กรมขนส่งชี้แจงกรณีรถทะเบียนซ้ำ มีถูกเพียงคันเดียว แนะซื้อรถควรโอนด้วยตนเอง
กรณีรถยนต์ที่ทะเบียนซ้ำกันมีโอกาสเป็นไปได้สูง เช่น รถยนต์กระบะ 2 คัน เลขทะเบียนเดียวกันที่แชร์กันในสังคมออนไลน์ขณะนี้ ซึ่ง 1 ในนั้นจะต้องมีรถที่ปลอมแปลงเอกสารทางราชการเกี่ยวกับการทำทะเบียนรถ การโอน และธุรกรรมต่างที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องนี้ก็คงต้องรอการพิสูจนข้อเท็จจริงต่อไป
ภาพจาก ไทยรัฐ ออนไลน์
ทางด้าน นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีรถยนต์ฝาแฝดยี่ห้อ Mitsubishi ทะเบียน 1กภ 4437 กทม. ซึ่งมีทะเบียนซ้ำซ้อนกันว่า "ในระบบทะเบียนจะมีรถที่ถูกต้องเพียงคันเดียว โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าของรถที่ปรากฏข้อมูลในระบบทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกให้นำรถเข้ามาตรวจสอบยืนยันความถูกต้อง และสำหรับรถอีกคันที่ไม่ปรากฏข้อมูลในระบบนั้น กรมการขนส่งทางบกขอให้ผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวเข้ามายืนยันที่มาของรถ พร้อมแนะนำให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป"
ภาพจาก ไทยรัฐ ออนไลน์ นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบหลักฐานการดำเนินการทางทะเบียนและตรวจสอบเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ เพื่อพิจารณาว่ารถคันใดเป็นรถที่จดทะเบียนถูกต้อง กรณีพบว่ามีเลขตัวรถและเลขเครื่องยนต์ซ้ำซ้อนกัน ต้องส่งพิสูจน์หลักฐานโดยกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจพิสูจน์ว่ามีการขูดลบเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ และสีรถหรือไม่ กรณีที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนจะส่งตัวรถไปให้บริษัทผู้ผลิตตรวจรหัสลับของตัวรถ เพื่อประกอบการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวรถที่ถูกต้องอีกทางหนึ่ง
สำหรับปัญหาทะเบียนซ้ำซ้อนกันนี้อาจเกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพได้นำรถที่โจรกรรมมาหลอกขาย โดยทำการปลอมแปลงใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งรถที่นำไปสวมทะเบียนอาจมีการแก้ไขเลขตัวรถร่วมด้วย มักเกิดขึ้นกับการซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอย ที่ผู้ซื้อไม่นำรถไปดำเนินการจดทะเบียนและตรวจสภาพรถด้วยตนเองตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก โดยมอบให้ผู้ขายเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างในการปลอมแปลงเอกสารจนอาจเป็นสาเหตุของ การสวมทะเบียนรถดังเช่นที่ปรากฏ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยผู้ซื้อควรดำเนินการโอนทะเบียนรถด้วยตนเอง และควรตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับตัวรถโดยละเอียด
การตรวจสอบก่อนจะซื้อจะขายสภาพรถต้องตรงตามที่ระบุในคู่มือจดทะเบียน หรือหากมีการแก้ไขดัดแปลงสภาพรถต้องมีเอกสารหลักฐานระบุชัดเจน เช่น มีการติดตั้งแก๊ส การเปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนเครื่องยนต์ เป็นต้น โดยสามารถขอหลักฐานทะเบียนรถจากเจ้าของรถหรือผู้ขายมาขอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขา และเพื่อเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นสามารถนำรถเข้ามาตรวจสอบความถูกต้อง ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขาที่รถนั้นจดทะเบียนไว้ หากผลการตรวจสอบถูกต้องจึงค่อยดำเนินการซื้อขายรถต่อไป
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันการตรวจสภาพรถตามรายการที่กำหนดทุกคัน เพื่อป้องกันไม่ให้รถผิดกฎหมายดำเนินการทางทะเบียนได้โดยเด็ดขาด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะมีการระงับ การดำเนินการทางทะเบียนที่ไม่ถูกต้องทันที
สรุปว่าการจะซื้อจะขายรถหากหลีกเลี่ยงการโอนลอยและสามารถดำเนินการด้านธุรกรรมด้วยตนเองจะให้ความมั่นใจและปลอดภัยกว่า เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดที่ไม่สามารถรู้ได้ว่า "ใครผิดใครถูก"
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ไทยรัฐ ออนไลน์