพัฒนาและสิทธิบัตรของ หัวเว่ย ด้วยการหยุดละเมิดสิทธิบัตรหรือมาติดต่อขอทำใบอนุญาตใช้สิทธิบัตรให้ถูกต้อง และหันมาร่วมมือกับเราในการผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป"
ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้ผลิตสมาร์ทดีไวซ์และผู้ถือสิทธิบัตรจำนวนมาก บริษัท หัวเว่ย ลงทุนกับการวิจัยและพัฒนาเป็นเม็ดเงินมหาศาลในแต่ละปี โดยในปี 2558 เพียงปีเดียว หัวเว่ย ใช้เงินลงทุน 59.6 พันล้านหยวน (ประมาณ 9.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 15% ของรายได้ประจำปีไปกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย การลงทุนอย่างมหาศาลในด้านวิจัยและพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมาของ หัวเว่ย ทำให้บริษัทมีสิทธิบัตรที่มีมูลค่าสูงจำนวนมาก โดยตัวเลขสถิติจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ชี้ว่าในปี 2558 บริษัท หัวเว่ย ถือเป็นบริษัทผู้นำในการขอจดสิทธิบัตรในระดับนานาชาติเป็นปีที่สองติดต่อกันด้วยตัวเลข 3,898 ชิ้นที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (Patent Cooperation Treaty: PCT) ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 456 ชิ้น เมื่อนับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัท หัวเว่ยได้รับการรับรองสิทธิบัตรแล้วกว่า 50,377 ชิ้นทั่วโลก โดยสิทธิบัตรเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี LTE ระบบปฏิบัติการ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User Interface: UI) ซึ่งล้วนแต่มีคุณค่าอย่างสูงต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน