x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

Adobe Substance 3D ช่วยแบรนด์ค้าปลีกและแฟชั่นสร้าง Prototype ยกระดับประสบการณ์ 3D Content

ข่าว icon 25 ม.ค. 66 icon 3,423
แบรนด์ค้าปลีกและแฟชั่นชั้นนำเลือกใช้โซลูชั่น Adobe Substance 3D พลิกโฉมวิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์ สร้าง Prototype ช่วยให้แบรนด์ปรับเปลี่ยนและสร้าง 3D Content ได้อย่างง่ายดาย สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
  • แบรนด์ระดับโลก เช่น Lowe's Home Improvement, Amazon, HUGO BOSS, Louis Vuitton, H&M และ Burberry ใช้แอปพลิเคชั่น Substance 3D ของอะโดบีสำหรับเรนเดอร์ภาพผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ดูสมจริงมากที่สุด
  • นวัตกรรมของอะโดบีช่วยให้ทีมงานสร้างประสบการณ์ 3D แบบ immersive ที่สมจริงสำหรับลูกค้า รวมถึงห้องลองเสื้อผ้าเสมือนจริงและโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซแบบเฉพาะบุคคล
อะโดบี (Nasdaq:ADBE) จัดแสดงโซลูชั่น Substance 3D สำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีกและแฟชั่น พร้อมเปิดเผยรายชื่อลูกค้าใหม่ ได้แก่ Amazon, Louis Vuitton และ Burberry โดยอีโคซิสเต็มส์การออกแบบ 3D ของอะโดบีประกอบด้วย 5 แอปพลิเคชั่น ได้แก่ Substance 3D Stager, Sampler, Designer, Painter และ Modeler ซึ่งช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถพลิกโฉม Value Chain ของธุรกิจ ตั้งแต่ขั้นตอนการคิดคอนเซ็ปต์และสร้างต้นแบบ ไปจนถึงการตลาด อี-คอมเมิร์ซ และประสบการณ์แบบเสมือนจริงที่แปลกใหม่สำหรับผู้บริโภค
 
อุตสาหกรรมค้าปลีกและแฟชั่นอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ขณะเดียวกันต้องเผชิญกับความต้องการผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภคในแต่ละฤดูกาล รวมถึงแรงกดดันในการดำเนินงานที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แบรนด์สมัยใหม่ จำเป็นต้องปรับขีดความสามารถในการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ให้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า แอปพลิเคชั่น Substance 3D ของอะโดบี ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้พัฒนาเกมชั้นนำ กำลังพลิกโฉมหน้าของอุตสาหกรรมค้าปลีกและแฟชั่น โดยแบรนด์ระดับโลกอย่างเช่น Lowe’s Home Improvement, Amazon, HUGO BOSS, Louis Vuitton, H&M และ Burberry ได้ปรับใช้โซลูชั่น Substance 3D เพื่อปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการแสดงผลภาพ ตลอดจนเร่งการสร้างเนื้อหาดิจิทัลคอนเทนต์ในขอบเขตที่กว้างมากขึ้น
 
ด้วยการใช้แอปพลิเคชั่น Substance 3D ทีมงานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์และการตลาดจึงสามารถสร้างและทำซ้ำชิ้นงานใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสุ่มตัวอย่างและจัดส่งเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ หรือแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ โดยต้นแบบและงานดีไซน์ 3D ที่ดูสมจริงช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยให้ทีมงานสามารถทุ่มเทให้กับงานออกแบบสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร และช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถโฟกัสไปที่การนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค เช่น ห้องลองเสื้อผ้าเสมือนจริง โซลูชั่นสำหรับ personalized e-commerce และอื่นๆ อีกมากมาย
จอห์น-แดเนียล ไอแซคสัน ผู้พัฒนากระบวนการออกแบบของ H&M กล่าวว่า “ประโยชน์ของการใช้วัสดุ Substance ใน CLO สำหรับชิ้นงานที่ทำอยู่ และความสามารถในการเปลี่ยนแปลงค่าพารามิเตอร์ของวัสดุระหว่างที่กำลังดำเนินการนับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่อย่างแท้จริง”
 
ไมค์ จิล ผู้จัดการฝ่ายผลิตโฆษณาของ Lowe’s Home Improvement กล่าวว่า “เครื่องมือ Adobe Substance 3D นำเสนอภาพ CGI คุณภาพสูงสำหรับโมเดล 3D และฉากในห้อง ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญและความใส่ใจในรายละเอียด เราจึงสามารถพัฒนากระบวนการที่มีความคล่องตัวสูง ซึ่งในทางกลับกันทำให้เราทำงานได้เสร็จเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง”
 
ดูราย มูรูกัน วีระสามี ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ 3D ของ Amazon กล่าวว่า “Adobe Substance 3D เป็นองค์ประกอบสำคัญในเวิร์กโฟลว์การผลิตชิ้นงาน 3D ของเรา เวิร์กโฟลว์ที่สอดคล้องกันอย่างกลมกลืนมีข้อดีมากมาย ช่วยให้เราสามารถสร้างองค์ประกอบ 3D ที่เปลี่ยนภาพและวิดีโอแบบพาสซีฟให้กลายเป็นประสบการณ์แบบแอคทีฟที่ลูกค้าสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของตนเองได้”

โซลูชั่น Substance 3D ของอะโดบีสำหรับธุรกิจค้าปลีกและแฟชั่นประกอบด้วยแอปพลิเคชั่นต่อไปนี้

  • Substance 3D Stager: สตูดิโอเสมือนจริงที่มีอุปกรณ์ครบครันของอะโดบีช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างฉาก 3D เต็มรูปแบบ รวมไปถึงองค์ประกอบต่างๆ วัสดุ แสง และกล้อง ด้วยการควบคุมงานสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด แบรนด์ต่างๆ จึงสามารถสร้างสภาพแวดล้อมแบบกำหนดเองได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคออนไลน์สามารถดูผลิตภัณฑ์ในบริบทที่เกี่ยวข้องได้อย่างสมจริง เช่น ซูมเข้า-ออกเพื่อวัดขนาดของโซฟา หรือซูมเข้าเพื่อตรวจดูว่าพื้นผิวมีความสวยงามอย่างที่ผู้บริโภคต้องการหรือไม่
  • Substance 3D Sampler: รูปภาพในชีวิตจริง (Real-life picture) สามารถเปลี่ยนเป็นวัสดุและแบบจำลองที่แม่นยำทางกายภาพได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลาซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei หากต้องการปรับเปลี่ยนคอลเลกชั่นตามฤดูกาล นักออกแบบก็สามารถนำเอาเนื้อผ้ายอดนิยมที่สร้างไว้ใน Sampler กลับมาใช้ใหม่ทำให้สร้างผลิตภัณฑ์เพิ่มได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ตามที่คาดการณ์ไว้
  • Substance 3D Designer: เครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการสร้างวัสดุโดยใช้ค่าพารามิเตอร์ ช่วยให้สามารถสร้างวัสดุและแพทเทิร์นได้อย่างไร้รอยต่อ ในการทำงานกับวัสดุต่างๆ เช่น หนัง แบรนด์เครื่องแต่งกายจะสามารถเลือกสี ลายผ้าแบบ grain direction และความสม่ำเสมอ ระดับความหยาบหรือเรียบ และระดับการสึกหรอ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ดูมีชีวิตชีวา
  • Substance 3D Painter: แอปสร้างพื้นผิว 3D ที่จำเป็นของอะโดบีช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างรายละเอียดพื้นผิวที่สมจริงเป็นพิเศษด้วย Smart Materials แบรนด์ต่างๆ จะสามารถจำลองพฤติกรรมของวัสดุในชีวิตจริง ซึ่งรวมถึงการเคลือบเงา การทำให้หมอง หรือการเคลือบใส เพื่อแสดงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สามารถแสดงแบบรองเท้า ตั้งแต่สภาพหนังแรกเริ่มตอนจดสิทธิบัตรไปจนถึงหนังที่เสื่อมสภาพ
  • Substance 3D Modeler: เครื่องมือที่ยืดหยุ่นและใช้งานง่ายสำหรับการร่างภาพสเก็ตช์และกำหนดแนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ในเวิร์กโฟลว์แบบไฮบริด ซึ่งใช้งานร่วมกับ VR และงานครีเอทีฟบนเดสก์ท็อปแบบเก่าเข้าไว้ด้วยกัน แบรนด์ต่างๆ จะสามารถสร้างต้นแบบเสมือนจริงแบบ clay model เพื่อสร้างชิ้นงานออกแบบที่ไร้ขีดจำกัด ตั้งแต่ของเล่นชิ้นใหม่ ไปจนถึงหูฟัง กระเป๋าถือ และอื่นๆ
  • Substance 3D Assets Library: บูรณาการและเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Substance 3D ทั้งหมด ไลบรารี 3D Assets เป็นที่รวบรวมวัตถุ แสง และวัสดุที่พร้อมใช้ในงานดีไซน์มากกว่า 15,000 รายการ ซึ่งสร้างสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญและศิลปินรับเชิญระดับโลก ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถพัฒนาและปรับแต่งรันเวย์ ฉากถ่ายทำ และสตูดิโอเสมือนจริงได้อย่างรวดเร็ว
เซบาสเตียน เดอกีย์ รองประธานและหัวหน้าฝ่าย 3D ของอะโดบี กล่าวว่า “อีโคซิสเต็มส์ของ Substance 3D ช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างพื้นผิวและเรนเดอร์ภาพได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันผู้ค้าปลีกและธุรกิจอี-คอมเมิร์ซกำลังมองหาเครื่องมือ 3D เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับดิจิทัลคอนเทนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยชุดแอป Substance 3D ของอะโดบีสำหรับธุรกิจค้าปลีกและแฟชั่นจะช่วยพลิกโฉมขั้นตอนการสร้างคอนเทนต์ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับภาคธุรกิจนี้”
 
สร้างคอนเทนต์ในรูปแบบ 3D ช่วยลดเวลาในการผลิตงานครีเอทีฟ ลดการใช้ทรัพยากร และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมาก รายงาน Pfeiffer ฉบับล่าสุดระบุว่า บริษัทต่างๆ ที่ใช้เวิร์กโฟลว์ 3D แทนการถ่ายภาพจริง ช่วยลดชั่วโมงทำงานและการใช้ทรัพยากรได้ถึง 90% นอกจากนั้น Substance 3D Sustainability Calculator ของอะโดบี ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ช่วยให้องค์กรธุรกิจประเมินได้ว่าการปรับเปลี่ยนโครงงานไปสู่ 3D จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการลดความสิ้นเปลืองในการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบของจริง นักออกแบบจะสามารถทุ่มเทให้กับสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ผู้บริโภค
 
ที่งานสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Federation - NRF) อะโดบีได้แสดงการเติบโตของฐานธุรกิจในส่วนของอุตสาหกรรมค้าปลีก โดยเทคโนโลยีของอะโดบีทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และกว่า 85% ของผู้ค้าปลีกชั้นนำ 100 รายในสหรัฐฯ ไว้วางใจเลือกใช้คอมเมิร์ซโซลูชั่นของอะโดบีเพื่อรองรับการดำเนินงาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

adobe Adobe Substance 3D

ข่าวและอีเว้นท์โทรศัพท์มือถือล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)