"บูโร แล็บ" ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร แห่งใหม่ล่าสุดที่ BTS ชิดลม เดินทางสะดวก ตรวจง่าย รู้ผลเร็ว

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้มีการพัฒนา และให้ความสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลเครดิต ของลูกค้าผู้เป็นเจ้าของข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทราบประวัติทางการเงินของตนเอง รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อต่างๆ จากสถาบันการเงิน และยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเองได้ จึงได้มีการเพิ่มช่องทางการตรวจข้อมูลเครดิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลในการเข้าถึงรายงานข้อมูลเครดิต และเครดิตสกอริ่ง เพิ่มมากขึ้น

กับการเปิดตัวล่าสุดของ ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) "บูโร แล็บ" ตั้งอยู่ด้านในสถานีบีทีเอสชิดลม ย่านเศรษฐกิจใจกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เดินทางได้สะดวก และยังสามารถตรวจข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองได้ง่ายๆ เพียงใช้บัตรประชาชน ซึ่งเราสามารถเลือกรับบริการได้ 2 รูปแบบ ดังนี้ค่ะ

1. ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเองรอรับรายงานรูปแบบอีเมลได้ทันที 
2. ตรวจเครดิตบูโรผ่านเคาน์เตอร์ แบบรอรับรายงานเครดิตบูโรรูปแบบเอกสารได้ภายใน 15 นาที

คงเป็นคำถามในใจใครหลายๆ คน เพราะบางคนก็อาจจะคิดว่าพอสิ้นปีสถาบันการเงินต่างๆ ก็จะส่งเอกสารเครดิตบูโรของสินเชื่อที่เรามีมาให้อยู่แล้ว แต่การตรวจเครดิตบูโร จริงๆ แล้วก็เพื่อให้เรามั่นใจว่าข้อมูลการเป็นหนี้ของเรามีความถูกต้องเอกสารจะรายงานยอดหนี้ทั้งหมด รวมถึงบัญชีไหนปิดไปแล้วก็ต้องมียอดหนี้เป็น 0 บาท บัญชีไหนจ่ายตรงตามเงื่อนไขก็ต้องระบุว่าไม่ค้างชำระหรือค้างไม่เกิน 30 วัน ถือเป็นการป้องกันการแอบอ้างเอกสารส่วนตัวของเรา เช่น ปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชน เอกสารทางการเงินที่มักรับรองสำเนาบ่อยๆ ไปสมัครสินเชื่อ ซึ่งอาจทำให้เรามีหนี้งอกมาโดยไม่รู้ตัวได้ หากเราตรวจเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอก็จะเป็นการช่วยรีเช็กสถานะหนี้สินของเราได้อีกทางหนึ่งค่ะ 

หลังจากทราบเหตุผลว่าทำไมเราต้องตรวจเครดิตบูโรกันไปแล้ว วันนี้เราจะพามาดูขั้นตอนการตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเองผ่านตู้คีออสที่ "บูโร แล๊บ" สำหรับการรับรายงานทางอีเมล รูปแบบ NCB e-Credit Report กันนะคะ 

การเตรียมตัวสำหรับเจ้าของข้อมูลเครดิต ที่ต้องการตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเองผ่านตู้คีออส "บูโร แล๊บ" 

• เตรียมบัตรประชาชนของตนเอง
• เบอร์โทรศัพท์มือถือของตนเอง (เพื่อรับรหัส OTP)
• อีเมลของตนเอง (สำหรับจัดส่งรายงาน)
  *ตู้คีออสรับเฉพาะธนบัตร 100 บาท เท่านั้น

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว เรามาเริ่มตรวจข้อมูลกันเลยค่ะ

สำหรับลูกค้าที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วสามารถนำหลักฐานแก่เจ้าหน้าที่เครดิตบูโร จะได้รับบริการตรวจเครดิตบูโร...เพื่อรับรายงานเครดิตบูโรรูปแบบเอกสารฟรี! หรือรับอีคูปองเพื่อใช้บริการ "ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส)" เพื่อรับรายงานเครดิตบูโรรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ฟรี! ทางอีเมลได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2564 ได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรบนสถานีรถไฟฟ้า BTS (ภายในสถานี) ทุกแห่ง (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)

ตู้คีออสที่ให้บริการตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง

1. สัมผัสหน้าจอเพื่อเริ่มใช้บริการกันได้เลยค่ะ

2. อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขก่อนใช้บริการ

3. เสียบบัตรประชาชนตนเอง และระบบจะแสดงข้อมูลที่ Link จากบัตรประชาชนของเราค่ะ 

4. ทำการสแกนใบหน้ายืนยันเพื่อยืนยันตัวตน

หลังจากทำการสแกนใบหน้า และระบบ Face Recognize อนุมัติเรียบร้อย เราก็จะสามารถเลือกรูปแบบรายงานที่เราต้องการขอได้เลยค่ะ 

5. เลือกประเภทรายงานที่ต้องการตรวจสอบ

ประเภทของรายงานที่เจ้าของข้อมูลต้องการตรวจสอบ จะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ 

• รายงานเครดิตโดยใช้คูปอง (จากโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว สามารถรับบริการตรจเครดิตบูโรได้ฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่)
• รายงานข้อมูลเครดิต (ค่าบริการ 100 บาท) 
• รายงานข้อมูลเครดิต และเครดิตสกอริ่ง (ค่าบริการ 200 บาท) 
• รายงานข้อมูลเครดิตแบบสรุป (ค่าบริการ ฟรี)

6. กรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับรหัส OTP

7. กรอกรหัส OTP 6 หลักที่ได้รับ

8. หลังจากใส่รหัส OTP แล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการชำระค่าบริการค่ะ สำหรับลูกค้าฉีดวัคซีนโควิดและมีหลักฐานยืนยันจะได้รับโค้ดตรวจเครดิตบูโรฟรี (24 พ.ค. - 30 มิ.ย. 64) โดยรับรหัสที่เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่บูธนะคะ

ระบบจะแสดงจำนวนเงินที่เราต้องชำระตามรูปแบบของข้อมูลที่เราเลือกขอนะคะ โดยตู้คีออสนี้รับเฉพาะธนบัตรฉบับละ 100 บาทเท่านั้น

9. ระบบจะให้เราใส่อีเมลที่เราจะใช้รับรายงานข้อมูลเครดิต โดยจะได้รับเป็น File PDF ค่ะ ส่วนใครที่ต้องการรับเป็นเอกสารเลยก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำบูธเพื่อดำเนินการได้เช่นกันค่ะ

10. ระบบจะสรุปการยื่นขอตรวจข้อมูลให้เราอีกครั้ง เราสามารถเช็กความถูกต้องและกด "ยืนยัน" ได้เลยค่ะ

เราสามารถดูรายงานข้อมูลเครดิต e-Credit Report โดยใช้รหัสที่บริษัทข้อมูลเครดิตจะส่งให้ทาง SMS ใน email ที่เราระบุได้เลยค่ะ

สำหรับการทำรายการที่ตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง ต้องบอกเลยว่าประหยัดเวลามากค่ะ เพราะรวมระยะเวลาการทำรายการจนถึงการได้รับเอกสารทางอีเมล ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น และการที่มีจุดบริการบนสถานีรถไฟฟ้า ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการอีกด้วยค่ะ 

เวลาที่สถาบันการเงินต่างๆ จะพิจารณาให้สินเชื่อ จะมีการขอรายงานข้อมูลเครดิตมาจากเครดิตบูโร เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา วันนี้เราจะพามาดู 5 แบบรายงานข้อมูลเครดิตบูโรที่สามารถพบได้กันค่ะ ซึ่งข้อมูลที่อยู่กับเครดิตบูโรจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ

ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล คือชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส อาชีพ เลขที่บัตรประชาชน เป็นต้น

 

ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับ "หนี้สิน" ต่างๆ เช่น ประวัติการขอ การได้รับอนุมัติสินเชื่อ และการชำระสินเชื่อ รวมทั้งประวัติการชำระราคาสินค้า หรือบริการโดยบัตรเครดิตด้วย โดยคำว่า "สินเชื่อ" ตามกฎหมายเครดิตบูโรในที่นี้จะไม่ได้จำกัดเฉพาะการกู้ยืมเงินสินเชื่อบ้าน สินเชื่อเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น แต่จะรวมถึงเช่าซื้อรถยนต์ ลิสซิ่ง ค้ำประกัน ให้ยืมหลักทรัพย์ เป็นต้น 

แต่ละแบบของรายงานข้อมูลเครดิตก็แตกต่างกันตามสถานะของสินเชื่อ และการชำระหนี้ที่เราเป็นอยู่ค่ะ หากใครเคยขอรายงานเครดิตบูโรมาแล้ว ลองเช็กดูนะคะว่าของเราเป็นแบบไหนใน 5 แบบนี้    

เราได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการขอข้อมูลเครดิตในย่านชิดลมถึงความสะดวกในการใช้บริการ และความเหมาะสม ของสถานที่ และความรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร เรามาดูกันค่ะว่าลูกค้าผู้ใช้บริการมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

---

หากใครกำลังคิดจะขอสินเชื่ออยู่อยากเช็กเครดิตของตนเอง หรืออยากเช็กว่ามีหนี้ที่ไม่ใช่ธุรกรรมที่เราเป็นคนทำเพิ่มขึ้นมาหรือไม่ สามารถยื่นขอตรวจข้อมูลเครดิตเฉพาะรายการบุคคลธรรมดาของตนเองหรือมอบอำนาจ หรือตรวจเครดิตสกอริ่ง (เฉพาะบุคคลธรรมดา) และชาวต่างชาติ (โดยใช้หนังสือเดินทางของตนเอง) กันได้ที่ "บูโร แล๊บ" นะคะ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.ncb.co.th และขอบคุณสถานที่ศูนย์ตรวจข้อมูลเครดิตบูโร "บูโร แล๊บ" สถานีรถไฟฟ้าชิดลม