การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นการย้ายไปขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่ที่ให้ข้อเสนออัตราดอกเบี้ยถูกลงกว่าธนาคารเดิม โดยธนาคารจะใช้หลายๆ ปัจจัยประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และเรื่องของคะแนนเครดิตก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณาค่ะ ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีเครดิตไม่ดี การรีไฟแนนซ์บ้านอาจดูเป็นเรื่องยากสักหน่อย วันนี้เราจะพามาดูวิธีการ และเทคนิคที่จะช่วยให้การขอรีไฟแนนซ์บ้านสำหรับคนที่เครดิตไม่ดี ให้ผ่านได้ง่ายขึ้นมาฝากกันนะคะ
คะแนนเครดิตไม่ดี หมายถึง คนที่มีประวัติทางการเงินที่แสดงถึงความไม่สามารถจัดการหนี้สินได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายหนี้ล่าช้า การผิดนัดชำระหนี้ หรือการมีหนี้สะสมมากเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ ส่งผลให้คะแนนเครดิตต่ำหรือเครดิตไม่ดี โดยปกติคะแนนเครดิตจะถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นมีความน่าเชื่อถือทางการเงินเพียงใด ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินจะตรวจสอบคะแนนเครดิตก่อนการอนุมัติสินเชื่อ หรือการให้บริการทางการเงินต่างๆ
คะแนนเครดิตไม่ดี ทำได้แบบนี้ รีไฟแนนซ์บ้าน ผ่านฉลุย
1. ปรับปรุงคะแนนเครดิต เข้าใจง่ายๆ เลยคือ ถ้าคะแนนเครดิตไม่ดี ก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่านั้นเองค่ะ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้
- ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้ตรงตามกำหนดเวลา
- ลดจำนวนบัตรเครดิตที่เปิดใช้งาน และพยายามลดภาระหนี้สินที่มีอยู่
- หลีกเลี่ยงการสมัครสินเชื่อใหม่ในช่วงที่กำลังเตรียมการรีไฟแนนซ์บ้าน
- หมั่นเช็กเครดิตบูโร หรือตรวจสอบรายงานเครดิตเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาด หรือมีหนี้งอกโดยไม่รู้ตัว ให้รีบติดต่อแก้ไข
2. เลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีเงื่อนไขยืดหยุ่น โดยบางธนาคารอาจมีการให้บริการสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่มีคะแนนเครดิตต่ำ เช่น สินเชื่อแก้หนี้ สินเชื่อฟื้นฟูเครดิตต่างๆ หรือสินเชื่อเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยอาจจะสูงกว่าลูกค้าที่มีคะแนนเครดิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ก็จะช่วยเป็นอีกทางเลือกให้สามารถรีไฟแนนซ์บ้านผ่านได้ง่ายขึ้น และเมื่อคะแนนเครดิตดีขึ้นธนาคารอาจมีการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในอนาคต
3. หาผู้ค้ำประกัน หรือผู้กู้ร่วมที่มีเครดิตดี การหาผู้ค้ำประกันหรือผู้กู้ร่วมที่มีประวัติการเงินดี มีรายได้มั่นคง หนี้สินต่ำ และมีความน่าเชื่อถือ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้การขอรีไฟแนนซ์บ้านผ่านได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้ค้ำประกันหรือผู้กู้ร่วมสามารถช่วยให้ธนาคารมั่นใจได้ว่า สินเชื่อก้อนนี้จะมีผู้ที่พร้อมรับผิดชอบหนี้ หากเกิดกรณีที่ผู้กู้หลักไม่สามารถชำระหนี้ต่อได้
4. แสดงหลักฐานทางการเงินที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารแสดงรายได้ เช่น ใบแจ้งรายได้หรือสลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือเอกสารเกี่ยวกับการถือครองทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน ที่ดิน หรือเงินฝาก เพราะหากมีรายได้เพียงพอ หรือมีการถือครองทรัพย์สินที่มีมูลค่า ก็สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธนาคาร จนอาจมองเห็นโอกาสในการพิจารณาให้รีไฟแนนซ์ได้
5. ลดภาระหนี้อื่นๆ ก่อนการยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงินให้กับผู้ขอสินเชื่อ และช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติจากธนาคาร รวมถึงอาจจะช่วยให้เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อจะดูมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดภาระหนี้ เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง หรือการรวมหนี้ให้เหลือเพียงสินเชื่อเดียวที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ที่คงเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้านสำหรับผู้ที่มีเครดิตไม่ดีก็สามารถทำได้ แต่ควรมีการวางแผนอย่างดี และเตรียมความพร้อมในเรื่องเอกสาร มีการทบทวน และปรับปรุงเครดิตของตนเอง รวมถึงการเลือกธนาคารที่เหมาะสม นอกจากนี้การแสดงสถานะทางการเงินที่มั่นคง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรีไฟแนนซ์บ้านให้สำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ