"เพชร" กับการโจรกรรมข้ามชาติ
จากกรณีข่าวดัง เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ที่มีสาวใหญ่ชาวจีนรายหนึ่งร่วมกับพวกก่อเหตุโจรกรรมเพชรจากงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ที่เมืองทองธานี โดยผู้ต้องหารายนี้ได้ทำการรับสารภาพว่า ได้กลืน "เพชร" น้ำหนัก 6 กะรัต มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทลงไปในท้อง และทางตำรวจก็ได้พยายามให้ผู้ต้องหากินยาระบาย เพื่อพยายามให้ถ่ายเพชรออกมา
จากกรณีนี้ คงมีหลายคนคิดในใจว่า อยากได้เพชรถึงขนาดต้องใช้วิธีกลืนลงไปในท้อง โดยไม่กลัวอันตรายเลยเหรอ? และเราก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เพชรนั้นเป็นอัญมณีที่มีค่ามากที่สุด แต่จะมีค่าขนาดไหน และวิธีการตีมูลค่าของเพชรนั้นจะเป็นยังไง? วันนี้เรามีคำตอบให้ดูกันค่ะ
มูลค่าของเพชรนั้นมีปัจจัยหลักๆ ที่เรียกว่า 4Cs อันได้แก่ Color (สี), Carat (กะรัต ขนาดเพชร), Clarity (ความบริสุทธิ์) และ Cut (การเจียระไน)
1. Color (สี)
สีเพชร หรือที่คนไทยเรียกว่า "น้ำ" สียิ่งระดับสูง ยิ่งขาว ยิ่งมีค่าแพง โดยที่สีสูงสุด เริ่มที่น้ำ 100(D) ตามภาพด้านล่างค่ะ
2. Carat (กะรัต ขนาดเพชร)
กะรัต คือ หน่วยวัดขนาด น้ำหนักของเพชร เพชร 1 กะรัต เท่ากับ 200 มิลลิกรัม หรือ 5 กะรัต เท่ากับ 1 กรัม เพชรขนาดยิ่งใหญ่ ยิ่งหายากและมีมูลค่าสูง ขนาดของเพชรถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนที่สุด
3. Clarity (ความสะอาด)
ความสะอาดของเพชร สามารถพิจารณาภายใต้กล่องขยาย 10 เท่า สามารถดูภาพตัวอย่างได้ด้างล่างค่ะ
4. Cut (การเจียระไน)
การเจียระไนถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ และมีผลต่อความสวยงามของเพชรค่ะ เพราะเพชรที่ผ่านการเจียระไนที่ดี จะมีการสะท้อนแสง ไฟประกาย และความระยิบระยับที่ดี
นอกจากปัจจัยหลักๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังปัจจัยอื่นที่มีผลต่อมูลค่าของเพชร ได้แก่ ความเรืองแสงของเพชร และสถาบันที่ออกใบเซอร์ (Certificate) เป็นต้น
ได้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อมูลค่าของเพชรกันแล้ว ลองมาดูราคาเพชรอ้างอิงวันนี้ (15 กันยายน 2558) ซึ่งราคาเพชรนั้นไม่มีการอัพเดททุกวันเหมือราคาทอง โดยปกติแล้วจะมีการอัพเดททุกๆ สัปดาห์ หรือที่เรียกว่า "ราคาพอร์ท" (Rapaport Price) มีหน่วยเป็น USD/กะรัต ค่ะ
ตารางราคาเพชรอ้างอิง