เปรียบเทียบ 7 สินเชื่อส่วนบุคคล แบงก์ไหนปัง แบงก์ไหนแป้ก มาดูกัน!!
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ในภาพรวมของสินเชื่อจะเห็นได้ว่ามีสัญญาณการขยายตัวทั้งระบบมีทิศทางปรับดีขึ้น แนวโน้มขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จึงส่งผลทำให้ความต้องการใช้สินเชื่อยังมีต่อเนื่อง และกระจายไปในหลายกลุ่ม ส่งผลทำให้สถาบันการเงินหลายแห่ง มีการแข่งขันสูงขึ้น เพื่อจูงใจลูกค้าด้วยการจัดโปรโมชั่นหลากหลายแบบมาเสนอ เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ให้วงเงินสูง และแจกของสมนาคุณอีกมากมาย เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อดีของผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่จะได้เลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ดีที่สุด คุ้มที่สุด และเหมาะสมกับเราที่สุด วันนี้
CheckRaka.com ขอยกเอา
"สินเชื่อส่วนบุคคล" ของตัวอย่างธนาคารใหญ่ 7 ธนาคาร มาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ว่าที่ไหนปัง ที่ไหนแป้ก และควรคู่แก่การขอกู้เป็นอย่างยิ่ง แบบแบงก์ต่อแบงก์กันเลยค่ะ
7 แบงก์ 7 สินเชื่อส่วนบุคคล
จุดเด่น-จุดด้อย "สินเชื่อส่วนบุคคล" ของแต่ละธนาคาร
ธนาคาร | ผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | จุดด้อย |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
| สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash) | - ดอกเบี้ยต่ำ ตลอดอายุสัญญา นานถึง 12 เดือน
- ไม่ต้องผูกมัดบัญชี
| - อัตราดอกเบี้ยพิเศษมีระยะเวลากำหนดในช่วงโปรโมชั่นถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้
|
ธนาคารกสิกรไทย | สินเชื่อบุคคลกสิกรไทย (K-Personal Loan) | - ดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาในสัญญาสูงสุด 5 ปี
| - เงื่อนไขสำหรับดอกเบี้ยที่นำเสนอ จะต้องชำระสินเชื่อโดยหักบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น
|
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล | - สมัครวันนี้ รับกระเป๋าเดินทาง
| - เงื่อนไขรับฟรีกระเป๋าเมื่อขอสินเชื่อผ่านออนไลน์
- ต้องผูกบัญชีกับธนาคาร
|
ธนาคารทหารไทย | สินเชื่อบุคคล TMB Cash 2 Go | - สามารถลดดอกเบี้ยลง 3% ต่อปี จากดอกเบี้ยปกติ ได้ทุกเดือน
| - เงื่อนไขการลดดอกเบี้ยจะต้องใช้บัญชี (ที่กำหนด) อย่างน้อย 5 ครั้ง/เดือน และสมัครใช้บัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบี แคชทูโก
- ต้องมีประวัติการชำระเงินที่ดี ไม่เคยผิดนัดชำระเงิน
|
ธนาคารไทยพาณิชย์ | สินเชื่อส่วนบุคคล Speedy Loan | - อนุมัติ และโอนเงินเร็วภายใน 1 วันทำการ
| - เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะโอนเงินกู้เข้าบัญชีธนาคารที่ลูกค้าได้แจ้งความประสงค์ไว้
- 1 วันสำหรับบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ - 3 วันสำหรับบัญชีธนาคารอื่น |
ธนาคารซิตี้แบงก์ | สินเชื่อบุคคลซิตี้ | - อนุมัติเร็ว ทันใจ รับเงินทันที
| - เงื่อนไขรับเงินเร็ว เมื่อสมัครสินเชื่อผ่านออนไลน์เท่านั้น
|
ธนาคารกรุงไทย | สินเชื่อกรุงไทย Super Easy | - สามารถ Refinance หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อดอกเบี้ยสูงจากธนาคารอื่นได้
| - ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงกว่าธนาคารอื่น
- พนักงานประจำ ดอกเบี้ย 20% ต่อปี - เจ้าของกิจการ ดอกเบี้ย 22% ต่อปี |
หมายเหตุ : ควรศึกษารายละเอียดแต่ละผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจดำเนินการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล
สรุป "สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash)" ปังที่สุดในตลาดสินเชื่อตอนนี้
จากการเปรียบเทียบข้างต้น สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่ดอกเบี้ยน่าดึงดูดใจที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น
"สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช" ของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ที่นำเข้าเส้นชัยมาด้วยคุณสมบัติที่ผู้บริโภคต้องการหลายประการ ดังนี้
- มีอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 9% ต่อปี นานถึง 12 เดือน ซึ่งถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต แถมไม่ต้องผูกบัญชีกับธนาคาร
- จำนวนเงินผ่อนน้อย ทำให้จ่ายสบายแบบยาวนาน
- ได้รับวงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ประจำ หรือ 1.5 ล้านบาท
- เป็นสินเชื่อเงินสด (สินเชื่อส่วนบุคคล) ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน เพียงแค่เป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำเดือน 20,000 บาทขึ้นไป ก็กู้ได้แล้ว
- พร้อมช่องทางการรับชำระเงินที่หลากหลาย ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดสินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash)
สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช
สร้างแผนในอนาคตของคุณให้เป็นจริง ยอดผ่อนชำระเท่ากันทุกเดือน คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
โปรโมชั่นพิเศษ! ดอกเบี้ยดีต่อใจสำหรับยอดค้างบัตรเครดิต - ดอกเบี้ย 11.73% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา 15 เดือน
- ดอกเบี้ย 11.84% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา 24 เดือน
สำหรับพนักงานที่มีรายได้ประจำต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป
ตั้งแต่ 18 กันยายน - 31 ธันวาคม 2560
อัตราดอกเบี้ย
สิทธิพิเศษสำหรับ | ดอกเบี้ย |
พนักงานประจำรายได้ประจำต่อเดือน 20,000 บาท | ดอกเบี้ย 9% ต่อปี อายุสัญญาสูงสุด 12 เดือน |
พนักงานประจำรายได้ประจำต่อเดือน 20,000 บาท | ดอกเบี้ย 12% ต่อปี อายุสัญญาสูงสุด 24 เดือน |
พนักงานประจำรายได้ประจำต่อเดือน 30,000 บาท | ดอกเบี้ย 15% ต่อปี อายุสัญญาสูงสุด 36 เดือน |
พนักงานประจำรายได้ประจำเดือน 20,000 บาท | ดอกเบี้ย 18% ต่อปี อายุสัญญาสูงสุด 60 เดือน |
พนักงานประจำรายได้ประจำเดือน 10,000 บาท | อัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน 20% - 28% (ตามวงเงินอนุมัติ) |
เจ้าของกิจการ | ทุกอัตราดอกเบี้ย วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500,000 บาท |
เจ้าของกิจการ | ทุกอัตราดอกเบี้ย วงเงินสินเชื่อมากกว่า 500,000 บาท ขึ้นไป |
คุณสมบัติผู้สมัคร
พนักงานประจำ - อายุ 21 - 59 ปี (อายุรวมระยะเวลาผ่อนชำระ คือต้องไม่เกิน 60 ปี)
- รายได้ประจำเฉลี่ย 15,000 บาท/เดือนขึ้นไป
- อายุการทำงาน 6 เดือนขึ้นไป
ผู้ประกอบกิจการส่วนตัว/เจ้าของกิจการ - อายุ 21 - 59 ปี
- รายได้ประจำเฉลี่ย 30,000 บาท/เดือน
- ดำเนินธุรกิจปัจจุบัน 3 ปีขึ้นไป
เอกสารประกอบการสมัคร
หมายเหตุ : เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยมิได้ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2626-7777
ไม่รู้ไม่ได้...วิธีคิดดอกเบี้ยสินเชื่อเงินกู้
การคิดดอกเบี้ยสินเชื่อเงินกู้ในปัจจุบันจะมีด้วยกันอยู่ 2 วิธี คือ การคิดดอกเบี้ยสินเชื่อแบบคงที่ (Flat Rate) และการคิดดอกเบี้ยสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate)
การคิดดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Flat Rate)
การคิดคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ หรือ Flat Rate นี้ ส่วนมากใช้สำหรับการเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ โดยเริ่มคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นทั้งจำนวนและระยะเวลาในการผ่อนชำระทั้งหมด จากนั้นแบงก์จะนำดอกเบี้ยที่คำนวณได้มารวมกับเงินต้น แล้วหารด้วยจำนวนงวดที่จะผ่อนชำระ ซึ่งเงินที่ผ่อนชำระจะเท่ากันทุกงวด เช่นเดียวกับจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยที่จะคงที่ทุกๆ งวดด้วย
การคิดดอกเบี้ยเงินกู้แบบลดต้นลดดอก (Effective Rate)
การคิดคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้แบบลดต้นลดดอก หรือ Effective Rate เป็นการคำนวณที่จะใช้ในสินเชื่อเกือบทุกประเภท การคิดดอกเบี้ยวิธีนี้จะคิดทีละงวดจากฐานเงินต้นที่ทยอยลดลงตามการชำระหนี้ ซึ่งถ้าเราชำระหนี้ในแต่ละงวดเท่าๆ กัน ในอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม จะพบว่าเงินที่จ่ายไปในงวดแรกๆ ส่วนใหญ่จะถูกจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ย เนื่องจากจำนวนเงินต้นยังสูงอยู่นั่นเอง แต่เมื่อผ่อนไปสักระยะดอกเบี้ยจะค่อยๆ ลดลงตามจำนวนเงินต้นที่ค่อยๆ ลดลง แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นในภายหลัง สัดส่วนดอกเบี้ยต่อเงินที่ชำระในแต่ละงวดจะเพิ่มขึ้น ทำให้เงินที่จ่ายไปในแต่ละงวดอาจไม่พอตัดเงินต้นหรือตัดได้น้อย เพราะแบงก์จะนำไปตัดดอกเบี้ยก่อน ดังนั้น เราอาจจะต้องเพิ่มจำนวนเงินที่จ่ายในแต่ละงวดหรือเพิ่มจำนวนงวดผ่อนชำระ
หลายคนดูแล้วอาจจะเข้าใจว่า อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ถูกกว่าอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก แต่ในความจริงแล้วเมื่อคิดคำนวณการจ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) จะจ่ายมากกว่าการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเงินต้น และระยะเวลาเท่ากัน เพราะจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเป็นดอกเบี้ยสำหรับการคิดแบบคงที่จะไม่ลดลง ถึงแม้เราจะเหลือเงินต้นน้อยลงไปเรื่อยๆ ก็ตาม
เทคนิคคร่าวๆ ในการแปลงอัตราดอกเบี้ยจากแบบคงที่ เป็นแบบลดต้นลดดอก
จากกรณีที่เราเจอการนำเสนออัตราดอกเบี้ยแบบคงที่จากผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ แล้วเราอยากรู้ว่า ถ้าเทียบกับอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกจะเป็นเท่าไหร่ เราสามารถคิดแบบเร็วโดยใช้ค่าประมาณด้วยการนำ 1.8 คูณกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ เช่น อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2% ต่อปี จะคิดเป็นแบบลดต้นลดดอกได้เท่ากับ 3.6% ต่อปี (1.8 x 2 = 3.6%) โดยประมาณ หรือถ้าต้องการคิดในใจแบบเฉพาะหน้าก็ใช้ 2 คูณไปก่อนก็ได้ค่ะ
**การแปลงอัตราดอกเบี้ยจากเทคนิคนี้เป็นการคิดแบบคร่าวๆ พอให้เห็นภาพก่อนที่เราจะตัดสินใจขอกู้สินเชื่อตัวนั้น หากแบงก์เสนอดอกเบี้ยมาเป็นแบบคงที่ ซึ่งเราไม่ควรตัดสินใจเลือกเพราะเห็นว่าตัวเลขน้อยอย่างเดียว เราควรพิจารณาต่อด้วยว่าผลิตภัณฑ์สินเชื่อนั้นมีการคิดดอกเบี้ยแบบไหนด้วย จึงจะทำให้ได้ประโยชน์จากสินเชื่อที่เราเลือกกู้มากที่สุดค่ะ
จากการเปรียบเทียบภาพรวมของ "สินเชื่อส่วนบุคคล" ทั้ง 7 แบงก์ที่นำเสนอมานี้ ก็จะเห็นแล้วว่าผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่ดูน่าสนใจที่สุดคงจะหนีไม่พ้น
"สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash)" ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ที่นำเสนอจุดเด่นเรื่องดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ในระยะเวลาผ่อนเดียวกันกับแบงก์อื่น ซึ่งให้อยู่ที่
9% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา 12 เดือน ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ประจำ หรือสูงสุด 1,500,000 บาทสำหรับพนักงานประจำ คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก สะดวกรวดเร็วด้วยการโอนเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติเข้าบัญชีเงินฝากทันที นอกจากนั้น ยังสะดวก สบาย กับการชำระคืนได้หลากหลายช่องทางตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย