7 เคล็ดลับใช้ชีวิตให้มีความสุขอย่างมหาเศรษฐีหมายเลข 3 ของโลก
วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ ผู้มีอายุ 81 ปี และเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งมีเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท ใช่แล้วค่ะ ไม่ได้พิมพ์ผิด ย้ำอีกครั้ง 1 ล้านล้านบาท!! มากมายมหาศาลทีเดียวเลยใช่มั้ยคะ แต่บัฟเฟ็ตต์นั้นก็ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าตามแบบที่คนมีเงินเค้าทำกัน ยังคงตื่นแต่เช้าและไปทำงานทุกวัน แถมยังมีบุคคลิกที่กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ไม่ได้เคร่งขรึมเหมือนนักธุรกิจส่วนใหญ่ วันนี้เราได้นำเคล็ดลับในการใช้ชีวิตให้มีความสุขหลักๆ 7 ข้อ ฝากกันค่ะ ลองไปดูกันเลย
1. ทำในสิ่งที่ตนเองรัก
เขาไม่เคยต้องเลือกระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว เขามีความสุขกับการทำงานมาก ทุกวันจะตื่นเต้นที่จะได้ไปทำงาน และเดินเข้าที่ทำงานอย่างมีความสุขที่สุด ซึ่งการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และรักในสิ่งที่ตัวเองทำ ผลงานก็จะออกมาดีตามไปด้วยนั่นเอง
2. หาความสุขจากความเรียบง่าย
ความสุขจากความเรียบง่ายของเขาก็คือ การไปเล่นไพ่บริดจ์ออนไลน์สัปดาห์ละ 12 ชั่วโมง ความสุขอยู่ที่ใจเป็นสิ่งที่หาได้จากสิ่งใกล้ตัว การได้อยู่บ้าน พักผ่อน อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ก็ถือว่าเป็นความสุขแล้ว ไม่จำเป็นว่าต้องใช้เงินฟุ่มเฟือย ทานอาหารนอกบ้านหรือไปเที่ยวถึงต่างประเทศก็ได้
3. คิดและทำในสิ่งที่ไม่ซับซ้อน
ไม่ว่าจะทำงานอะไร เขาต้องอธิบายสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดได้ ดังนั้น จึงเลือกทำในสิ่งที่ตัวเขาเองเข้าใจทะลุปรุโปร่ง เพราะความเสี่ยงหรือความเสียหายนั้น ถ้ามันจะเกิดขึ้น ก็จะเกิดจากความไม่รู้ของตัวเราเอง
4. ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ในชีวิตของเขาไม่เคยสนใจคนรวยอื่นๆ ทำอะไร ไม่เอาแบบอย่างคนรวยคนอื่นๆ เขายังอยู่บ้านหลังเดิม ซึ่งซื้อเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว และเขายังบอกอีกว่าคนที่ติดหนี้บัตรเครดิต คือคนที่ใช้เงินหรือใช้ชีวิตเกินฐานะของตัวเอง
5. มีต้นแบบที่ดี
มีต้นแบบที่ดี และยึดถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เพราะคุณสมบัติของคนที่เราชื่นชมจะเป็นเครื่องนำทางไปสู่คุณสมบัติที่ตัวเราจะมี ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนเข้าช่วยนิดหน่อยจนพัฒนาเป็นนิสัยด้วยเช่นกัน
6. เลือกทำในสิ่งที่รัก
ไม่ใช่เลือกทำเพราะเงินหรือผลตอบแทน หากเราทำในสิ่งที่เรารัก เราจะทำได้นานและทุ่มเทกับมันทั้งกายและใจ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับก็มักเป็นผลตอบแทนทางการเงิน อย่างตอนที่เขาเรียนจบ ป.โท เขาไปทำงานกับ เบน จามิน แกรห์ม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัทด้านการลงทุน ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้เงินเดือนเท่าไร เขารู้แค่ว่าอยากทำงานกับเบน จามิน เพราะพอได้ทำงานกับคนที่อยากทำ ตื่นเช้ามาก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปทำงานนั่นเอง
7. แต่งงานกับคนที่ใช่
ถ้าเจอกับคนที่เรารักและมั่นใจ ใช่เลย ขอแต่งงานโดยไม่ต้องรีรอ เขาบอกว่าการมีชีวิตคู่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ในชีวิต เช่น ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ทำให้เรารู้ว่าเราควรทำงานด้านไหน ความโสดหรือชีวิตแบบเพลย์บอย ทำให้ศักยภาพในการทำงานลดลงเนื่องจากเอาเวลาไปหมกมุ่นกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง พอแต่งงานแล้วทุกอย่างจะจบ
ขอขอบคุณ : คอลัมน์คลุกวงใน โดย พิศนุ นิลกลัด (www.matichon.co.th)