Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic รถรุ่นนี้คือวิวัฒนาการของรถเอสยูวีขนาดกลางที่ถูกปรับโฉมและพัฒนาให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคที่ต้องรถเหมาะกับการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On Road และ Off Road โดยปัจจุบัน GLC ในรหัสตัวถัง X254 ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในรุ่น GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมแนวคิด “READY FOR DIGITAL LUXURY” ผสานขุมพลังการขับเคลื่อนในรูปแบบรถปลั๊กอินไฮบริดผ่านเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้า Permanently Excited Synchronous Machine มอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC
Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Aventgarde ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG กำลังแรงม้ารวมสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที ความเร็วสูงสุด 219 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ยังทรงพลัง และสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 6.5%
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ และ มอเตอร์ไฟฟ้า Permanently Excited Synchronous Machine ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-Ion) ความจุ 31.2 kWh มอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตันเมตร ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลมากกว่า 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 20 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM654M แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1,993 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศ turbochargers ที่ระบายความร้อนด้วยระบบ Water-cooled turbocharger ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ ISG (Integrated starter generator) พร้อมแบตเตอรี่แบบ 48V on-board electrical system ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้านี้จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะเบรก สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์แบบเงียบ ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและลดการสั่นในการสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะใช้งาน Eco Start/Stop และยังช่วยเพิ่มแรงบิดและรอบเครื่องยนต์ขณะที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำ โดยมอบพละกำลังได้สูงถึง 17 กิโลวัตต์ ทำให้รถยนต์คันนี้มีกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 197 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ยังทรงพลัง และสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 6.5%