MINI Cooper S Clubman Multitone มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทำงานผสานกับเกียร์ Steptronic 7 จังหวะ ให้กำลังสูงสุดที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที มอบความสนุกเร้าใจตลอดการขับขี่ด้วยแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที พุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 7.2 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 228 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ยังอัดแน่นด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่เพื่อความสะดวกสบายขั้นสุด เช่น ระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with Braking Function), ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control), ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control Systems), ระบบ Electronic Differential Lock Control (EDLC) รวมทั้งระบบเบรก ABS พร้อมระบบช่วยเสริมแรงเบรกโดยอัตโนมัติอีกด้วย
ราคา: 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)
MINI Cooper S Clubman Multitone Red ที่จะมาร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายของคอมมิวนิตี้คนรักมินิ ผ่านรายละเอียดการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน สำหรับรถ MINI รุ่นนี้ใช้เทคนิคการพ่นสีแบบต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอทิ้งช่วงให้แห้ง(wet-on-wet) นวัตกรรมที่รังสรรค์โดยโรงงานมินิในเมืองออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งเฉดสีทั้งสามถูกพ่นลงทีละสี ได้แก่ สีแดง Chilli Red ในส่วนด้านหน้า ตามด้วยสีเทา Melting Silver และจบด้วย สีดำ Jet Black ในส่วนท้ายของตัวถัง ก่อนจะลงสีทับด้วยเทคนิคสเปรย์เทค (Spray Tech) ซึ่งเทคนิคนี้อาจส่งผลให้การผสมของสีที่พ่นมีรูปแบบที่แตกต่างกันตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน ทำงานควบคู่ระบบเกียร์ Steptronic Sport 7 จังหวะแบบคลัตช์คู่ เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.2 วินาที
4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุดที่ 192 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที มอบความสนุกเร้าใจตลอดการขับขี่ด้วยแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที
4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว TwinPower Turbo