เบี้ยวหนี้ กยศ. ระวังเจอยึดทรัพย์!!
เอาจริงแล้ว!! สำหรับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า "กยศ." ที่ได้มีมาตรการยึดทรัพย์จากเหล่านักเรียน นักศึกษาทั้งหลายที่เบี้ยวหนี้ ประเดิมปีแรกไปแล้ว 786 ราย และจ่อรอคิวรอยึดทรัพย์ในปีนี้อีกกว่า 4,000 ราย โดยไม่มีการไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น
โดย น.ส. ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการ กยศ. ได้เปิดเผยว่า "ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ได้มีการยึดทรัพย์ผู้กู้ที่ยังไม่ชำระหนี้ จำนวน 786 ราย รวมเป็นเงิน 22 ล้านบาท และในปีนี้มีผู้ที่เข้าข่ายจะถูกยึดทรัพย์อีก 4,175 ราย รวมเป็นเงิน 109 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้กู้ในปีการศึกษา 2547 "
โดยที่ผ่านมา ทาง กยศ. ได้มีการรณรงค์ให้ผู้กู้ชำระหนี้มาตลอด เพราะไม่อยากให้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีผู้กู้ส่วนมากที่ไม่สนใจ ปล่อยปละละเลยการชำระหนี้ จึงทำให้ กยศ. ต้องมีการฟ้องร้อง และเมื่อทำการฟ้องร้องแล้ว ผู้กู้ก็ยังไม่มีการชำระคืนตามคำพิพากษา กยศ. เห็นว่าหากปล่อยไว้อาจทำให้คดีหมดอายุความ จึงได้ดำเนินการขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีไปยึดทรัพย์ผู้กู้ ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้ผู้กู้ที่ยังค้างชำระอยู่ รีบนำเงินมาใช้คืนก่อนที่จะมีการฟ้องร้องและยึดทรัพย์เกิดขึ้น
น.ส. ฑิตติมา ได้กล่าวอีกว่า ในปีการศึกษา 2558 มีผู้กู้ทั้งรายเก่าและรายใหม่รวมประมาณ 750,000 ราย และในจำนวนนี้มีผู้กู้รายใหม่ประมาณ 200,000 ราย ในภาพรวมพบว่าจำนวนผู้กู้รายใหม่ลดลงจากเดิม ซึ่งสาเหตุมาจากการที่ กยศ. จำกัดจำนวนผู้กู้ให้ไม่เกินจำนวนนี้ และในส่วนของการชำระหนี้ กยศ. คืนนั้น มีผู้ชำระเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2557 ประมาณ 2.2 ล้านคน ซึ่งสืบเนื่องมาจากการรณรงค์ให้มีการชำระหนี้นั้นเอง
ทั้งนี้ กยศ. มีศักยภาพในการปล่อยกู้ปีละประมาณ 700,000 - 800,000 ราย และมีจำนวนผู้กู้เฉลี่ยร้อยละ 90 ของศักยภาพกองทุน และเนื่องจากการถูกเบี้ยวหนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ กยศ. มีนโยบายที่จะส่งข้อมูลทางการเงินให้กับเครดิตบูโรในปี พ.ศ. 2561 ที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้คนกลัวติดแบล็คลิสต์ และสร้างประวัติทางการเงินที่ดีในเครดิตบูโร เจอมาตราการเด็ดขนาดนี้ ก็หวังว่า กยศ. จะได้รับการชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นจากลูกหนี้ทั้งหลายนะคะ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : ธนาคารกรุงไทย