x
icon-filter ค้นหาบ้าน
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

"เอพี ไทยแลนด์" ประกาศสถิติใหม่ สร้างยอดขายสูงกว่า 41,000 ล้านบาท คาดตลาดปีหน้าเป็นของสินค้าระดับกลางและบน

ข่าว icon 19 ธ.ค. 60 icon 2,116
"เอพี ไทยแลนด์" ประกาศสถิติใหม่ สร้างยอดขายสูงกว่า 41,000 ล้านบาท


บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) สร้างเซอร์ไพรส์ตลาดอสังหาฯ โชว์สถิติใหม่ยอดขายปี 60 พุ่งสูงถึง 41,600 ล้านบาท เติบโตกว่าจากปีก่อนหน้าถึง 85% ผลจากสินค้าแนวราบที่ขายได้ต่อเนื่อง รวมถึงการปลุกแบรนด์ LIFE CONDO ใน 3 ทำเลเด็ดวิทยุ ลาดพร้าว และอโศก-พระราม 9 เผยสูตรสำเร็จพัฒนาอสังหาฯ เชื่อมโยง 4 มิติ โลเคชั่น-สินค้าที่โดนใจผู้บริโภค-การตั้งแพคเกจราคา-ซัพพลายคงเหลือ คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ ปีหน้าซัพพลายตอบตลาดระดับกลางและบนยังไปได้ดี สินค้าแนวราบเป็นที่น่าจับตามอง คอนโดต้องเจาะลึกเป็นรายเซกเมนต์
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560) เอพี ไทยแลนด์ประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของสินค้าทั้งกลุ่มคอนโด และแนวราบได้มากถึง 41,600 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 85% และเกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 26,000 ล้านบาทถึง 60% โดยแบ่งเป็นยอดขายที่เกิดจาก สินค้าแนวราบมูลค่า 14,525 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 27,075 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้นั้น นอกจากจะมาจากสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีแล้วนั้น ยังมาจากการประสบความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่

ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ประมาณ 90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects) อีกกว่า 80 โครงการ ที่มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จครั้งนี้ ทั้งนี้ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในครั้งนี้ ถือได้ว่าสะท้อนภาพความสำเร็จของวิธีคิดในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแบบของเอพี ที่นำมิติทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
  1. โลเคชั่น
  2. โปรดักส์ที่เข้าถึงความต้องการแฝง
  3. การกำหนดแพคเกจราคาขายที่สอดรับกับความสามารถในการผ่อนชำระ และ
  4. การศึกษาจำนวนซัพพลายคงเหลือแต่ละเซกเมนต์ มาเชื่อมโยงกันเพื่อออกแบบโมเดลสินค้าและราคาขายที่เข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
"เรารู้ดีว่าทุกวันนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วและแบ่งแยกเป็นกลุ่มย่อยที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าเอพีประสบความสำเร็จ คือ การทำงานภายใต้แนวคิดการออกแบบสินค้าที่ตอบความลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Mass Customized Design) ซึ่งเราเปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบ ภายใต้ทางเลือกที่เรากำหนดขึ้นลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยน ขยาย ลด พื้นที่การใช้งานได้ตามต้องการ จากนั้นดีไซเนอร์จะนำความต้องการที่ได้มาพัฒนาต่อจนออกมาเป็นโปรดักส์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่รับกับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ปัจจุบันเรามีแบบบ้านแนวราบที่ตอบความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้ามากกว่า 70 ดีไซน์ กระจายอยู่ใน 60 โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมทั่วกรุงเทพ และเราก็ยังคงไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีในอนาคตต่อไป" นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม

นอกจากนั้นแล้ว ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG) พันธมิตรทางธุรกิจ ในการส่งต่อแนวคิดในการบริหารจัดการคุณภาพ สู่การสร้างกรอบแนวคิดหลักในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการพัฒนา คอนโดมิเนียมเอพี ผ่านการผสมผสานประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ากับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี สมัยใหม่ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง IoT (Internet of Thing) ตลอดจนนวัตกรรมการก่อสร้างสำเร็จรูปในระบบโมดูลาร์ อย่างห้องน้ำสำเร็จรูปที่ให้ค่า Defect เท่ากับศูนย์
โดยในปี 2560 เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ยังถือเป็นพันธมิตรรายแรกและรายเดียวในธุรกิจที่มีโมเดลการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่แตกต่างจากรายอื่น ด้วยการจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ด้วยทุนจดทะเบียนที่สูงถึง 6,100 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด" เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน โดยทางมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีอีกด้วย
สำหรับคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนระหว่างเอพี (ไทยแลนด์) และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MECG) มีทั้งหมด 11 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 50,830 ล้านบาท มียอดขายรวมเฉลี่ย 85% ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
โดยทั้ง 4 โครงการมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งในปี 2561 เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ยังคงจับมือเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ในคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 ภาพรวมธุรกิจยังคงสอดรับกับภาพการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ การแข่งขันยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นหลักที่ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซัพพลายที่ตอบโจทย์ตลาดระดับกลางและบนขึ้นไปยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค การเปิดตัวของสินค้าใหม่แนวราบยังคงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง ส่วนคอนโดมิเนียมสินค้าที่ตอบตลาดระดับกลางถึงบนยังคงมีกำลังซื้อ ส่วนตลาดระดับล่างค่อนข้างน่ากังวลเพราะมีสต๊อกสร้างเสร็จคงเหลือจำนวนมาก กระแสการมาของเทคโนโลยีถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องปรับตัวให้ทัน เทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นถือเป็นตัวช่วยที่เปิดโอกาสให้เราเข้าใจและรู้จักลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ประกอบการต้องค้นหาให้เจอว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตนเองกำลังมองหาอะไร สำหรับการอยู่อาศัยในโลกอนาคต
โดยสรุปในปี 2560 บริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 25 โครงการ มูลค่ารวม 49,040 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 12,350 ล้านบาท ทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่า 12,590 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 24,100 ล้านบาท ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2560 สามารถสร้างยอดขายรวมของสินค้าทั้งกลุ่มคอนโด และแนวราบได้มากถึง 41,600 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 85% และเกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ 26,000 ล้านบาทถึง 60% โดยแบ่งเป็นยอดขายที่เกิดจาก สินค้าแนวราบมูลค่า 14,525 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 27,075 ล้านบาท
"เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย"
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1623 หรือทางเว็บไซต์ www.apthai.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ap เอพี

ข่าวและอีเว้นท์บ้านล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)