"สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล" แตกต่างจาก "บัตรกดเงินสด" อย่างไร แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

icon 4 ต.ค. 62 icon 30,414
"สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล" แตกต่างจาก "บัตรกดเงินสด" อย่างไร แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

"สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล" แตกต่างจาก "บัตรกดเงินสด" อย่างไร แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

คนเราต่างก็มีเรื่องต้องใช้เงินทั้งนั้น ยามที่เราต้องใช้เงิน โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน จะไปหยิบยืมใครก็ไม่อยากจะบากหน้าไปขอยืมเงิน สิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือ การใช้เครื่องมือทางการเงินสมัยใหม่อย่าง "สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล" และ "บัตรกดเงินสด"
เมื่อเรามีความจำเป็นต้องใช้เงิน และต้องการหาแหล่งเงินที่เข้าถึงง่าย แต่หลายคนอาจสับสนระหว่าง บัตรกดเงินสด กับสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลว่ามันแตกต่างกันอย่างไร แล้วเราควรเลือกแบบไหนดีกว่ากัน มาหาคำตอบกันดีกว่าครับ

ประการแรก "เรื่องราวของบัตรกดเงินสด"

"บัตรกดเงินสด" คือ เครื่องมือทางการเงินในยุคใหม่ที่ทำให้ผู้ขอสินเชื่อรายย่อยในระดับบุคคลสามารถเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อใช้เป็น "สภาพคล่อง" ไว้จับจ่ายในชีวิตประจำวันได้ไม่ติดขัด การใช้บัตรกดเงินสดยามจำเป็นถือเป็นเรื่องดี แต่หากเราใช้เกินความจำเป็นก็อาจส่งผลเสียได้ มาดูข้อดีของบัตรกดเงินสดกันครับ
ข้อดีของบัตรกดเงินสด ก็คือ บัตรกดเงินสดถูกออกแบบมาให้เราสามารถกดเงินออกมาใช้ได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อเป็นสินเชื่อเงินสด ที่จะคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมตามจำนวนเงินที่กดมาใช้ โดยไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำในการถอนแต่ละครั้ง รวมถึงไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินแต่ละครั้งอีกด้วย และกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหน่อย โดยปกติจะสูงกว่าบัตรเครดิตไม่มาก ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทที่ออกบัตรกดเงินสดออกมาให้เราได้ใช้
บัตรกดเงินสดมีการคิดดอกเบี้ยอย่างไร ... สำหรับการคิดดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด จะขึ้นอยู่กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรกดเงินสดเป็นหลัก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันออกไป แต่จะมีเพดานสูงสุดอยู่ที่ 28% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยอาจแตกต่างกันในแต่ละที่ ตามที่สถาบันการเงินนั้นๆ ได้กำหนดกฏเกณฑ์เอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดวงเงินต่ำ อัตราดอกเบี้ยอาจจะสูง และหากวงเงินที่ได้รับสูง อัตราดอกเบี้ยอาจจะต่ำลง
ข้อพึงระวังในการใช้บัตรกดเงินสด ... ก็คือ การที่บัตรกดเงินสดมีความสะดวก ทำให้เราสามารถกดเงินมาใช้จ่ายอย่างง่ายๆ อาจทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายจนลืมตัว ที่สำคัญบัตรกดเงินสดไม่ได้มีการแบ่งจ่ายผ่อนชำระเป็นงวดๆ ทำให้วินัยทางการเงินของผู้ใช้อาจหย่อนยานได้นะครับ ต้องระวังการใช้ให้ดี

ประการที่สอง "เรื่องราวของสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล"

สำหรับสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล ถือเป็นบริการสินเชื่อที่สถาบันการเงินออกแบบมาให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้เงินของแต่ละคน โดยสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลจะถูกเสนอโดยธนาคาร หรือสถาบันการเงิน และจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน
เมื่อเราได้รับอนุมัติสินเชื่อเงินสด ก็จะมีเงินก้อนโอนเข้ามายังบัญชีที่เราแจ้งเอาไว้ หรือกำหนดเอาไว้ หลังจากเราได้รับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ต้องทยอยผ่อนชำระคืนเป็นงวด งวดละเท่าๆ กัน จนครบจำนวนงวด ซึ่งถ้าเมื่อเปรียบเทียบกับบัตรกดเงินสด จะมีข้อดีดังต่อไปนี้
  • วงเงินของสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลที่ได้รับจะสูงกว่าบัตรกดเงินสด ... เนื่องจากสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลจะมีเกณฑ์การปล่อยที่เข้มงวดกว่า และมีระยะเวลาการผ่อนชำระชัดเจน ทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกสินเชื่อ สามารถให้วงเงินที่สูงกว่าบัตรกดเงินสด
  • เมื่อผ่านการอนุมัติจะได้รับเงินก้อนโอนเข้าบัญชีทันที ... สำหรับสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลเราจะได้รับเงินเป็นก้อนทันที่ที่ผ่านการอนุมัติ และเราต้องไปบริหารจัดการเงินก้อนนี้เองว่าจะไปใช้จ่ายอะไร อย่างไรบ้าง ถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขอสินเชื่อเป็นอย่างดีทีเดียว
  • วงเงินอนุมัติได้ก้อนใหญ่ ... โดยปกติแล้ววงเงินอนุมัติจะได้ค่อนข้างสูง แต่มักจะไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน เช่น เรามีงานประจำมีเงินเดือนราว 20,000 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินก้อนไม่เกิน 100,000 บาทต่อการขอสินเชื่อแต่ละรอบ ถือว่าได้เงินเยอะ และก้อนใหญ่
  • ดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายวัน แบบลดต้นลดดอก ... เมื่อเราได้รับเงินก้อนเข้าบัญชีแล้ว ทันทีที่เงินถูกโอนเข้าบัญชีเรา ธนาคาร หรือสถาบันการเงินผู้ออกเงินกู้จะคิดดอกเบี้ยเรานับตั้งแต่วันที่โอนเลยนะครับ และจะคิดเป็นรายวัน แต่ดอกเบี้ยจะคิดให้เราแบบลดต้นลดดอก พูดง่ายๆ ก็คือ อัตราดอกเบี้ยจะคิดจากฐานเงินใหม่ ถ้าเราผ่อนชำระคืนทั้งต้นทั้งดอก ก็จะลดลงเรื่อยๆ
  • การผ่อนชำระมีการกำหนดเป็นงวดๆ ค่อนข้างชัดเจน ... ข้อดีก็คือ ทำให้เรามีวินัยทางการเงิน ไม่ปล่อยให้ดอกเบี้ยมันทบไปทบมาจนพอกพูน โดยสินเชื่อเงินสดจะมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่ชัดเจนมากๆ หลายแห่งให้เวลาผ่อนชำระนานถึง 72 เดือน ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับเราได้เป็นอย่างดี
  • อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าบัตรกดเงินสด ... อันนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยล่ะครับ เพราะสินเชื่อส่วนบุคคลให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าบัตรกดเงินสด ส่วนจะถูกแค่ไหน ลองสอบถามกับทางสถาบันการเงินโดยตรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงินประกอบด้วยนะครับ
ข้อสรุปก็คือ ... ทั้งบัตรกดเงินสด และสินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลล้วนมีประโยชน์ แต่หากเราต้องใช้เงินก้อนใหญ่ และต้องการการผ่อนชำระคืนเจ้าหนี้ที่ชัดเจน ควรเลือกใช้สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล และหากเราต้องการพกบัตรกดเงินสดไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ก็เลือกสมัครอย่างหลัก พึงระวังไว้เสมอว่า ทั้งสองเครื่องมือทางการเงินล้วนเป็นการกู้ยืมเงิน และมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ถ้าเราใช้เป็นก็จะเกิดประโยชน์กับเราเองอย่างแน่นอนที่สุดครับ

บัตรกดเงินสด VS สินเชื่อส่วนบุคคล แตกต่างกันอย่างไร?

ตารางเปรียบเทียบบัตรกดเงินสด กับสินเชื่อส่วนบุคคล

 
บัตรกดเงินสด


สินเชื่อส่วนบุคคล

ความยากในการสมัคร
แค่มีเอกสารครบ และมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร ก็จะได้รับการอนุมัติภายใน 1- 2 สัปดาห์ แค่มีเอกสารครบ และมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร ก็จะได้รับการอนุมัติภายใน 1- 2 สัปดาห์
วงเงิน
  • กรณีเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท ได้รับวงเงินไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้
  • กรณีเงินเดือนมากกว่า 30,000 บาท ได้รับวงเงินไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
  • กรณีเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท ได้รับวงเงินไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้
  • กรณีเงินเดือนมากกว่า 30,000 บาท ได้รับวงเงินไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ 
ดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยที่แพงที่สุด เนื่องจากได้เงินสดมาใช้จ่ายล่วงหน้าโดยไม่มีทรัพย์สินใดๆ มาค้ำประกันนั่นเอง โดยทั่วไปบัตรกดเงินสดจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ไม่เกิน 28% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินของผู้ออกบัตร)  ขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่ใช้ ถ้าคุณยิ่งใช้มาก อัตราดอกเบี้ยก็จะยิ่งต่ำลง 
การคิดดอกเบี้ย
จะคิดคำนวณดอกเบี้ยจากยอดเงินที่กดออกมาใช้ โดยคิดเป็นรายวัน ซึ่งนับคำนวณตั้งแต่วันแรกที่กดออกมาใช้  จะคิดคำนวณแบบลดต้นลดดอก โดยคิดทั้งจำนวนวงเงินที่ได้รับอนุมัติมา 
ระยะเวลาผ่อนคืน
จ่ายตามยอดที่กดใช้จ่ายจริง โดยจะเลือกชำระขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด หรือชำระจำนวนเต็มก็ได้  มีกำหนดระยะเวลาผ่อนที่ชัดเจน โดยจะอยู่ระหว่าง 12 - 60 เดือน
ผ่อนขั้นต่ำได้หรือไม่
เลือกชำระขั้นต่ำได้ตามที่ธนาคารกำหนด  ไม่สามารถชำระขั้นต่ำได้ แต่ต้องชำระตามจำนวนเงินในแต่ละงวดที่ตกลงไว้กับธนาคาร 
มีเงินก้อนโปะได้ไหม
โปะทั้งก้อนได้ ไม่มีเงื่อนไขหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม  โปะยอดเงินที่เหลือได้ แต่ต้องไม่ผิดเงื่อนไขตามที่ระบุสัญญาของธนาคาร
เหมาะกับใคร
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวงเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยต้องการใช้เท่าไหร่ก็กดมาใช้เท่านั้น จะเสียดอกเบี้ยเฉพาะในส่วนที่กดออกมาใช้เท่านั้น  เหมาะสำหรับคนที่มีแผนการใช้เงินก้อนจำนวนหนึ่ง ซึ่งในส่วนของเงินกู้ก้อนนี้จะคิดดอกเบี้ยทั้งจำนวนทันที โดยสามารถแบ่งจ่ายหรือผ่อนชำระในช่วงระยะเวลาที่กำหนด 
ตัวอย่างโปรดักส์

ยูโอบี แคชพลัส
พร้อมให้คุณมีเงินสดสำรองพร้อมใช้ตลอด 24 ชั่วโมง


สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช
รับเงินก้อน โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากชำระคืนเท่ากันทุกงวด


แท็กที่เกี่ยวข้อง ดอกเบี้ย บัตรกดเงินสด วงเงิน สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล เงินก้อน
Money Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)