เมื่อช่วงที่ผ่านมามีเหรียญคริปโตตัวหนึ่งที่ขึ้นมาแรงมากๆ คือเหรียญ KUB ในเดือนตุลาคมเหรียญ KUB มีราคาต่ำสุดอยู่ที่ 24.50 บาท หลังจากนั้นในเดือนพฤศจิกายน เหรียญ KUB ขึ้นไปสูงสุดถึง 500 บาทต่อเหรียญ ถือเป็นผลตอบแทนมากกว่า 19 เด้ง หรือ 1,940% ภายในระยะเวลาประมาณ 2 เดือน เงินลงทุน 10,000 บาทที่ราคา 24.50 บาท จะกลายเป็นเงินอย่างน้อย 190,000 บาทในขณะที่ KUB มีราคา 500 บาท
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นราคาเหรียญ KUB ได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรง ลงมาราคาต่ำสุดที่ 150 บาท ถ้ามีใครซื้อไปที่ราคาสูงสุด 500 บาท ด้วยเงิน 10,000 บาท ตอน KUB ลงมาเหลือ 150 จะเหลือเงินเพียง 3,000 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าเป็นคนที่ซื้อมาตั้งแต่ช่วงราคาราวๆ 30 บาทยังถือว่าได้กำไรเยอะอยู่ดี
จะเห็นว่าการขึ้นลงของราคาเหรียญ KUB มีทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดี อยู่ที่เราจะมองมุมไหน บทความนี้จะขอตีแผ่ทั้ง 2 ด้าน และบทเรียนที่นักเทรดสามารถเรียนรู้ได้เพื่อให้ได้กำไรมากขึ้นในอนาคต และลดโอกาสขาดทุน
1. เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาของเหรียญมีการทำ All Time High หรือทำจุดสูงสุดใหม่ ต้องให้ความสำคัญให้มาก เพราะนั่นกำลังหมายความว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับพื้นฐานของเหรียญอย่างมีนัยยะ
ราคาสูงสุดของเหรียญ KUB อยู่ที่ 35 บาทในเดือนพฤษภาคมปี 2564 จากรูปจะเห็นว่าในช่วงปลายเดือนตุลาคมราคาเหรียญ KUB มีการขึ้นมาเทสจุดสูงสุดเดิม และหลังจากนั้นไม่นานก็ทำจุดสูงสุดใหม่ทะลุ 35 บาท และวิ่งรวดเดียวถึง 500 บาท
ในวันนั้นมีการประกาศว่า SCBX เข้าลงทุนใน Bitkub การลงทุนครั้งนี้ของ SCBX จะทำให้ Bitkub แข็งแกร่งขึ้นและเป็นผลให้ราคาของเหรียญ KUB ถูกแรงเก็งกำไรดันขึ้นไปในวันนั้น
2. การขึ้นที่รุนแรงของราคามักจะมีการปรับฐานเกิดขึ้นเสมอ จะเห็นว่าวันที่ราคา KUB วิ่งทะลุ 35 บาทไปสูงสุดที่ 100 บาทใน 1 วัน หลังจากนั้นมีการปรับฐานลงมาที่ราคาต่ำสุดที่ 56 บาท และอยู่ในช่วงราคา 56-70 บาทแบบนั้นประมาณ 2 อาทิตย์
ถ้ามีการติดตามราคาเหรียญการเข้าซื้อที่ราคา 56-70 บาทในช่วงหลัง แม้จะดูสูงกว่าราคาเดิมแต่ยังนับว่าราคายังมี Momentum เชิงบวกอยู่และถือเป็นโอกาสในการเข้าเก็บเหรียญสุดท้าย หลังจากนั้นไม่นานราคาเหรียญก็วิ่งต่อไปรวดเดียว 500 บาท
3. ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเหรียญ KUB มีการวิ่งขึ้นมาล่วงหน้าก่อนแล้วในวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ถ้าติดตามจะสามารถเห็นความผิดปกติได้แน่นอน ดังนั้นถ้ารักจะเทรดเหรียญต้องรู้จักติดตามราคา และสังเกตการเคลื่อนไหวของเหรียญให้ดี
4. ในวันที่ SCBX ประกาศลงทุนใน Bitkub และเหรียญมีการขึ้นอย่างรุนแรง Volume การเทรดมีการพุ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน ในมุมของการเทรด การที่ Volume มีการพุ่งขึ้นพร้อมๆ กับราคาเหรียญพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ถือเป็นการคอนเฟิร์มว่าขาขึ้นครั้งนี้ของจริง ขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และรุนแรง จะมาพร้อมกับวอลุ่มทุกครั้ง
5. ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2564 มีช่วงที่ Volume การเทรดของเหรียญ KUB พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเช่นกันแม้ไม่เท่า Volume ในเดือนตุลาคมตอนที่ SCBX เข้าลงทุนใน Bitkub แต่ก็ถือว่าเป็นวอลุ่มที่มีนัยยะมากๆ ซึ่งบ่งบอกว่ามีรายใหญ่เข้ามาเก็บเหรียญ KUB ด้วยเหตุผลบางอย่าง
6. หลังจากที่ KUB วิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 500 บาท เกิดการเทขายอย่างรุนแรง และเกิดรูปแบบกราฟที่ใกล้เคียงกับ Bearing Engulfing ซึ่งเป็นการบ่งบอกของโอกาสการจบขาขึ้นและเริ่มต้นของขาลง
7. อย่างไรก็ตามถ้าใช้ Technical Indicator อย่างอื่นเข้าช่วยเช่น Moving Average Exponential จะเห็นว่ายังไม่มีเส้น Moving Average Exponential เส้นไหนตัดลง นั่นหมายความว่าโอกาสที่การลงของ KUB ในครั้งนี้จะเป็นเพียงการปรับฐานที่รุนแรงเพื่อสะสมกำลังในการกลับขึ้นใหม่นั้น ยังมีโอกาสอยู่แม้จะเป็นโอกาสที่น้อยนิดก็ตาม
* Moving Average Exponential เป็น Technical Indicator ประเภทหนึ่งที่บ่งบอกแนวโน้มขึ้นหรือลงของเหรียญได้จากการตัดขึ้น/ลอง ของเส้น Moving Avearage การตัดขึ้นถือว่าเป็นสัญญาณบวก ในขณะที่การตัดลงเป็นสัญญาณลบ
8. อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ Market Cap หรือมูลค่าตลาด (วันที่ 4 ธันวาคม 2564) ของของเหรียญ KUB นั้นแค่เพียง 560 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 2 หมื่นล้านบาทไทยเท่านั้น ถ้าเทียบเป็นหุ้นถือว่าเป็นหุ้นขนาดเล็ก - กลาง ที่ราคาอาจได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเข้าซื้อ และเทขายของนักลงทุนรายใหญ่ สุดท้ายจึงเห็นเป็นการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง
9. ทั้งหมดนี้คือบทเรียนที่เรียน KUB ให้กับนักเทรดเพื่อเรียนรู้ ใช้ในการเทรดเหรียญอื่นๆในอนาคตได้ รวมถึงสามารถกะจังหวะในการขายที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน จำไว้ว่าการเทรดหุ้นหรือเหรียญเหมือนกับการรอรถที่ป้ายรถ ทุกๆ วัน ทุกๆ ชั่วโมง มีเหรียญที่พร้อมจะราคาพุ่งขึ้น และลงอย่างรุนแรงได้เสมอ สุดท้ายอยู่ที่นักเทรดมีประสบการณ์ และความรู้มาเพียงพอหรือไม่ที่จะสามารถจับทาง และเข้าซื้อ และขายได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
การขึ้นลงของราคาเหรียญไม่มีความแน่นอนเพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่สิ่งที่แน่นอนคือถ้าเรารู้จักศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในวันนี้ โอกาสที่เราจะมีโอกาสได้กำไรเยอะๆ ในระยะเวลาอันสั้นนั้นมีมากขึ้นแน่นอน
10 ม.ค. 65
2,117
0-2740-7400
