เทคนิคตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม
ที่ผ่านมาการทุจริตผ่านบัตรเครดิต เป็นปัญหาที่ขยายวงกว้างขึ้นทั่วโลก วิธีที่พบบ่อยที่สุดในเมืองไทย คือ การปลอมบัตร การแอบอ้างเป็นผู้ถือบัตรจริง รวมถึงการคัดลอกข้อมูลจากบัตร หรือที่เรียกว่า สกิมมิ่ง (Skimming) บัตรที่ปลอมเหมือนของจริงถึง 85 เปอร์เซ็นต์ แต่มีจุดสังเกต บัตรเครดิตปลอมจะบางกว่า ประเภทบัตรเครดิตปลอมที่พบมากที่สุด มีทั้งบัตรเครดิตที่เป็นอินเตอร์ วีซ่าต่างๆ รวมทั้งบัตรโดเมสติก (Domestic หรือ Local) ที่ใช้ได้เฉพาะในประเทศ แต่มีการปลอมน้อยกว่าเพราะว่าทำแล้วไม่คุ้มที่จะถูกจับ ฉะนั้นเรามาดูเทคนิคการตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม ดังนี้
- บัตรวีซ่าและบัตรมาสเตอร์การ์ดจะมีหมายเลข 4 หลักแรก พิมพ์ไว้บนบัตรบริเวณใต้หมายเลขบัตรที่ปั๊มนูน 4 ตัวเลข โดยเลข 4 หลักที่พิมพ์กับที่ปั๊มนูนจะต้องเป็นเลขเดียวกัน
- หมายเลขบัตรที่ปั๊มนูนไม่ชัดเจนหรือไม่เสมอกันหรือไม่
- ภาพสามมิติบนบัตรต้องขยับได้เมื่อขยับบัตร
- ตรวจดูว่าหมายเลขบัตรที่ปั๊มนูนตรงกันกับหมายเลขบนสลิปที่พิมพ์ออกมาหรือไม่
กฎสำหรับผู้ถือบัตร
- เซ็นชื่อลงบนแถบลายเซ็นทันที
- จดหมายเลขบัตรเครดิต และหมายเลขโทรสำหรับแจ้งบัตรหาย และเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย และหาได้ง่ายในยามฉุกเฉิน
- ไม่ควรตั้งรหัสเอทีเอ็มโดยใช้ข้อมูลส่วนตัวซึ่งง่ายต่อการคาดเดา ไม่ว่าจะเป็นชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด
- ควรจำรหัสเอทีเอ็มให้ได้ ถ้าคุณจำเป็นต้องจดรหัสเอทีเอ็ม ก็ไม่ควรเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ หรือเก็บไว้ใกล้กับบัตร
- ไม่ควรบอกรหัสเอทีเอ็มของคุณให้บุคคลอื่นทราบ คุณควรเก็บรหัสนี้ไว้รู้เพียงคนเดียว
กฎสำหรับร้านค้า
ในส่วนของร้านค้าเองก็สามารถช่วยสกัดกั้นแก๊งมิจฉาชีพ โดยมีวิธีการสังเกตว่าผู้ที่กำลังจะชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเป็นโจรร้ายที่แฝงตัวมาในคราบของลูกค้าหรือไม่ ดังต่อไปนี้
- ชื่อที่ปรากฏบนบัตรกับผู้ถือบัตรมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ไม่ใช่ตัวเป็นผู้ชายแต่ชื่อบนบัตรเป็นชื่อเพศหญิง หรือเป็นชาวต่างชาติแต่บนบัตรเป็นชื่อคนไทย เป็นต้น
- ลูกค้าแสดงพิรุธอะไรหรือไม่ หรือพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของพนักงานจากบัตรหรือไม่
- สังเกตลักษณะการซื้อสินค้าของลูกค้าดูผิดปกติวิสัยหรือไม่ เช่น ซื้อของชนิดเดียวกันมากผิดปกติ หรือซื้อโดยไม่ใส่ใจว่าของราคาเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรเก็บรักษาบัตรเช่นเดียวกับที่คุณเก็บรักษาเงินสด มิฉะนั้น คุณอาจต้องรับผิดชอบต่อหนี้ที่เกิดขึ้นจากบัตรที่ถูกขโมยหรือจากข้อมูลบัตรที่ถูกผู้อื่นลักลอบนำไปใช้ รวมทั้งต้องมาเสียเวลากับการแจ้งยกเลิกบัตรและเปลี่ยนบัตรใหม่