เลื่อน! ลงทะเบียน "เที่ยวปันสุข" เป็น วันที่ 15 กรกฎาคม 2563
ททท. เปลี่ยนช่วงเวลาลงทะเบียน "เราไปเที่ยวกัน" และ "เที่ยวปันสุข" ใหม่ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวได้ลงทะเบียนก่อนในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ส่วนประชาชนจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ วันที่ 15 ก.ค. 2563
จากกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้เสนอ วงเงิน 22,400 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ คือ กำลังใจ, เราไปเที่ยวกัน และ เที่ยวปันสุข โดยระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน ก.ค. - ต.ค. 2563 รวมระยะเวลา 4 เดือน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 ก.ค. 2563 คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่มีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เป็นประธานจะเสนอให้ ครม.พิจารณารายละเอียดของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ และภายหลังจากที่ ครม.วันที่ 30 ก.ค. 2563 เห็นชอบรายละเอียดวิธีดำเนินการแล้ว ททท.จะเปิดแถลงข่าวโครงการนี้ในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. 2563
ในเบื้องต้นคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ฯ ได้กำหนดช่วงเวลาของโครงการนี้ใหม่ โดยวันที่ 1 ก.ค. 2563 จะเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ และโรงแรม ได้มาลงทะเบียนก่อน ส่วนประชาชนจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ วันที่ 15 ก.ค. 2563
นอกจากนั้น ภายใต้โครงการนี้ที่จะมี 3 แพ็กเกจ ในแพ็กเกจ "เราไปเที่ยวกัน" ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เราเที่ยวด้วยกัน" ส่วนอีกสองแพ็กเกจยังใช้ชื่อเดิม คือ กำลังใจ และ เที่ยวปันสุข โดยเว็บไซต์ที่จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน คือ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
ทั้งนี้ขั้นตอนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ต้องเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ซึ่งเป็นแลนด์ดิ้งเพจของโครงการ โดยในหน้าเว็บไซต์จะมีให้เลือกรับสิทธิ์ ผ่าน 2 เว็บเพจ
- เพจแรก เมนู "กำลังใจ" ซึ่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์ เที่ยวฟรี 100% ผ่านบริษัทนำเที่ยว 13,000 ราย แพ็กเกจนำเที่ยว 2 วัน 1 คืน ไม่เกิน 2,000 บาท รับสิทธิ์ 1 คน 1 สิทธิ์
- เว็บเพจที่สอง เมนู "เราเที่ยวด้วยกัน" ซึ่งประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และกำลังวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด จะได้รับสิทธิ์รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวให้ 40% ต่อคืน แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน สูงสุดจองได้ไม่เกิน 5 คืน รวมทั้งจะได้รับอี-เวาเชอร์ 600 บาทต่อคืน ผ่าน แอป "เป๋าตัง"
เมื่อประชาชนทั่วไปคลิกเว็บเพจ "เราเที่ยวด้วยกัน" ระบบก็จะเปิดให้มีการลงทะเบียนรับสิทธิ์ก่อน จากนั้นก็จะได้โค้ดมา เพื่อเข้าไปเลือกจองที่พัก ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 ล้านคืน (รูมไนท์) โดย 1 คน 1 สิทธิ์ และจองได้สูงสุดไม่เกิน 5 คืน ซึ่งระบบจะเชื่อมเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของโรงแรมที่ประชาชนเลือกจอง
เมื่อจองเสร็จก็จ่ายค่าที่พักให้โรงแรม 60% ด้วยบัตรเครดิต QR Code หรือ พร้อมเพย์ และรัฐบาลสนับสนุนจ่ายค่าห้องพักให้ 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน (รัฐจ่ายให้โรงแรมเมื่อนักท่องเที่ยวเช็คเอ้าท์) โดยการจองที่พักต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง
ถ้าใครจะจองซื้อตั๋วเครื่องบินด้วย ระบบก็จะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์จองตั๋วเครื่องบิน เพื่อรับโปรโมชั่น โค้ด รับสิทธิ์ที่รัฐจะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ไม่เกิน 1,000 บาท จากราคาตั๋วที่สายการบินเสนอราคาค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ราว 2,500 บาท (ไป-กลับ) ที่มีตั๋วทั้งหมดราว 2 ล้านใบ
หลังจากจบกระบวนการจองดังกล่าวนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนจองที่พัก จะได้ อี-วอลเชอร์ ผ่าน แอป "เป๋าตัง" จำนวน 600 บาทต่อคืน (สูงสุดไม่เกิน 5 คืน) เพื่อนำไปใช้เป็นค่าอาหาร ค่าใช้บริการในแหล่งท่องเที่ยว (ซึ่งในแต่ละร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว ที่ไปใช้บริการ นักท่องเที่ยวจ่าย 60% ของค่าใช้จ่ายจริง รัฐจ่าย 40%) โดยสามารถแสกนบาร์โค้ดชำระเงินผ่านสถานประกอบการที่ใช้ แอป "ถุงเงิน" ซึ่งนักท่องเที่ยวจะใช้ตั้งแต่วันที่เช็คอิน ถึงวันที่เช็คเอ้าท์ (23.59 น.) ใช้เงินไม่ครบ 600 บาทต่อคืนระบบจะยึดเงินคืน
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thairath.co.th และ www.thansettakij.com