การเลือกถือบัตรเครดิตให้เหมาะกับคุณ

ในโลกปัจจุบันนี้ คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า บัตรเครดิตมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตคนเรามากขึ้นทุกที ซึ่งจะเห็นได้ว่าประเทศเรามีผู้ถือบัตรเครดิตอยู่เกือบ 16 ล้านใบ และมียอดสินเชื่อคงค้างสูงสุดถึง 2.2 แสนล้านบาท (ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย) หลาย ๆ ท่านคงมีประสบการณ์ในการจับจ่ายซื้อของ หรือรับประทานอาหารในร้านที่มีโปรโมชั่นกับบัตรเครดิตที่เราไม่ได้ถืออยู่ ทำให้เราเสียโอกาสที่จะได้ส่วนลด หรือเงื่อนไขดี ๆ ไปเหมือนกัน

ธุรกิจบัตรเครดิตในบ้านเรามีการแข่งขันกันสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกันในการขยายฐานลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต หรือการแข่งขันกันในการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือกที่จะนำบัตรนั้นออกมาใช้ชำระแทนเงินสด หรือใช้แทนบัตรอื่น ๆ ที่มีอยู่ในกระเป๋า ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีบัตรเครดิตอยู่หลายใบ เนื่องจากเพื่อนฝูงขอให้ช่วยสมัคร ก็เลยต้องช่วย ๆ กันไป จนขณะนี้มีเกือบครบทุกธนาคาร บางธนาคารก็มีซะหลายใบเลย แต่การที่จะหยิบใบไหนออกมาใช้ ผมก็มักจะนึกถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนก็จะให้ความสำคัญของสิทธิประโยชน์ที่เหมือนกัน ส่วนการที่เราจะเลือกสมัครและพกบัตรเครดิตใบไหนติดกระเป๋านั้น ผมก็เลยมีข้อคิดฝากให้คุณผู้อ่านพิจารณาดังนี้

1. ตั้งคำถามก่อนว่าเราชอบทำกิจกรรมที่ไหนบ่อย ๆ เช่น ถ้าเราชอบ Shopping เราก็ควรเลือกบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นกับห้างสรรพสินค้าที่เราไปซื้อของเป็นประจำ เช่น โปรโมชั่นช็อป 1,000 คืน 1,000 กับ 3 ห้างดัง หรือการให้ผ่อนชำระโดยไม่เสียค่าดอกเบี้ยหรือเราอาจจะเลือกถือบัตรเครดิตที่ออกร่วมกันระหว่างสถาบันการเงินกับธุรกิจห้างร้าน เช่น บัตรเครดิตที่ออกร่วมกับห้างสรรพสินค้า ร่วมกับสายการบิน ร่วมกับโรงพยาบาลที่เราใช้บริการเป็นประจำ เพราะบัตรเครดิตเหล่านี้มักจะมีโปรโมชั่นที่สถาบันการเงินทำร่วมกับห้างร้านต่าง ๆ ดีกว่าบัตรเครดิตอื่น ๆ เช่น เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเองต้องไปชำระค่ารักษาพยาบาลของแม่ยายตามประสาลูกเขยที่ดี โดยใช้บัตรเครดิตที่ธนาคารออกร่วมกับโรงพยาบาลแห่งนั้น ซึ่งนอกจากคุณแม่ยายผมจะได้ Upgrade ห้องพักผู้ป่วยฟรีแล้ว ผมยังได้สิทธิในการผ่อนชำระโดยไม่เสียดอกเบี้ยไปหลายเดือนทีเดียว 
2. คำนึงถึงบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะกับเรา เช่น การให้ส่วนลดต่าง ๆ การให้เงินสดคืนเข้าบัญชี (Cash Back) การนำคะแนนสะสมมาชำระค่าสินค้าหรือเป็นส่วนลดเพิ่ม (On Top) การได้สิทธิจอดรถในสถานที่ที่เราไปบ่อย ๆ หรือการนำคะแนนสะสมไปแลกเป็นไมล์สะสมกับสายการบินที่อาจทำให้เราได้ตั๋วไปเที่ยวต่างประเทศฟรี ๆ (แต่ขอให้คำนึงถึงด้วยว่าทุก ๆ 100 บาทที่เราใช้นั้นจะเปลี่ยนเป็นไมล์สะสมได้เท่าไหร่ เพราะบางบัตรจะได้คะแนนสะสมง่าย แต่ใช้คะแนนจำนวนมากในการแลกเปลี่ยนเป็นไมล์) 
3. เลือกบัตรเครดิตที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายปี หรือมีเงื่อนไขการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีที่ไม่ต้องยุ่งยากมากนัก เช่น การมียอดการใช้จ่ายตามที่กำหนดไว้ ซึ่งเราจะต้องเปรียบเทียบว่าบัตรเครดิตใบใดกำหนดเงื่อนไขยอดใช้จ่ายขั้นต่ำน้อยที่สุด หรือบางบัตรอาจเสนอค่าธรรมเนียมรายปีฟรีตลอดชีพให้เราโดยไม่มีเงื่อนไข  
4. กรณีที่เรามักจะไม่ชำระเงินเต็มจำนวนที่บัตรเครดิตเรียกเก็บอยู่บ่อย ๆ ก็ควรเลือกบัตรเครดิตที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด บัตรเครดิตบางใบก็อาจมีการคิดค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เพิ่มเติมในกรณีที่เราไม่ได้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นมาอีก เช่น ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ทำให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเราจะสูงกว่าที่คิดไว้ สำหรับการใช้บัตรเครดิตกดเงินสดออกมาใช้นั้น หากไม่จำเป็นแล้วเราไม่ควรกดเงินสดออกมาจากบัญชีเครดิต เพราะอัตราดอกเบี้ยจะสูง และยังมีค่าธรรมเนียมในการถอนอีก 
5. วงเงินที่บัตรเครดิตอนุมัติให้เรานั้นจะต้องเพียงพอที่เราจะใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็ไม่ควรมีวงเงินที่มากเกินไป เพราะหากบัตรเครดิตนั้นสูญหายโดยที่เราไม่รู้และไม่ได้แจ้งสถาบันการเงินให้อายัดบัตร ก็อาจจะทำให้เราต้องมาชดใช้หนี้ที่เราไม่ได้ก่อไว้ ในขณะเดียวกันหากวงเงินที่เราได้รับอนุมัติมากเกินกว่าความสามารถในการที่เราจะชำระหนี้ได้ ก็อาจจะทำให้เราใช้จ่ายเกินตัวจนกระทั่งเสียเครดิตได้ 
6. ควรเลือกใช้บัตรเครดิตที่มีบริการ SMS Alert ซึ่งจะแจ้งข้อมูลการใช้จ่ายให้เรารู้ได้ทันทีเมื่อมีการใช้บัตรเครดิตของเราเพื่อความปลอดภัย และเราสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในประเทศหรือต่างประเทศ ที่สำคัญคือบางธนาคารบริการให้เราฟรีด้วยนะครับ 
7. ความสะดวกสบายในการชำระเงินก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึง บัตรเครดิตส่วนใหญ่สามารถให้เราชำระผ่านหลาย ๆ ช่องทางไม่ว่าจะผ่านทาง Counter หรือผ่านทาง Internet Banking หรือ Mobile Banking ได้ แต่หากเป็นการชำระกับสถาบันการเงินที่เป็นผู้ออกบัตรเครดิตนั้น เราก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียม ดังนั้นเราก็ควรจะเลือกบัตรเครดิของสถาบันการเงินที่เราติดต่อได้สะดวก หรือบัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่เรามีบัญชี Internet Banking และ Mobile Banking ก็จะดีครับ

 

นอกจากคำแนะนำเหล่านี้แล้ว บางท่านอาจจะเลือกสมัคร เพราะวัตถุประสงค์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ของแถมถูกใจ (หรือเซลล์ที่ขายบัตรถูกใจ ...แฮ่ม!) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่สามารถช่วยสร้างประโยชน์ได้อย่างมาก หากเราเลือกบัตรที่เหมาะกับ Lifestyle ของเราจริง ๆ และต้องศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างถ่องแท้

ที่สำคัญที่สุด คือ อย่าใช้จ่ายเกินกว่าความสามารถในการชำระหนี้ของเรา และห้ามผิดนัดชำระหนี้อย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำเราถูกคิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราสูงที่สุดแล้ว ยังอาจทำให้เราเสียประวัติทางการเงินด้วยครับ