รีวิวหุ้น BYDCOM80 หุ้นรถ EV อันดับ 1 ของจีน ซื้อหุ้นในไทยได้ด้วย

icon 17 พ.ย. 65 icon 6,574
รีวิวหุ้น BYDCOM80 หุ้นรถ EV อันดับ 1 ของจีน ซื้อหุ้นในไทยได้ด้วย
BYD บริษัทยานยนต์ EV จากประเทศจีน ซื้อที่ดินจาก WHA กว่า 600 ไร่ เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถ EV แห่งใหม่ในอาเซียน คาดเริ่มผลิตปี 2024 การเปิดโรงงานแห่งใหม่ในต่างประเทศ สะท้อนชัดว่า BYD กำลังเร่งขยายตลาดไปทั่วโลก แม้ยานยนต์ EV จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่ BYD ยักษ์ใหญ่จากจีนรายนี้เป็นบริษัทที่เปิดมานานแล้ว ประกอบธุรกิจทั้งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รับจ้างประกอบ และผลิตแบตเตอรี่ให้บริษัททั้งใน และต่างประเทศ

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ BYD ทำธุรกิจอะไร ทำไมถึงมีความน่าสนใจ ถ้าสนใจซื้อหุ้น BYD จะซื้อได้ที่ไหน จุดเด่น และข้อควรระวัง รวมไปถึงทิศทางการเติบโตในอนาคต
 
BYD ทำธุรกิจอะไรบ้าง
 
BYD (Build Your Dreams Group) ก่อตั้งเมื่อปี 1995 เริ่มจากรับจ้างผลิตชิ้นส่วน และประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2003 BYD เข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2020 BYD เปิดตัวเทคโนโลยี Blade Battery ซึ่งปลอดภัย และติดไฟยากกว่าแบตเตอรี่รถ EV อื่น และใช้ในรถ EV รุ่น BYD Han ในปี 2021 ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัท EV จีนที่มียอดขายสูงสุด เข้าสู่ไตรมาสแรกของปี 2022 ก็ประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานฟอลซิล เดือนมิถุนายน ปี 2022 ประกาศว่าจะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ให้ Tesla ปัจจุบัน BYD บริหาร 3 ธุรกิจ ดังนี้
  • ยานยนต์
  • อุปกรณ์มือถือ และบริการประกอบชิ้นส่วน
  • แบตเตอรี่ และอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์
ปี 2019 รายได้จากยานยนต์ 48.9% อุปกรณ์มือถือ และบริการประกอบชิ้นส่วน 43.1% แบตเตอรี่ และอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์ 8%

ปี 2020 รายได้จากยานยนต์ 53.4% อุปกรณ์มือถือ และบริการประกอบชิ้นส่วน 38.7% แบตเตอรี่ และอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์ 7.6% อื่นๆ 0.3%

ปี 2021 รายได้จากยานยนต์ 51.9% อุปกรณ์มือถือ และบริการประกอบชิ้นส่วน 40.5% แบตเตอรี่ และอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์ 7.3% อื่นๆ 0.3%

ธุรกิจยานยนต์เน้นเจาะตลาดระดับกลางไปถึงสูง มีรถยนต์ 18 รุ่นทั้ง Plug-in hybrids และ Pure EV ส่วนธุรกิจอุปกรณ์มือถือ และบริการประกอบชิ้นส่วน มีลูกค้าเป็นแบรนด์อิเล้กทรอนิกส์ระดับโลก เช่น Apple, Huawei, Xiaomi ด้านแบตเตอรี่ และอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์นับว่า BYD เป็นผู้นำระดับโลกทั้งแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ EV

ความน่าสนใจ
 
BYD สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอื่นด้วยการบริหารจัดการ supply chain สามารถผลิตชิ้นส่วนได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำไม่ว่าจะเป็นชิป แบตเตอรี่ และรถยนต์ EV จึงรับผลกระทบน้อยกว่าคู่แข่งจากมาตรการปิดเมืองในประเทศจีน และปัญหา supply chian ที่ขาดแคลนชิปอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของรัฐบาลจีน

จุดเด่น-ข้อควรระวัง
 
ปี 2020 รายได้ 154,440 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 22.4% กำไรสุทธิ 4,230 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 162.27% ปี 2021 มีรายได้ 213,110 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 37.98% กำไรสุทธิ 3,050 ล้านหยวน ลดลง 28.08% เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่จะเห็นว่าบริษัทยังเติบโตสะท้อนผ่านรายได้ที่ยังเพิ่มขึ้น รายได้ย้อนหลัง 10 ปี และ 5 ปี เติบโตเฉลี่ย 16.9% ต่อปี และ 15.5% ต่อปี ตามลำดับ

อัตรากำไรสุทธิ ปี 2021 อยู่ที่ 4.04% ลดลงจากปี 2020 ที่ 7.83% แต่ยังโดดเด่นกว่าบริษัทยานยนต์ EV อื่นจากจีนที่ยังไม่มีกำไร เช่น Nio, Li Auto

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ไตรมาส 3 ปี 2022 อยู่ที่ 0.28 เท่า ลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2021 ซึ่งอยู่ที่ 0.48 เท่า โดยบริษัทที่ดีควรมี D/E Ratio ต่ำกว่า 1 เท่า

ก่อนหน้านี้ BYD มีรายได้จากประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน 85-90% แต่เมื่อปี 2020 ก็เร่งส่วนรายได้จากต่างประเทศมาที่ 38.5% และปี 2021 มาที่ 30.2% จากปี 2019 ที่อยู่เพียง 16% ส่วนยอดขายรถปี 2020 อยู่ที่ 426,972 คัน จากนั้นปี 2021 เพิ่มมาที่ 740,131 คัน และครึ่งแรกของปี 2022 ขายไปแล้ว 646,399 คัน

นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์ตลาดยานยนต์ EV อย่างใกล้ชิด เพราะมีการแข่งขันสูงมาก ไม่มีผู้นำชัดเจน ยังมีบริษัทยานยนต์ขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาแข่งขัน อีกทั้งต้องแก้ปัญหาชิปขาดแคลน

ผลตอบแทนที่ผ่านมา
 
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 4/11/2022 อยู่ที่ 4.51% ปี 2021 ทำผลตอบแทน 37.99% ส่วนปี 2020 ทำผลตอบแทน 307.59% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -7.53% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี สูงถึง 543.10%
นักลงทุนสามารถลงทุนหุ้น BYD ผ่านหลักทรัพย์ประเภท DR (Depositary Receipt) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ซื้อขายได้เหมือนหุ้น โดยมีชื่อว่า BYDCOM80 อ้างอิงหุ้นสามัญของบริษัท บีวายดี จำกัด ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เรียกได้ว่าเหมือนซื้อหุ้น BYD จากฮ่องกงในตลาดหุ้นไทย
 
เหมาะกับใคร
 
นักลงทุนที่มองเห็นโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ EV ต้องการลงทุนในบริษัทผู้นำในประเทศจีน และกำลังขยายตลาดไปทั่วโลก สามารถรับความเสี่ยงจากความคาดหวังของตลาดที่สูงรวมไปถึงการแข่งขันที่สูงเนื่องจากเป็นช่วงแรกของอุตสาหกรรม
 
การเติบโต และทิศทางในอนาคต
ระยะสั้น BYD ยังคงความเป็นผู้นำด้วยกลยุทธ์ที่วางมาดี บริหาร supply chain เหนือคู่แข่ง ยอดขายรถยนต์ทั้ง EV 100% และ plug-in EV ตลอด 9 เดือนแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้น 250% เติบโตมากกว่ายอดขายทั้งอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 110% อีกทั้งยังเห็นอำนาจต่อรองกับผู้บริโภคผ่านยอดขายที่ยังเติบโตแม้จะมีการเพิ่มราคาขายเพื่อลดแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ต่อจากนี้ต้องติดตามยอดขายหลังบางมาตรการอุดหนุนจากทางการจีนจะเริ่มครบอายุช่วงปลายปี 2022 ขณะที่มาตรการยกเว้นภาษีซื้อรถยนต์ EV ยังคงใช้ต่อไปถึงสิ้นปี 2023

BYD เป็นผู้นำด้านยานยนต์ EV ของจีน และโลก มีการวางกลยุทธ์ บริหาร supply chain อย่างดี อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตามแม้อนาคตจะสดใสขนาดไหนก็มีความไม่แน่นอนเสมอ นักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงในพอร์ต และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดนะครับsmiley
แท็กที่เกี่ยวข้อง MOTOR EXPO 2022 หุ้นรถยนต์ไฟฟ้า หุ้นรถยนต์ไฟฟ้า BYD บทความลงทุน 2565 หุ้นรถ EV หุ้น BYDCOM80
Economy Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Economy Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)