Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง รหัส M282 ขนาด 1,332 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ รองรับน้ำมัน E85 นำเสนออีกขั้นของเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยตัวกรองเขม่าอนุภาคขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาไหม้ มอบพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT) สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 8.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง รุ่นประกอบไทยเพิ่ม หลังคากระจก Panoramic, แอร์ Dual Zone + ช่องแอร์หลัง, MBUX7 Apple CarPlay ไร้สาย Wireless ฯลฯ
BMW X1 sDrive20d xLine มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่งบึกบึนยิ่งขึ้น โดยการปรับโฉมครั้งนี้เห็นเด่นชัดที่สุดที่ส่วนหน้าและท้ายของรถ ด้านหน้าตัวรถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดที่ใหญ่ขึ้นทั้งสองข้างขยับชิดกันกว่าเดิม ประสานไฟหน้า LED ที่ส่องสว่างเฉียบคมยิ่งขึ้น เสริมด้วยกันชนหน้าที่ผนวกไฟตัดหมอก LED และช่องดักลมขนาดใหญ่ไว้ได้อย่างลงตัว ส่วนช่วงท้ายของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X1 มาพร้อมกับสไตล์การออกแบบใหม่ๆ ที่น่าประทับใจ เช่น บังโคลนล้อหลังฝังมากับตัวรถในสีเดียวกับตัวถังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่งให้ช่วงท้ายของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X1 ดูหรูหราต่อเนื่องชัดเจนยิ่งขึ้นตลอดคัน อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือกระจกมองข้างด้านคนขับที่ส่องสว่างเป็นสัญลักษณ์ “X1” แบบสองสีเมื่อปลดล็อค ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยให้รถยนต์ดูเตะตา แต่ยังทำให้การขึ้นและลงรถง่ายดายยิ่งขึ้นอีกด้วย
BMW X1 sDrive20d xLine มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.9 วินาที ก่อนมุ่งสู่ความเร็วสูงสุดที่ 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในรุ่น xLine มาพร้อมเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 8 จังหวะ