บล.ทิสโก้ลุ้น ! นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อคืนหุ้นไทยครึ่งหลังของเดือนมีนาคม จาก 2 ปัจจัยหนุน คือ 1. ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยชัดเจน และ 2. การเลือกตั้งในประเทศ แนะซื้อหุ้นคุณภาพดีขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง และท่องเที่ยวฟื้นตัว ผสานกับหุ้นเชิงรับพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ทิสโก้มองแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนมีนาคมยังถูกกดดันจากกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลออก แต่ในช่วงครึ่งเดือนหลังจะมีปัจจัยบวกจากความชัดเจนของ Dot Plot ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เดือนมีนาคม และการเลือกตั้งในประเทศ ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งเดือนหลังต่อเนื่องไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
"หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติขายปรับพอร์ตมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว บล.ทิสโก้มองว่ามีลุ้นที่นักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อคืนหุ้นไทยเมื่อมีความชัดเจนของ 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. Dot Plot จากการประชุม Fed ในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ และ 2. การเลือกตั้งภายในประเทศที่คาดว่านายกฯ ประยุทธ์จะประกาศยุบสภาในช่วงกลางเดือนนี้" นายอภิชาติกล่าว
ทั้งนี้ ความชัดเจนของ Dot Plot คาดจะช่วยคลายความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อย่างน้อย ก็ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยมักตอบสนองเชิงบวกในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ตามสถิติตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 เดือน, 2 เดือน และ 1 เดือน ก่อนเลือกตั้งมักปรับตัวขึ้น โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +5.6%, +2.5% และ +2.3% และมีระดับความเชื่อมั่นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70%
นอกจากนี้ จากการศึกษาลงในรายละเอียดของผลตอบแทนแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า กลุ่มที่มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเสมอควบคู่กับมีโอกาส Outperform ตลาดเกินครึ่ง คือ FOOD, FIN, ENERG และ COMM ดังนั้น นักลงทุนระยะสั้นควรให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มเหล่านี้
นายอภิชาติกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นหุ้นที่น่าสนใจในเดือนมีนาคม บล.ทิสโก้ยังคงให้ความสนใจหุ้นคุณภาพดีขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งและแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ผสานกับหุ้นเชิงรับพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง
ดังนั้น หุ้นเด่นที่ บล.ทิสโก้แนะนำในเดือนมีนาคม คือ ADVANC, AEONTS, AUCT, BDMS, CPALL, HMPRO, ICHI และ MINT โดยมีแนวรับเดือนมีนาคมอยู่ที่ 1,620-1,610 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,650 จุด แนวต้านต่อไปที่ 1,670 จุด